พิพัฒน์จัดหางาน-ใน5ปท.

วอนแรงงานไทยในอิสราเอล อีก 21,053 คนกลับไทย รมว.แรงงานเสนอทำงานต่อใน 5 ประเทศ เกาหลี ญี่ปุ่น ไต้หวัน ออสเตรเลีย กรีก ส่วนอิสราเอลหากสงครามสงบพร้อมสนับสนุนให้ทำงานต่อ ปลัดแรงงานแนะแรงงานไทยซื้อตั๋วเครื่องบินพาณิชย์ ยันขอเบิกเงินได้ ด้าน สธ.เผยผลคัดกรองพบมีกระทบทางจิตใจ 561 ราย

เมื่อวันที่ 5 พ.ย. นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน เปิดเผยความคืบหน้าการช่วยเหลือแรงงานไทยในอิสราเอล ว่า หลังเกิดสงครามระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสที่ยังไม่มี แนวโน้มคลายตัวลง ขณะนี้มีแรงงานชาวไทยเดินทางกลับมา เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงของสงครามแล้วเกือบ 10,000 คน เหลือตกค้างทำงานในอิสราเอลอีกประมาณ 20,000 กว่าคนที่ยังไม่เดินทางกลับมา ซึ่งหากแรงงานในกลุ่มนี้ต้องการเดินทางกลับไทย ก็พร้อมให้ความช่วยเหลือทันทีในช่วงที่เกิดภาวะสงครามแบบนี้

นายพิพัฒน์กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ได้รับรายงานว่าในบางพื้นที่ของอิสราเอลไม่ถูกโจมตี อาทิ พื้นที่ทะเลทราย มีประชาชนอยู่อาศัยไม่มากนัก ทำให้ยังมีแรงงานไทยตัดสินใจอยู่ทำงานต่อ หรือแม้แต่พื้นที่ สีแดง ยังมีแรงงานไทยกลับเข้าไปทำงานแล้วประมาณ 100 คน เนื่องจากได้รับความดูแลจากกองทัพของอิสราเอล รวมถึงนายจ้างที่เสนอค่าตอบแทนที่สูงกว่าภาวะปกติมาก อยู่ประมาณ 7-8 หมื่นบาท จากเดิมอยู่ประมาณ 5 หมื่นบาท

ส่วนเรื่องของความช่วยเหลือ หากแรงงานไทยที่กลับมาแล้วต้องการกลับไปทำงานในประเทศอื่นก็พร้อมให้การสนับสนุน ขณะนี้ได้หารือเบื้องต้นกับ 5 ประเทศ ได้แก่ เกาหลี ญี่ปุ่น ไต้หวัน ออสเตรเลีย และกรีก เพื่อส่งแรงงานไทยไปทำงาน คาดว่าจะมีความคืบหน้าในเร็วๆ นี้ และในกรณีที่สงครามเริ่มคลี่คลาย หากแรงงานไทยต้องการกลับไปทำงานที่อิสราเอลอีกก็พร้อมสนับสนุนด้วย ซึ่งส่วนนี้รัฐบาลอิสราเอลก็ให้สิทธิพิเศษคือ หากแรงงานที่แม้ทำงานครบสัญญา 5 ปี 3 เดือนแล้ว ก็สามารถทำงานได้ต่ออีก 1 ปี จากเดิมที่ต้องเดินทางกลับ เนื่องจากเป็นข้อกำหนดที่เกี่ยวข้องกับความเป็นพลเมืองของอิสราเอล

ขณะที่ศูนย์ช่วยเหลือแรงงาน กระทรวงแรงงาน รายงานสถานการณ์แรงงานไทยในอิสราเอล โดยขณะนี้มีแรงงานไทยยังอยู่ในอิสราเอล 21,053 คน กลับไทยแล้ว 8,813 คน ถูกจับตัว 24 ราย บาดเจ็บ 19 ราย (อยู่ในร.พ. 4 ราย) เสียชีวิต 34 ราย และได้ส่งร่างกลับไทยแล้ว 26 ราย

นายไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า แม้ว่าขณะนี้ภายหลังที่ทางสถานทูตได้ปิดรับแจ้งความประสงค์ของแรงงานไทยในอิสราเอลผ่านระบบออนไลน์ไปแล้ว แต่ในส่วนของการให้บริการที่สนามบินสุวรรณภูมินั้น กระทรวงแรงงานยังมีเจ้าหน้าที่ไปตั้งโต๊ะบริการให้คำแนะนำการยื่นคำร้องขอรับสิทธิประโยชน์จากกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศอยู่เหมือนเดิม ซึ่งขณะนี้มีแรงงานเดินทางกลับถึงไทยแล้ว 54 เที่ยวบิน ยอดรวมทั้งสิ้น 8,813 คน

ในส่วนของแรงงานไทยที่ประสงค์จะเดินทางกลับประเทศไทยในขณะนี้ ยังสามารถซื้อตั๋วเพื่อเดินทางกลับกับเที่ยวบินพาณิชย์ด้วยตนเองได้ ส่วนค่าใช้จ่ายการเดินทางที่เกิดขึ้นในอิสราเอลนั้น แรงงานไทยสามารถเก็บใบเสร็จค่าตั๋วเครื่องบินไว้เป็นหลักฐานการเดินทาง เพื่อนำไปยื่นคำร้องขอเบิกค่าเดินทางกลับจากอิสราเอลที่ศูนย์ช่วยเหลือแรงงานและติดตามสถานการณ์ความไม่สงบในประเทศอิสราเอล บริเวณชั้น 1 กระทรวงแรงงาน ถนนมิตรไมตรี เขตดินแดง กรุงเทพ และสำนักงานแรงงานจังหวัด ทุกจังหวัดทั่วประเทศได้ โดยกระทรวงแรงงานจะรวบรวมคำร้องทุกสัปดาห์ เพื่อส่งให้กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศเป็น ผู้พิจารณา ซึ่งแรงงานจะได้รับเงินค่าเดินทางผ่านการโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารตามชื่อแรงงานไทยที่ได้แจ้งไว้ ทั้งนี้ติดตามการยื่นคำขอได้ที่ Hot Line Call Center กรมการกงสุล โทร.0-2572-8442

นายนฤชัย นินนาท รองอธิบดีกรมการกงสุล กระทรวงต่างประเทศ เปิดเผยว่า ภายหลังเที่ยวบินอพยพเช่าเหมาลำเฟสแรกเสร็จสิ้นไปเมื่อวันที่ 4 พ.ย. นั้น ส่วนการอพยพเช่าเหมาลำเฟส 2 ต้องรอดูในช่วง 2-3 วันนี้ ซึ่งขึ้นอยู่กับจำนวนแรงงานที่ร้องขอด้วย แต่เนื่องจากปัจจุบันมีจำนวนแรงงานประสงค์กลับไทยน้อยมาก มีประมาณ 10 คน ซึ่งส่วนใหญ่ได้ซื้อตั๋วเครื่องบินพาณิชย์เองแล้ว และสามารถนำหลักฐานมาเบิกค่าตั๋วได้ ทั้งนี้อยากให้แรงงานไทยที่เหลืออยู่กว่า 2 หมื่นคนให้กลับบ้านโดยเร็วที่สุด ซึ่งเป็นการแนะนำไม่ได้บังคับ และขอให้ครอบครัวแรงงานไทยช่วยกันอ้อนวอน หากคิดว่าไม่ปลอดภัยก็ควรกลับไทย อย่างไรก็ตาม ต้องรอฟังนโยบายอีกครั้งในวันพรุ่งนี้ (6 พ.ย.) เพราะรัฐบาลอาจจะมีนโยบาย หรือให้ดำเนินการอะไรต่างไปหรือไม่

ขณะที่สถานเอกอัครราชทูต ณกรุงเทลอาวีฟ ระบุถึงการให้ความช่วยเหลือแรงงานไทยที่ยังอยู่ในอิสราเอล ว่า รัฐบาลไทยยังคงดูแลผู้ที่ประสงค์เดินทางกลับประเทศไทยในช่วงสงคราม โดยสามารถนำหลักฐานการเดินทางไปยื่นเรื่องขอรับเงินคืนที่สำนักงานแรงงานประจำจังหวัด หากมีคำถามหรือข้อสงสัย และต้องการความช่วยเหลืออื่นใดเพิ่มเติม สามารถติดต่อสถานเอกอัครราชทูตฯ (ศูนย์ช่วยเหลือคนไทย) ได้ที่โทรศัพท์ : 05-3245-2826, 05-5271-2201, 05-0443-8094 และ 05-3557-4115 อินบ็อกซ์เฟซบุ๊ก : www.facebook.com/thaiembassytelaviv(ทุกเรื่องเมืองยิว) อีเมล์ : [email protected] กรณีฉุกเฉิน โปรดติดต่อหมายเลข 05-4636-8150

ด้านกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) รายงานผลการปฏิบัติการด้านการแพทย์และสาธารณสุข กรณีอพยพคนไทยจากเหตุการณ์ความไม่สงบในอิสราเอล ข้อมูลเมื่อเวลา 01.00 น. ของวันที่ 5 พ.ย. โดยวันที่ 4 พ.ย. มีคนไทยเดินทางกลับมา 85 คน เป็นชาย 83 คน หญิง 2 คน ผล คัดกรองและดูแลสุขภาพด้านร่างกาย ไม่พบผู้มีอาการป่วย ส่วนภาพรวมการดูแล คัดกรองทั้งหมด 57 ชุด สะสม 8,917 คน เป็นชาย 8,729 คน และหญิง 188 คน พบมีอาการทางร่างกาย 121 ราย คิดเป็นร้อยละ 1.4 ได้แก่ บาดเจ็บ 25 ราย อาการทางเดินหายใจ 74 ราย โรคประจำตัว 3 ราย อาการทางผิวหนัง 17 ราย อาการไข้ออกผื่น 1 ราย และมีไข้ปวดศีรษะ 1 ราย ส่วนอาการทางจิตใจรวม 561 ราย คิดเป็นร้อยละ 6.3 คือ ไม่สบายใจระดับปานกลาง 465 ราย ระดับมาก 65 ราย ระดับมากที่สุด 31 ราย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน