ฝ่ายปค.บุก-ยาเกลื่อนพื้น ฉี่ม่วงกว่า2ร้อยคน-เด็ก5
ฝ่ายปกครองบุกหทัยราษฎร์ จับผับดังลำลูกกาปล่อยเยาวชนมั่วสุมยัน 6 โมงเช้า ให้การ์ดพกปืนทำตัวมาเฟีย อธิบดีปค.นำชุดปฏิบัติการราชสีห์จู่โจมด้วยตัวเองหลังรับร้องเรียนเรื่องฉาว ตะลึงยาเสพติดเกลื่อนพื้น ตรวจพบฉี่ม่วงกว่า 200 คน ร้านไม่มีใบอนุญาต ชงผู้ว่าฯสั่งปิดยาว 5 ปี มท.1 ประกาศกร้าวพร้อมลุยมาเฟีย ปราบอิทธิพล จัดระเบียบสังคม
เมื่อเวลา 01.45 น. วันที่ 22 ต.ค. นาย อรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการปกครอง พร้อมด้วย นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ ผู้ตรวจราชการกรมการปกครอง ปฏิบัติ หน้าที่ผอ.ศูนย์ปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมาย พนักงานฝ่ายปกครอง สำนักสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย, ว่าที่ร.ต.อากาศ ปานแย้ม ผู้เชี่ยวชาญสำนักงาน ป.ป.ส. ภาค 1, เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.ภ.1 และกำลังชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง สมาชิกกองอาสารักษาดินแดนกว่า 50 นาย บุกจับร้านเหล้าชื่อ MEM EXCLUSIVE CLUB ถนนหทัยราษฎร์ ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี
โดยปฏิบัติการตรวจค้นและจับกุมผับย่านหทัยราษฎร์-สายไหม อ.ลำลูกกา ครั้งนี้ สืบเนื่องจากประชาชนในพื้นที่ร้องเรียนผ่านศูนย์ดำรงธรรม กระทรวงมหาดไทย ว่า มีสถานบริการปล่อยเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี เข้าใช้บริการ ปล่อยให้ใช้ยาเสพติดและจำหน่ายยาเสพติดภายในร้าน อีกทั้งการ์ดของร้านมีพฤติการณ์พกอาวุธปืน อ้างอิทธิพลคนในพื้นที่ ทั้งยังปล่อยนักเที่ยวบางคนพกพาอาวุธปืน และเปิดให้บริการเกินเวลาที่กฎหมายกำหนด โดยเปิดถึง 6 โมงเช้า นอกจากนี้ยังเคยมีประวัติเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี เข้าไปเที่ยวเมาและขับรถตกทางด่วนเสียชีวิต และมีข่าวยิงกันตายภายในร้าน แต่ร้านยังคงเปิดตามปกติ จึงขอให้หน่วยงานรัฐเข้าตรวจสอบจับพนักงานฝ่ายปกครองเข้าสืบสวนข้อเท็จจริง พบว่ามีการกระทำผิดจริงตามข้อร้องเรียน
ทันทีที่ชุดปฏิบัติการพิเศษฯ บุกเข้าจับกุม พบว่าภายในผับเป็นห้องทึบ เปิดเพลงเสียงดังสนั่นพร้อมแสงไฟเลเซอร์ วิบวับ โดยมีนักเที่ยวกว่า 300 คน กำลังมั่วสุมดื่มกินเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และเต้นตามจังหวะเสียงดนตรีอย่างเมามัน ทั้งยังสูบบุหรี่พ่นควันคละคลุ้ง พนักงานฝ่ายปกครองจึงสั่งปิดเพลงพร้อมเปิดไฟให้แสงสว่าง ภายในผับจึงเกิดความโกลาหล นักเที่ยวหลายคนต่างโยนยาเสพติดทิ้ง และพยายามหลบหนีออกทางประตูหน้าและหลังร้าน แต่ชุดจับกุมปิดล้อมประตูไว้ทุกด้าน ทำให้นักเที่ยวไม่สามารถหนีออกไปได้
บุกผับ – เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและป.ป.ส.เข้าตรวจค้น MEM EXCLUSIVE CLUB ถนนหทัยราษฎร์ อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี เปิดบริการยันเช้า พบนักเที่ยวกว่า 300 คน ปัสสาวะสีม่วง 236 คน แจ้งดำเนินคดี 5 ข้อหา เมื่อวันที่ 22 ต.ค.
จากการเข้าตรวจสอบ “MEM Exclusive Club” หรือ MEM PUB ไม่พบใบอนุญาตให้ตั้งสถานบริการ ที่สำคัญยังปล่อยปละละเลยให้ใช้สารเสพติดภายในร้าน โดยพบตกกระจายเกลื่อนพื้น ลักษณะเป็นผงสีขาว ตรวจสอบเบื้องต้นเป็นยาเคตามีน ขณะที่ นักเที่ยวกว่า 300 คนที่พบนั้นมีทั้งอายุ ต่ำกว่า 20 ปี และไม่พกบัตรประชาชนอีกจำนวนหนึ่ง
จากนั้นนำตัวนักเที่ยวทั้งหมดตรวจปัสสาวะเพื่อหาสารเสพติดในร่างกาย เบื้องต้นตรวจสอบ 281 คน พบปัสสาวะสีม่วงถึง 236 คน พนักงานฝ่ายปกครองจึงจับกุมเจ้าของร้าน ผู้ดูแล และผู้ที่เกี่ยวข้อง พร้อมแจ้งโทษฐานความผิด 1.ฝ่าฝืนคำสั่ง คสช.โดยเปิดสถานบริการภายในระยะเวลา 5 ปี นับแต่วันที่มีคำสั่งปิด 5 ปี 2.เปิดสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต 3.ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แก่ผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ 4.ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในเวลาห้ามขาย และ 5.ยุยงส่งเสริมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควร ขณะที่นักเที่ยวที่มีปัสสาวะสีม่วงนั้น เจ้าหน้าที่ป.ป.ส.นำเข้ากระบวนการตามกฎหมายต่อไป
Advertisement
นายอรรษิษฐ์กล่าวว่า สถานบันเทิง แห่งนี้ฝ่าฝืนกฎหมายโดยชัดแจ้ง ทั้งการไม่มีใบอนุญาตตั้งสถานบริการ ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เกินเวลา ปล่อยปละละเลยให้มีการขายและเสพยาเสพติดภายในร้าน ถือเป็นการจงใจฝ่าฝืนกฎหมาย ดังนั้นจะ สั่งการให้ อ.ลำลูกกา รายงานเสนอผู้ว่าฯปทุมธานี มีคำสั่งปิด 5 ปี ตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 22/2558
ด้านนายรณรงค์ ทิพย์ศิริ ผู้ตรวจราชการกรมการปกครอง กล่าวว่า ประชาชนร้องเรียนปัญหาของผับแห่งนี้ โดยเฉพาะเรื่องยาเสพติด เรามาตรวจสอบโดยร่วมบูรณาการกับเจ้าหน้าที่ป.ป.ส.ภาค 1 ก็พบว่าจริง ซึ่งสายของเราเมื่อเข้ามาก็เห็นว่าแรกๆ จะเสพกันในห้องน้ำ เมื่อดึกมากก็จะเสพกันที่โต๊ะเลย เราตรวจยึดยาเสพติดได้เยอะมาก ทั้งยาไอซ์ เคตามีน และแฮปปี้วอเตอร์ ซึ่งป.ป.ส.แจ้งว่าแฮปปี้วอเตอร์นั้นอันตรายมาก เพราะมีตัวยาเสพติดหลายชนิดผสมอยู่ ทั้งยังกระตุ้นประสาท สำหรับสถานบันเทิงแห่งนี้เปิดมานานแล้ว เคยมีข่าวเรื่องยิงกันเสียชีวิต นอกจากนี้ยังพบอาวุธปืนแบลงก์กันและเครื่องกระสุนที่การ์ดของร้านพกติดตัวด้วย
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ว่า การเข้มงวดกวดขันที่เกิดขึ้นเป็นไปตามนโยบายของกระทรวงมหาดไทยที่ต้องการเข้ามาจัดระเบียบสังคม เพื่อความปลอดภัย ผาสุกของพี่น้องประชาชน ระหว่างการจับกุมมีการอ้างเรื่องได้รับการคุ้มครองจากผู้มีอิทธิพลด้วย แต่จะบอกว่าไม่มีใครใหญ่กว่ากฎหมาย และต้องชื่นชมเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในการ ร่วมมือกันทำภารกิจนี้ แสดงออกว่าเราจะไม่ปล่อยให้ผู้กระทำความผิดลอยนวลอีก ต่อไป และหวังจะสร้างสังคมที่มีความมั่นคง สงบสุข และปลอดภัย
วันเดียวกัน เฟซบุ๊กส่วนตัวของนายอนุทิน ปรากฏข้อความว่า “มท.ยุคนี้ขอให้เป็นยุคที่ไม่มี Gun และ Gun นะคร้าบ”
ต่อมาเวลา 14.30 น. ที่ว่าการอำเภอลำลูกกา จ.ปทุมธานี นายภาสกร บุญญ ลักษม์ ผู้ว่าฯ ปทุมธานี พร้อมด้วย นายสมชาย ตรีนาวง นายอำเภอลำลูกกา, พ.ต.อ.ธรรมนูญ เชาวะวนิชย์ รอง.ผบก.ภจว.ปทุมธานี รรท.ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี, พ.ต.อ.วงกต สุวรรณวัฒน์ ผกก.สภ.คูคต, พ.ต.ท.จิรพัฒน์ ศรีเดช รองผกก.ป.สภ.คูคต และ พ.ต.ท.ภัทระ เหล่ามีผล สว.สส.สภ.คูคต เร่งรัดประชุมคดีที่กรมการปกครองบุกจับสถานบันเทิง แล้วมีทั้งเยาวชน อาวุธปืน และยาเสพติดจำนวนมาก เพื่อให้ดำเนินคดีให้ เร็วที่สุด พร้อมเตรียมสั่งปิด 5 ปี
นายภาสกรกล่าวว่า ลงมาติดตามความคืบหน้าหลังจากที่ชุดเฉพาะกิจกรมการปกครองนำกำลังบุกจับผับ MEM ขณะที่นายอนุทินสั่งการให้ตรวจและขยายผลเรื่องยาเสพติด รวมถึงปืนแบลงก์กันที่ยึดมาได้จากการ์ดของร้าน ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าเป็นปืนดัดแปลงขนาด .380 และสามารถใช้ได้จริง ลูกกระสุนปืนแบลงก์กัน 1 นัด กระสุน .380 จำนวน 4 นัด จึงสั่งการให้ทางอำเภอ และตำรวจแยกกันทำคดี เกี่ยวกับการเปิดสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต การปล่อยปละละเลยให้เยาวชนเข้ามาใช้บริการ และคดีอาวุธปืน และทำการสั่งฟ้องไปตามลำดับ โดยทางอำเภอต้องรวบรวมหลักฐานส่งให้จังหวัดเพื่อพิจารณาสั่งปิดสถานบริการแห่งนี้ 5 ปี และให้เจ้าของสถานบริการมาชี้แจงในเวลา 7 วัน ก่อนสั่งปิดบริการ ส่วนการขยายผลเรื่องยาเสพติดมอบหมายให้รอง ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี ร่วมกับ ป.ป.ส.ภาค 1 ตรวจสอบผู้เสพถึงแหล่งที่มาของสารเสพติด ซึ่งอาจมีจำหน่ายในสถานบริการแห่งนี้ด้วย ส่วนอาวุธปืนแบลงก์กันนั้นเป็นสิ่งเทียมอาวุธปืนอยู่แล้ว โดยให้ตำรวจเร่งสืบสวนหาแหล่งผลิต และขยายผลอย่างเร่งด่วน
