ผงะเหยื่อยังมีเพิ่มอีก4 โดนหลอกขายไอโฟน
จับแล้วสาวบัญชีม้า แก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกขายไอโฟน 13 ทำน้องพลอยนักเรียนหญิง ม.6 ผูกคอตาย ตร.ไซเบอร์ ประสานตร.ชัยภูมิ หิ้วตัวเข้ากรุง เจ้าตัวยันไม่เกี่ยวข้อง อ้างเคยส่งเอกสารสมัครงานไปหลายที่ ด้านเจ้าของร้านมือถือที่นครสวรรค์แจ้งความ ถูกเอารูปร้านไปใช้หลอกน้องพลอย ผบช.สอท. เผยเตรียมออกหมายจับ 5 คน พบแก๊งคอลฯ แสบกดเงินจากตู้เอทีเอ็ม ในปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง พื้นที่ อ.แม่สาย ห่างจากชายแดนเพียง 3 ก.ม. ก่อนที่ตำรวจจะอายัดบัญชี ล่าสุดพบเหยื่อเพิ่มอีก 4 ราย เป็นเยาวชนในกทม. 3 ราย อีก 1 รายอยู่ที่นครศรีธรรมราช
เมื่อวันที่ 18 ต.ค. พล.ต.ท.ธนา ชูวงศ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. เปิดเผยความคืบหน้าคดี น้องพลอย นักเรียนหญิงชั้น ม.6 โรงเรียนปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช ผูกคอลาโลกในห้องนอนบ้านพัก เมื่อวันที่ 15 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยเจ้าตัวแช็ตลาเพื่อน พร้อมเขียนจดหมายถึงมารดาระบุว่า ถูกแก๊งมิจฉาชีพหลอกให้ผ่อนโทรศัพท์มือถือไอโฟน 13 จนสูญเงินเกือบ 2 หมื่นบาท ว่า ทางพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ห่วงใยในเรื่องที่เกิดขึ้นโดยเฉพาะกับเด็ก จึงมอบหมายให้มาประสานกับกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) รับโอนคดีมาเนื่องจากเป็นหน่วยที่มีความพร้อม และจะเร่งรัดคดีเพื่อให้ความเป็นธรรมกับน้องผู้เสียชีวิต ฝากพี่น้องประชาชนทางท่านผบ.ตร. มีความห่วงในทุกคดีที่เกิดขึ้นและเน้นย้ำให้ทำคดีด้วยความโปร่งใสชัดเจนที่สุด
ด้าน พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒนครบัญชา ผบช.สอท. เปิดเผยว่า เรื่องแรกต้องขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของน้องที่ต้องสูญเสียลูกสาวไป อันนี้เป็นเรื่องที่สะเทือนใจ เป็นอย่างมากในส่วนนี้ผู้บัญชาการตำรวจ แห่งชาติ ได้สั่งการให้สอท. เร่งรัดดำเนินการ ซึ่งทาง สอท.ได้ประสานไปยังท้องที่สภ.เกาะทวด ให้โอนคดีมาที่ สอท. แต่อย่างไรก็ตามทางสอท.ได้ส่งทีมลงไปสนับสนุนข้อมูลกับท้องที่ตั้งแต่เมื่อวานนี้ โดยมีการตั้งวอร์รูม ร่วมกับ สภ.เกาะทวด เพื่อหาผู้กระทำผิดมาลงโทษ เบื้องต้นได้มีการดำเนินการไปแล้ว 3 ส่วน ส่วนที่ 1 ตอนนี้ได้ข้อมูลเส้นทางการเงินทั้งหมดแล้ว ส่วนที่ 2 การขอข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก ซึ่งได้ข้อมูลมาแล้ว ส่วนที่ 3 การขอข้อมูลจากเครือข่ายโทรศัพท์เพื่อระบุตัวตนของเจ้าของเพจที่แท้จริง ทั้งนี้หลังจากทาง สอท.ได้รับโอนคดีมา ส่วนแรกได้สั่งการให้ พล.ต.ต.ชรินทร์ โกพัฒน์ตา ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 5 เร่งรัดในการขอออกหมายจับให้ได้ภายในวันนี้ คดีมีความคืบหน้าไปมากเหลือเพียงตรวจสอบแหล่งที่อยู่ IP address ของผู้ก่อเหตุ ซึ่งหากรับโอนคดีวันนี้เสร็จ ก็จะสั่งชุดทำคดีออกหมายจับบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดในครั้งนี้ได้ทันที และเร่งติดตามจับตัวโดยเร็วที่สุด ภายใน 2 วันนี้
“ขบวนการนี้เป็นในเรื่องของการหลอกลวงขายของทางออนไลน์ ฝากไปยังน้องๆ ถ้าถูกหลอกไปอาจจะเกิดความเครียดความเสียใจแล้วไม่มีทางออก จริงๆ ก่อนที่จะตัดสินใจอะไรลงไปให้เดินทางมาปรึกษาหารือกับทางตำรวจ สอท.ก่อน เพื่อหาแนวทางในการแก้ไขปัญหา ทาง สอท.ก็จะพยายามทำให้สุดกำลังความสามารถที่มี” ผบช.สอท.กล่าว
สอบบัญชีม้า – พล.ต.ต.ชรินทร์ โกพัฒน์ตา ผบก.สอท. 5 สอบปากคำสาวเจ้าของบัญชีม้า หลังตำรวจไซเบอร์ตามไปควบคุมตัวจากจ.ชัยภูมิ มาสอบปากคำในคดีนักเรียนหญิงม.6 ฆ่าตัวหลังถูกแก๊งคอลฯ หลอกโอนเงิน ที่บก.สอท. 5 เมื่อวันที่ 18 ต.ค.
วันเดียวกัน ที่บ้านหนองเชียงรอดใต้ หมู่ที่ 5 ต.ทุ่งลุยลาย อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านของน.ส.ดอกแก้ว แก้วเจิม อายุ 23 ปี เจ้าของบัญชีม้าที่น้องพลอยโอนเงินไปให้ พบว่าครอบครัวพ่อแม่และเจ้าตัวไม่อยู่บ้าน มีเพียงป้าที่อยู่ข้างบ้านเล่าว่า ก่อนหน้านี้ 2-3 วันหลานมาเอาเอกสารไปทำเกี่ยวกับเกม ตนเตือนไม่อยากให้ทำพร้อมให้ลบออกจากโทรศัพท์ หลังจากนั้นหลานก็ลบออกไปไม่รู้ว่าจะถูกนำไปใช้เปิดบัญชีม้า
ต่อมาเวลา 11.20 น. พ.ต.อ.พงศ์สุข คงปัญโญ ผกก.สภ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ เชิญตัวน.ส.ดอกแก้ว เจ้าของบัญชีม้ามาสอบสวนพร้อมกับตำรวจไซเบอร์ ก่อนเตรียมนำตัวไปสอบสวนอย่างละเอียดที่ บช.สอท. เบื้องต้นเจ้าตัวเล่าว่าไม่ทราบเกี่ยวกับบัญชีหรือบัตรประชาชนที่หลุดออกไปเนื่องจากไปสมัครงานในหลายพื้นที่แต่ไม่ทำงาน ยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง พร้อมยังกล่าวอีกว่าตนทำงานกรีดยาง ไม่เคยขายของออนไลน์แต่อย่างไร
ด้านแม่ของน.ส.ดอกแก้วเล่าว่า ลูกสาวทำงานอยู่ที่ไร่กรีดยางอยู่ตลอดเวลาไม่เคยไปยุ่งเกี่ยวและไม่เคยเกี่ยวข้อง อีกทั้งยังไม่เคยได้ไปเปิดบัญชีที่ธนาคารดังกล่าวซึ่งตนก็ไม่รู้จักด้วยซ้ำว่าเป็นบัญชีธนาคารอะไร ฝากให้ เจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อมูลอย่างละเอียดเพื่อขอความเป็นธรรมให้กับลูกสาวตนด้วย
คดีม.6 ฆ่าตัว – ตำรวจไซเบอร์ติดตามคดีนักเรียนหญิงม.6 ฆ่าตัวหลังถูกแก๊งคอลฯ หลอกโอนเงิน โดยนำตัวสาวเจ้าของบัญชีม้าจากจ.ชัยภูมิ มาสอบ เบื้องต้นปฏิเสธไม่รู้ใครไปเปิดบัญชี ขณะที่น.ส.ธัญญาลักษณ์ แสนคำ อายุ 27 ปี เจ้าของร้าน Family phone ที่นครสวรรค์ เข้าแจ้งความถูกนำรูปร้านไปตัดต่อหลอกเด็กม.6 เมื่อวันที่ 18 ต.ค.
ส่วนที่ จ.นครสวรรค์ น.ส.ธัญญาลักษณ์ แสนคำ อายุ 27 ปี เจ้าของร้านขายมือถือนำหลักฐานเดินทางมายังโรงพัก สภ.เมืองนครสวรรค์ เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจและแจ้งความเอาผิดกับมิจฉาชีพที่เอารูปร้านไปปลอมแปลงเปลี่ยนชื่อใช้หลอกลวงน้องพลอย น.ส.ธัญญาลักษณ์ยืนยันว่า ทางร้านไม่ได้มีส่วนไปเกี่ยวข้องกับเหตุสลดที่เกิดขึ้นใน จ.นครศรีธรรมราช พร้อมกับยื่นภาพถ่ายหลักฐาน ทั้งรูปหน้าร้าน และเพจเฟซบุ๊กของร้านตัวจริง และเพจเฟซบุ๊กปลอมที่มิจฉาชีพเอารูปร้านไปปลอมแปลง ก่อนเปิดเผยว่า ตอนนี้ทางร้านกำลังได้รับผลกระทบอยู่พอสมควร เนื่องจากตั้งแต่มีข่าวสลดก็มีโทรศัพท์โทร.เข้ามาสอบถามกับทางร้านเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะเมื่อวานนี้ ตนต้องรับสายแทบไหม้ และต้องคอยอธิบายความจริงเกือบแทบจะทุกสาย ส่วนตัวตอนแรกก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าถูกมิจฉาชีพเอารูปร้านไปปลอมแปลง จนกระทั่งมีคนมาสอบถามและได้ดูข่าว รู้สึกเสียใจและเสียดายน้อง ม.6 คนนั้นเป็นอย่างมาก
“หนูยืนยันเลยนะ ร้านหนูไม่มีส่วนไปเกี่ยวข้องอะไรกับแก๊งมิจฉาชีพนี้เลย หนูแจ้งความกับตำรวจเพื่อให้เอาผิดกับแก๊งมิจฉาชีพแก๊งนี้ ที่ทำให้ร้านของหนูเสียหายแล้ว และก็อยากให้ตำรวจจับกุมคนร้ายแก๊งนี้ให้ได้โดยเร็ว เพราะหนูเสียใจกับเรื่องของน้อง ม.6 เขามาก และสงสารครอบครัวเขาที่ต้องมาสูญเสียลูกไป” น.ส.ธัญญาลักษณ์ ระบุ พร้อมกับกล่าวว่า ร้านของตนเป็นศูนย์จำหน่ายโทรศัพท์มือถือและเป็นศูนย์ซ่อม เฉพาะของยี่ห้อไอโฟนโดยตรง ไม่จำหน่ายและซ่อมเครื่องของยี่ห้ออื่น ซึ่งก็มีจำหน่ายแบบให้ผ่อนกับทางร้านด้วยเช่นกัน แต่ก็ต้องเป็นผู้ที่มีอายุเกิน 18 ปีเท่านั้นนะ และก็ต้องมาติดต่อขอซื้อผ่อนกันที่ร้านโดยตรงเท่านั้น จ่ายเงิน ก็ต้องมาจ่ายกันที่ร้าน ไม่มีการพูดคุยกันผ่านออนไลน์แล้วให้ โอนเงินเด็ดขาด ซึ่งถ้าหากจะต้องมีการโอนเงินกันจริง บัญชีของร้าน ก็จะเป็นบัญชีธนาคารชื่อร้านเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
ต่อมาที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) (เมืองทองธานี) พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างนำตัวน.ส.ดอกแก้ว 1 ในบัญชีม้า รับเงินจากนักเรียนหญิง ม.6 ที่ถูกหลอกโอนเงินผ่อนไอโฟน ผ่านเพจ เฟซบุ๊ก มาสอบสวนเพิ่มเติมส่วนบัญชีม้า แถวอื่นๆ และแอดมินเพจเจ้าของเฟซบุ๊ก ทางตำรวจไซเบอร์ได้ข้อมูลการเปิดบัญชีเฟซบุ๊ก จากบริษัทมาแล้ว รวมกับหลักฐานอื่นๆ ทั้งกล้องวงจรปิดและเส้นทางการเงินคาดว่าวันนี้จะสามารถออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการทั้งหมด 5 คน (รวมน.ส.ดอกแก้ว) ในข้อหา “ฉ้อโกงประชาชน” ส่วนการติดตามตัว แอดมินเพจเฟซบุ๊ก อยู่ระหว่างรอข้อมูลความเคลื่อนไหวจากเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ เพิ่มเติมข้อมูลการสืบสวนยังพบว่า กลุ่มขบวนการดังกล่าวเปิดบัญชีม้า 4 แถว โดยแถวแรกอยู่ที่จ.ชัยภูมิ คือน.ส.ดอกแก้ว อีก 3 แถวอยู่ในพื้นที่ จ.เชียงราย อยู่ระหว่างสืบสวนดำเนินการ ยังมีรายงานเพิ่มเติมอีกว่า ยอดเงินบางส่วนที่รับจากนักเรียนหญิง ยังอยู่กับปลายแถวที่ 4 และบางส่วนถูกกดออกไปแล้ว บริเวณปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง พื้นที่ อ.แม่สาย ห่างจากชายแดนเพียง 3 กิโลเมตร ก่อนที่ตำรวจจะอายัดบัญชี
ต่อมาเวลา 19.00 น. ตำรวจควบคุมตัวน.ส.ดอกแก้ว แก้วเจิม มาถึงบช.สอท. พร้อมกับมารดา โดยทั้งคู่มีสีหน้าเคร่งเครียดและร้องไห้เมื่อสื่อมวลชนถามว่า ได้คุยแช็ต กับน้องนักเรียนหรือไม่ น.ส.ดอกแก้วปฏิเสธที่จะตอบคำถามต่อสื่อมวลชน
ด้านพล.ต.ต.ชรินทร์ โกพัฒน์ตา ผบก.สอท.5 พร้อมนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่อีก 5 นาย เข้าสอบปากคำน.ส.ดอกแก้วทันทีเพื่อขยายผลไปยังเครือข่ายแก๊งตุ๋นเหยื่อออนไลน์ขบวนการนี้ซึ่งจากแนวทางการสืบสวนเบื้องต้นคาดว่าคนร้ายที่ร่วมขบวนการมีมากกว่า 5 คน
รายงานข่าวแจ้งว่าจากการตรวจสอบบัญชีของ น.ส.ดอกแก้วยังมีการรับโอนเงินจากเยาวชนอีก 4 ราย เป็นเยาวชน ในพื้นที่กรุงเทพ 3 รายและนครศรีธรรมราช 1 ราย โดยทั้งหมดถูกหลอกขายโทรศัพท์ไอโฟนเช่นเดียวกัน
พล.ต.ต.ชรินทร์ เปิดเผยหลังสอบสวนว่า จากการสอบปากคำ น.ส.ดอกแก้ว ให้การว่าไม่ได้เปิดบัญชีด้วยตัวเอง แต่มีคนมาถามว่าอยากมีรายได้ไหม และจ้างให้เปิดบัญชีให้ทางออนไลน์ โดยมีค่าจ้าง 300 บาท เจ้าตัวตอบตกลงและทำตามแต่ยังไม่ได้รับเงิน ค่าจ้างดังกล่าว ในส่วนของเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบจากบัญชีแล้วไม่มีเงินจำนวนดังกล่าวถูกโอนเข้า แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่ตัดใจเชื่อ เพราะจากการตรวจสอบพบบัญชีของน.ส.ดอกแก้ว ถึง 3 บัญชี ซึ่งต้องขยายผลต่อ ทั้งนี้จากการตรวจสอบบัญชีม้าของ น.ส.ดอกแก้วพบว่า นอกจากจะมีเส้นทางการเงินของผู้เสียชีวิตแล้ว ยังมีเงินที่ถูกโอนเข้ามามีความเชื่อมโยงกับเหยื่ออีก 4 เคส ที่อยู่ในพื้นที่ ห้วยขวาง, หัวหมาก, บุคคโล และที่จังหวัดนครศรี ธรรมราช เชื่อว่าเป็นบัญชีที่ใช้ไว้ในการ กระทำความผิด ซึ่งจะต้องสอบสวนต่อ
พล.ต.ต.ชรินทร์เปิดเผยอีกว่า ประวัติ ต้องคดีอาญาของน.ส.ดอกแก้ว ตรงนี้ต้องขอให้พนักงานสอบสวนได้ตรวจสอบอย่างละเอียดเสียก่อน ส่วนความผิดขณะนี้อยู่ในระหว่างพิจารณาว่ามีความผิดในด้านใดบ้าง แต่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกระบวนการฉ้อโกงคดีนี้อย่างแน่นอน ตอนนี้ได้ออกหมายจับบุคคลอีก 3 ราย อยู่ในแถวที่ 4 ของแก๊งบัญชีม้าที่อยู่ในจังหวัดเชียงราย ในข้อหาฉ้อโกงและพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ซึ่งอยู่ในระหว่างติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
