เชียร์รัฐบาลเศรษฐา-พักหนี้เกษตรกร นายกฯโชว์เอเปค-วิสัยทัศน์ 3แนวทาง คุยเอิ๊กอ๊าก‘สี จิ้นผิง’เรื่องบอลไทยจีน ปชป.เผยมาดามเดียร์ชิงหัวหน้าพรรค

‘เจ้าสัวธนินท์’ ปาฐกถางาน 90 ปีหอการค้าไทย หนุนรัฐบาลแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต-พักหนี้เกษตรกร ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ เชื่อมือ ‘เศรษฐา’ เข้ามาเป็นรัฐบาลถูกเวลา ประธานสภาหอการค้าฯ ย้ำให้คะแนนนายกฯ เกินร้อย ชื่นชมทำหน้าที่เซลส์แมน ลุยงานหนัก นายกฯโชว์วิสัยทัศน์เวทีเอเปค ชู 3 แนวทาง นำสู่ประชาคมเอเชีย-แปซิฟิก คุยถูกคอ ‘สี จิ้นผิง’ เรื่องบอลไทย-จีน แนะสูตรความสำเร็จให้คนไทยในสหรัฐ ตื่นจากฝันแล้วลงมือทำ ‘นิกร’ หวั่นมาตรา 13 พ.ร.บ.ประชามติ เดดล็อกแก้รัฐธรรมนูญ แนะรัฐบาลยื่นร่างแก้ไขเองผ่านสภาง่ายกว่า ปชป.เผยมีชื่อ ‘มาดามเดียร์’ แข่ง ‘นราพัฒน์’ สร้างสีสันชิงเก้าอี้หัวหน้าพรรค

นายกฯถกปธ.สภาธุรกิจเอเปค-สหรัฐ
วันที่ 16 พ.ย. (ตามเวลานครซานฟรานซิสโก สหรัฐ ช้ากว่ากรุงเทพฯ 15 ชั่วโมง) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง พบหารือกับประธานสภาที่ปรึกษาธุรกิจเอเปคสหรัฐ ได้แก่ National Center for APEC (NCAPEC) สภาหอการค้าสหรัฐ และสภาธุรกิจสหรัฐ-อาเซียน

นายเศรษฐากล่าวว่า ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งเป็นรากฐานความสัมพันธ์ไทย-สหรัฐ จึงหวังว่าสภาที่ปรึกษาธุรกิจสหรัฐจะสนับสนุนความเป็นหุ้นส่วนทั้งสองฝ่าย รวมถึงเอเปคให้มากขึ้น โดยเฉพาะด้านที่ไทยและสหรัฐให้ความสำคัญร่วมกัน เช่น ความยืดหยุ่นของห่วงโซ่อุปทาน การเปลี่ยนผ่านพลังงาน การเชื่อมโยงทางกายภาพและดิจิทัลและการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล ไทยพร้อมเป็นพันธมิตรด้านห่วงโซ่อุปทานที่เชื่อถือได้ และมุ่งมั่นขับเคลื่อนอุตสาหกรรมที่สำคัญเป็นประโยชน์ร่วมกัน เช่น เซมิคอนดักเตอร์ รถยนต์ไฟฟ้า โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล พลังงานสะอาด และอื่นๆ

โดยนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้เป็นเวลาที่จะเพิ่มการลงทุนในประเทศไทย ที่กำลังดำเนินการด้านกฎระเบียบที่ครอบคลุม การแปลงบริการภาครัฐเป็นดิจิทัล และกระบวนการที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นสำหรับนักลงทุนต่างชาติ เพื่อให้มีคุณสมบัติเหมาะสมและได้รับมาตรการส่งเสริม ซึ่งไทยพร้อมรับฟังความคิดเห็นจากภาคเอกชนสหรัฐ ที่เข้าร่วมการหารือ เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างกัน

คุยถูกคอ – นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ ทักทายพูดคุยกับนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน เรื่องฟุตบอลไทย-จีน ระหว่างรอเข้าประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ที่ซานฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 17 พ.ย. ตามเวลาท้องถิ่น

คุยถูกคอสีจิ้นผิง-ผลบอล
จากนั้นวันที่ 17 พ.ย. นายเศรษฐาพบปะพูดคุยกับนายสี จิ้น ผิง ประธานธิบดีสาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างรอเข้าประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 30 โดยนายกฯ กล่าวแสดงความยินดีต่อประธานาธิบดี สี ของจีน ที่ทีมฟุตบอลทีมชาติจีนชนะทีมชาติไทย ในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือกโซนเอเชีย รอบ 2 กลุ่มซี นัดแรก ที่ทีมชาติไทยเปิดสนามราชมังคลากีฬาสถานรับการมาเยือนของทีมชาติจีน ขณะที่นายสีอวยพรให้ทีมไทยชนะผ่านเข้ารอบฟุตบอลโลกเช่นกัน

กล่าวถ้อยแถลง-ชู 3 ข้อดันการค้า
เวลา 11.30 น. ที่ศูนย์ประชุมมอสโคนีเซ็นเตอร์ นายเศรษฐาเข้าร่วมการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปคในรูปแบบ Retreat หัวข้อ “Interconnectedness and Building Inclusive and Resilient Economies” และร่วมรับรองเอกสารผลลัพธ์การประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 30








Advertisement

โดยนายกฯ กล่าวถ้อยแถลงว่า ท่าม กลางความไม่แน่นอนของโลกไทยยัง มุ่งมั่นเต็มที่ต่อระบบการค้าพหุภาคีและ เอเปค เพื่อมุ่งสู่ประชาคมเอเชีย-แปซิฟิก ที่เปิดกว้าง ยืดหยุ่นและสงบสุข โดยได้หารือและสนทนาเกี่ยวกับวิธีการต่อสู้กับสภาพภูมิอากาศ ซึ่งเห็นพ้องกับผู้นำทุกคนว่าถึงเวลาต้องลงมือให้บรรลุเป้าหมาย โดยเสนอ 3 มุมมองต่อเอเปค คือ 1.ให้ความสำคัญกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และสานต่อพัฒนาการเป้าหมายกรุงเทพฯว่าด้วยเศรษฐกิจ BCG ที่ปีนี้เอเปคมีความก้าวหน้าอย่างมาก กว่า 280 โครงการ ตอบสนองต่อเป้าหมายนี้ ขณะที่ ABAC เดินหน้าผลักดันการจัดทำ BCG Pledge

2.เปิดการค้าและการลงทุนอย่างเติบโตและรุ่งเรือง เอเปคสนับสนุนระบบการค้าพหุภาคีที่ยึดกฎเกณฑ์ โดยมีองค์การการค้าโลกเป็นแกนกลาง ไทยผลักดันความพยายามอย่างต่อเนื่องในเรื่องเขตการค้าเสรีเอเชีย-แปซิฟิก (FTAAP) และไทยจะเร่งเจรจา FTA อื่นในเชิงรุก

3.เสริมสร้างความเชื่อมโยงเพื่อเศรษฐกิจและห่วงโซ่อุปทานที่มีความยืดหยุ่น โดยไทยเดินหน้าโครงการแลนด์บริดจ์ อนุมัติวีซ่าฟรีส่งเสริมการท่องเที่ยว และสนับสนุนความต่อเนื่องของบัตรเดินทางสำหรับนักธุรกิจเอเปคให้ครอบคลุมมากขึ้น เพื่อสนับสนุน MSMEs และสตาร์ตอัพ

อึดอัดแก้การบินไทยขาดทุน
เวลา 17.00 น. ที่โรงแรมเดอะริทซ์คาร์ลตัน นายเศรษฐาพบปะชาวไทยในสหรัฐอเมริกา 180 คน โดยตอบคำถามคนไทยเรื่องการขอวีซ่าเข้าสหรัฐสำหรับอาชีพกุ๊กค่อนข้างติดขัด ว่า เป็นเรื่องละเอียดอ่อน นโยบายรัฐบาลต้องการยกระดับพาสปอร์ตไทยให้มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี เป็นเรื่องที่ไม่ง่าย อยากให้เอกอัครราชทูตและกงสุลดำเนินการ เรื่องนี้สหรัฐแข็งมากมานาน ช่วง 4 เดือนที่ผ่านมาการขอวีซ่าเข้าสหรัฐต้องเข้าคิวนานมาก เข้าใจและเห็นใจ

สมาคมนวดแผนไทยในสหรัฐอยากให้รัฐบาลส่งครูมาสอนนวดให้คนไทยในสหรัฐ นายกฯ สั่งสถานทูตหรือสถานกงสุลดูแล พร้อมจะไปสอบถามกระทรวงสาธารณสุขให้ และระบุ “ท่านถาม 2 หนแล้วผมก็ละอายใจ เจอคำถามแบบนี้ผมก็หน้าชา สถานกงสุลก็ต้องตอบคำถามว่ามีการดำเนินการให้ได้หรือไม่ อย่างไร”

จากนั้นคนไทยสอบถามถึงวิกฤตสายการบินไทยที่ขาดทุนตลอด และไม่สามารถบินมาสหรัฐได้ พร้อมมอบเอกสารข้อมูลให้นายกฯ ซึ่งนายกฯส่งต่อให้นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม ดำเนินการ ก่อนกล่าวว่า การบินไทยเป็นปัญหาเรื้อรังมานาน เงินที่ใส่เข้าไปก็เยอะและยังต้องใส่เข้าไปอีกเยอะ รัฐบาลก็ต้องจัดการว่าเขาดำเนินการตามแผนหรือไม่ “เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ ผมคุยกับปลัดกระทรวงคมนาคมเรื่องการบินไทยตลอด แม้กระทั่งในการประชุมกับโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐ ก็มีการส่งข้อมูลกัน ผมมีความอึดอัดมากกว่าคุณอีก”

ตื่นจากฝัน-สูตรประสบความสำเร็จ
ช่วงหนึ่งนายกฯเผยว่า ส่วนตัว ไม่สบายใจถูกล้อเลียนจากฝ่ายตรงข้ามตลอดว่าเป็นนายกฯที่จะสร้างอนาคตให้ลูกหลานคนไทย แต่ลูกชาย 2 คนยังทำงานอยู่เมืองนอก พยายามจะหัวเราะให้มุขตลกนี้ แต่ความจริงไม่ใช่เรื่องขมขื่นอะไรดีใจที่ลูกทั้งสองคนมีความสุข ใช้ชีวิตและอิสรภาพได้แม้อยากให้กลับไทย แต่ต้องยอมรับว่าประเทศไทยไม่มีข้อเสนอที่ดีกว่า นี่ก็คือเหตุผลที่เข้ามาทำงานการเมือง เพราะอยากทำให้ประเทศดีขึ้น

นักศึกษาไทยคนหนึ่งถามทำอย่างไรจะประสบความสำเร็จแบบนายกฯ นาย เศรษฐากล่าวว่า ต้องทำ 2 อย่าง คือทำงานหนักและมีวินัย พร้อมยกตัวอย่างลูกทั้ง 3 คน เรียนจบในมหาวิทยาลัยชื่อดังของโลก ไม่ได้สั่งแค่มองตาก็รู้ใจ ขอให้ลูกทำงานก่อน 3 ปี โดยใช้คำแรง เป็น “ขี้ข้า” ก่อน ทำงานให้รู้ระบบก่อนจะเป็นเจ้านายคน แม้แต่ตนเองเรียนจบปริญญาโทจากต่างประเทศก็กลับมาทำงานตอกบัตรเข้างานเหมือนคนทั่วไป ไม่ใช่ทุกคนจะเป็นเหมือน “มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก” ไม่ใช่ฝันเพียงอย่างเดียวแล้วจะประสบความสำเร็จ สิ่งที่จะทำให้ฝันเป็นจริงก็คือ “ตื่น” ต้องตื่นขึ้นมาทำ

หอการค้าแนะรัฐบาล 5 ด้าน
ที่ไบเทค บางนา นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เป็นประธานเปิดงานสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศ ครั้งที่ 41 โดยมีสมาชิก ประธานหอการค้าทั่วประเทศ และผู้บริหารภาคเอกชนราว 1,000 คน เข้าร่วม ว่า ไทยจะหวังพึ่งพาเครื่องยนต์เศรษฐกิจคลื่นลูกเดิมไม่ได้อีกต่อไปต้องปฏิรูป (รีฟอร์ม) ในระยะยาว 1. ด้านการค้า การลงทุน ทั้งเร่งทำเขตการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ร่วมกับหลายประเทศ ดึงการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศเพื่อเพิ่มการจ้างงาน การปรับตัวเข้ากับเทคโนโลยีดิจิทัล อาทิ ลดใบอนุญาตต่างๆ ในการทำธุรกิจ ออกมาตราการให้ต่างชาติมีที่ อยู่อาศัย และผลักดันให้เกิดรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์

2.ด้านเกษตรและอาหาร นำเทคโนโลยีและดึงคนรุ่นใหม่มาช่วยสร้างนวัตกรรม เพิ่มผลผลิต ลดต้นทุนและมีความปลอดภัย ส่งเสริมปลูกพืชมูลค่าสูง 3.ด้านการท่องเที่ยวและบริการ ปี 67 คาดว่านักท่องเที่ยวสูงถึง 35 ล้านคน โดยหอการค้าชู Happy model ผลักดันซอฟต์เพาเวอร์ 4.ด้านโครงสร้างพื้นฐาน ต้องเร่งผลักดันเมกะโปรเจ็กต์ เช่น รถไฟความเร็วสูง แลนด์บริดจ์ การแก้ไขปัญหาน้ำแล้ง น้ำท่วมซ้ำซาก จัดทำโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล สร้างโอกาสให้เอสเอ็มมีเข้าถึงแหล่งเงินทุน

ให้นายกฯเกิน100-สู้งานหนัก
5. Sustainable ซึ่งไม่ใช่ทางเลือกแต่เป็นทางรอด เป็นหน้าที่หอการค้าจับมือบริษัทชั้นนำส่งเสริมและพัฒนาภาคธุรกิจไปสู่แนวทาง BCG Model และ ESG กระจายรายได้ ลดความเหลื่อมล้ำ หอการค้ามีโครงการพัฒนาเมืองรอง 10 จังหวัดให้เป็นเมืองหลักในการท่องเที่ยว รัฐบาลต้องเข้ามาช่วยส่งเสริมโครงสร้างพื้นฐานสอดรับความเจริญที่จะมีเพิ่มขึ้นด้วย

“นายกฯ ไปต่างประเทศเพื่อกระตุ้นการลงทุน เป็นเซลส์แมน ต้องชมการทำงานที่หนักมาก หากให้คะแนนก็เกิน 100 เพราะมีความเข้าใจธุรกิจต่างๆ และผลักดันโครงสร้างพื้นฐานเพิ่มเติมจากเดิม อาทิ โครงการแลนด์บริดจ์ อยากเห็นไทยเจริญรุ่งเรืองไม่แพ้ประเทศอื่น เราต้องช่วยกันเพิ่มขีดความสามารถให้มากขึ้นในอนาคต เพื่อให้เกิดความเจริญแบบสนั่นหวั่นไหวในประเทศไทยเอง” นายสนั่นกล่าว

ดึงอินฟลูเอนเซอร์ขายสินค้า
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.พาณิชย์ กล่าวปาฐกถาพิเศษ “พาณิชย์ยุคใหม่ การค้าไทยเชื่อมโลก” รัฐพร้อมฟังและนำข้อเสนอของภาคเอกชนไปปฏิบัติ เบื้องต้นจัดตั้งทีมไทยแลนด์พาณิชย์ บูรณาการการภายใน เพื่อเร่งผลักดันการค้าร่วมกับทีมไทยแลนด์ชุดใหญ่ ภายในธ.ค.จะเสนอครม.แก้พ.ร.บ.ที่เป็นอุปสรรคอย่างน้อย 4 ฉบับ

ความคิดนอกกรอบเป็นสิ่งสำคัญ รัฐบาลเพื่อไทยเรามีจุดเด่นในการคิดนอกกรอบ เห็นได้จากโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค แต่การคิดนอกกรอบอาจติด ข้อกฎหมาย ทำให้ข้าราชการไม่กล้าเปลี่ยนแปลงนอกกรอบ แต่ถ้าแก้กฎหมายโดยเร็วเพื่อลดอุปสรรคการทำมาหากิน หารายได้เข้าประเทศจะเป็นเรื่องที่ดี ที่ตนพูดบางเรื่องเป็นเรื่องใหญ่ บางเรื่องเป็นทิศทาง เช่น ต้องไปหาอินฟลูเอนเซอร์ทั้งไทยและต่างประเทศมาขยายตลาดการค้า ไม่ต้องอยู่ในกรอบการค้าแบบเดิม บางประเทศยังใช้อินฟลูเอนเซอร์มาช่วยประชาสัมพันธ์และแนะนำสินค้า ถือเป็นการประชา สัมพันธ์รุ่นใหม่ นอกจากนี้ยังมีแนวคิดจัดคอนเสิร์ตซีรีส์วายที่มีชื่อเสียง อาจดึง มาสัก 5 คู่ ช่วยประชาสัมพันธ์

ภูมิธรรมยันรัฐบาลไม่มีเกาเหลา
การเดินทางเยือนต่างประเทศของ นายกฯ เป็นการเรียกความเชื่อมั่นโดยเฉพาะการเดินทางไปประเทศใหญ่และประเทศเป้าหมายสำคัญของไทย อยากให้ข้าราชการทุกภาคส่วน โดยเฉพาะกระทรวงการต่างประเทศไม่ใช้ธรรมเนียมปฏิบัติเดิมๆ แต่ต้องสร้างความสัมพันธ์ที่นำไปสู่ลู่ทางการค้าและประโยชน์ให้เอกชนไปสานต่อได้อย่างต่อเนื่อง ในส่วนของกระทรวงพาณิชย์เมื่อนายกฯ ทำแล้ว กระทรวงพาณิชย์จะเดินตาม ถือเป็นการเก็บเกี่ยวตามการเดินทางของนายกฯ เพื่อไม่ให้ เสียเปล่า ไม่สามารถปล่อยให้นายกฯ ทำงานคนเดียวได้

รัฐมนตรี และรัฐมนตรีร่วมของรัฐบาลนี้คุยกันได้หมด โดยให้ยึดผลประโยชน์ชาติ ตนอยู่กระทรวงพาณิชย์ มีเรื่องที่ ต้องทำงานร่วมกับกระทรวงเกษตรฯ มี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรฯ รับผิดชอบ คุยกันได้ในเรื่องการแก้อุปสรรคต่างๆ ทั้งกรมชลประทาน กรมป่าไม้ ขอให้ภาคเอกชนสบายใจได้ว่าคุยกันได้ทั้งหมดและจะเดินหน้าทีม Thailand และทีมพาณิชย์

เจ้าสัวธนินท์หนุนเป๋าดิจิทัล-พักหนี้
นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโส เครือเจริญโภคภัณฑ์กล่าวปาฐกถาพิเศษ เรื่อง “90 ปีหอการค้าไทย กับการพัฒนาของเศรษฐกิจไทย” ว่า วันนี้เศรษฐกิจโลกไม่ปกติกำลังเข้าสู่ภาวะวิกฤต เชื่อมั่นว่ารัฐบาลภายใต้การนำของนายเศรษฐา เข้ามาในเวลาที่ถูกต้อง เพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจ

“รัฐบาลมีความจำเป็นต้องใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ไม่ใช่วิธีปกติ ซึ่งผมสนับสนุนและเห็นด้วยกับมาตรการแจกเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท นักธุรกิจทุกคนต้องช่วยกันพูดและอธิบายว่าไม่ใช่มาตรการช่วยเหลือคนจน แต่เป็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงเวลาที่ไม่ปกติ รวมไปถึงมาตรการการพักหนี้เกษตรกรก็เป็นนโยบายที่ดีที่จะสนับสนุนจะให้เกษตรกรมีรายได้ที่สูงขึ้น

ผมยืนยันว่าทั้ง 2 มาตรการดังกล่าว จะไม่ทำให้ประเทศไทยเสียวินัยการเงินการคลังแน่นอน เนื่องจากปัจจุบันไทยมีวินัยการเงินอยู่ในอันดับท็อปของโลก มีหนี้ต่อจีดีพีเพียง 61% เท่านั้น ขณะที่ประเทศอื่น เช่น สหรัฐมีหนี้ 100% ต่อจีดีพี ผมเชื่อมั่นรัฐบาลชุดใหม่มาก โดยเฉพาะนายกฯ เศรษฐา ซึ่งในอดีตเป็นนักธุรกิอสังหา ริมทรัพย์ที่มีผลงานโดดเด่น และยังมีความสามารถในการบริหารการเงินคลังยอดเยี่ยม มั่นใจว่าทุกมาตรการของรัฐบาล ที่ออกมาทำถูกต้องแล้ว” นายธนินท์ กล่าว

เชื่อมือเศรษฐาทำศก.รุ่งเรือง
นายธนินท์กล่าวว่า ตนเชื่อมั่นว่ารัฐบาลภายใต้การนำของนายกฯเศรษฐาจะสามารถพัฒนาเศรษฐกิจไทยให้รุ่งเรืองได้แน่นอน หากรัฐบาล นักธุรกิจ นักการเมืองทุกพรรคมองประโยชน์ของชาติและประชาชนมาก่อนผลประโยชน์ส่วนตัว วันนี้รัฐบาลต้องเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งระยะสั้นกลาง และยาว เพราะวินัยการเงินเรายังยอดเยี่ยม อย่าไปกลัวเรื่องเงินเฟ้อสูง เงินฝืดอันตรายกว่าเพราะถ้าความดันต่ำจะทำให้หัวใจหยุดเต้น ทำให้เศรษฐกิจไทยล้มละลายได้ แต่ถ้าเงินเฟ้อสูงก็เหมือนความดันสูงยังกินยารักษาได้

อย่างไรก็ตาม ไทยและประเทศ 10 ชาติในอาเซียนยังเป็นประเทศที่เนื้อหอมที่ต่างชาติสนใจเข้ามาลงทุนเพราะเศรษฐกิจยังเติบโตได้ และมีความปลอดภัยสูงไม่มีภาวะสงคราม

นิกรย้ำ‘ม.13’เดดล็อกแก้รธน.
นายนิกร จํานง โฆษกคณะกรรมการเพื่อพิจารณา ศึกษา แนวทางในการทำประชามติเพื่อแก้ไขปัญหาความเห็นที่แตกต่างเรื่องรัฐธรรมนูญ 2560 ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการรับฟังความคิดเห็นประชาชนเกี่ยวกับแนวทางในการทำประชามติ ให้สัมภาษณ์ถึงการเสนอร่างแก้ไข พ.ร.บ.ประชามติ มาตรา 13 เรื่องเกณฑ์การทำประชามติ มีเนื้อหาสาระอย่างไร ว่า อนุฯ หารือกันว่าการทำประชามติมีปัญหาที่จะทำให้ผ่านไม่ได้ เพราะต้องมีเสียงข้างมาก 2 ระดับ

1.ต้องมีผู้ออกมาใช้สิทธิ์ทําประชามติเกินกึ่งหนึ่งของผู้มีสิทธิ์ทั้งหมด คือประมาณ 26 ล้านคน 2.ใน 26 ล้านคนนี้ ต้องเห็นด้วยว่าควรมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ 13 ล้านกว่าคน ซึ่งคิดว่าทําได้ยากมาก หากประชามติไม่ผ่านก็จะกลายเป็นคนไทย ไม่ต้องการให้แก้รัฐธรรมนูญ ซึ่งที่จริงไม่ใช่แบบนั้น ดังนั้นต้องหารือกันในคณะกรรมการ ซึ่งตนจะเสนอให้ที่ประชุมคณะกรรมการชุดใหญ่ ที่นายภูมิธรรม เป็นประธาน พิจารณาวันที่ 24 พ.ย.

ตรงนี้เป็นปัญหาใหญ่ ไม่ใช่แค่เรื่องการเห็นด้วยหรือไม่ แต่กฎหมายประชามติมีปัญหา ไม่ใช่เฉพาะรัฐธรรมนูญ เพราะกฎหมายประชามติลักษณะนี้ไม่เคยมี พึ่งมีในรัฐธรรมนูญนี้เป็นฉบับแรก เป็นกฎหมายที่ไม่สามารถปฏิบัติได้จริง สมควรแก้ไข จะได้ใช้ในอนาคตได้ด้วย การทำประชามติเป็นประชาธิปไตยทางตรงของประชาชน ควรทำกฎหมายตรงนี้ให้ดี

แนะตัดทิ้งปมเสียงข้างมากชั้น 2
นายนิกรกล่าวว่า ส่วนตัวมองว่าเสียงข้างมากชั้นที่ 2 ไม่ควรมีเป็นอย่างยิ่ง ควรใช้เสียงข้างมากอย่างเดียว เพราะเมื่อออกมาใช้สิทธิ์บางคนอาจจะงดออกเสียงก็ได้ ยังมีความเห็นของพรรคก้าวไกลที่มองว่า ควรเป็น 25% ของผู้มีสิทธิ์ ซึ่งเมื่อคำนวณแล้วก็คล้ายกับที่ตนเสนอ เพียงแต่เขามีวิธีอธิบายอีกแบบ แต่ก็จะมีปัญหาว่าประชาชนเข้าใจยากและจะทำให้กฎหมายผ่านยาก ดังนั้นต้องคุยกันว่าเรื่องนี้จะแก้ยังไง แต่ถ้าแก้โดยการตัดชั้นที่ 2 ทิ้ง ให้เป็นแบบเสียงข้างมากปกติ ก็แก้แค่มาตรา 13 อย่างเดียว จะทําให้แก้ได้เร็วขึ้น แต่เนื่องจากเป็นกฎหมายปฏิรูปต้องผ่านความเห็นของทั้ง 2 สภา ดังนั้นต้องทำความเข้าใจกับ สว.ให้ดี เพราะเขาไม่เห็นด้วยกันอยู่

เมื่อถามว่ามั่นใจว่าจะผ่านความเห็นชอบจากที่ประชุมรัฐสภาหรือไม่ นายนิกรกล่าวว่า ยังไม่ทราบ อยู่ที่หลักการและเหตุผล ถ้าพรรคการเมืองเป็นผู้ยื่นจะมีปัญหา เพราะเป็นกฎหมายปฏิรูป ซึ่งไม่ใช่กฎหมายธรรมดา มีกลไกเยอะ แต่ถ้ารัฐบาลเห็นด้วยและยื่นเป็นร่างของรัฐบาลก็จะง่ายขึ้น เมื่อถามว่าจะถูกมองว่าเป็นการยื้อเวลาของรัฐบาลหรือไม่ นายนิกรกล่าวว่า ไม่ได้ยื้อ แต่เป็นการเห็นกำแพงที่ผ่านยากอยู่ข้างหน้า ยิ่งเป็นการแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลมีความจริงใจที่จะแก้รัฐธรรมนูญตามนโยบายเสียด้วยซํ้า และฝ่ายค้านเองก็ต้องร่วมกัน

มั่นใจ9ธ.ค.ปชป.ได้หัวหน้าใหม่
เวลา 10.30 น.ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรค แถลงถึงการเลือกหัวหน้าพรรคและกก.บห.ชุดใหม่ ว่า เป็นที่ชัดเจนว่าประชุมใหญ่วิสามัญ 9 ธ.ค.นี้ ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น หลักสี่ โดยเพิ่มองค์ประชุมสำรอง 150 คนตามข้อบังคับพรรค เพื่อแก้ปัญหาองค์ประชุมไม่ครบ และให้สมาชิกมีส่วนร่วมในการเลือกหัวหน้าพรรคและกก.บห.

อย่างไรก็ตาม กรณีองค์ประชุมทั้งหมดตามข้อบังคับพรรค 19 กรณี โดย 1-18 ซึ่งมีทั้ง กก.บห. สมาชิกพรรค สส.พรรค อดีตสส. อดีตรัฐมนตรี อดีตหัวหน้าพรรค หรืออดีตเลขาธิการพรรค สมาชิกที่เป็น นายกอบจ. สมาชิก อบจ., สก. ตัวแทนสาขาพรรคประจำจังหวัด จำนวน 346 คน องค์ประชุมต้องไม่น้อยกว่า 250 คน หากองค์ประชุมไม่ครบ 250 คน จะใช้องค์ประชุมที่สำรอง 150 คน เพื่อให้ครบองค์ประชุม เพื่อป้องกันไม่ให้องค์ประชุมล่มอีก เป็นครั้งที่ 3

มีชื่อมาดามเดียร์ชิงหน.ด้วย
ส่วนผู้แข่งขันชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคนั้นขณะนี้มีนายนราพัฒน์ แก้วทอง รักษาการรองหัวหน้าพรรค ดูแลภาคเหนือ และที่ปรากฏเป็นข่าวมีชื่อของ น.ส.วทันยา บุนนาค ซึ่งถือว่าเป็นสีสันในการแข่งขัน เชื่อว่าหลังจากได้หัวหน้าพรรคคนใหม่แล้ว จะเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูพรรค ให้พรรคก้าวไปข้างหน้าอย่างมีเอกภาพ ส่วนที่นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ลาออกจากรักษาการหัวหน้าพรรคน เพื่อให้สิ้นข้อสงสัยทางข้อกฎหมาย

ปูอัดจี้ก้าวไกลเร่งส่งเอกสารขับ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ช่วยของนายไชยา มพวาน มั่นเพียรจิตต์ สส.กทม. อดีตพรรคก้าวไกล แจ้งว่ายังไม่ได้รับเอกสารมติขับออกจากพรรคก้าวไกล ตั้งแต่พรรคมีมติเมื่อประมาณ 2 สัปดาห์ก่อน ทำให้ยังไม่สามารถเจรจากับพรรคอื่นที่จะไปเข้าสังกัดได้

ขณะนี้ นายไชยามพวาน ยังไม่ได้พูดคุยจริงจังกับพรรคใดเลย เพราะกลัวจะผิดข้อกฎหมายหากยังไม่ได้รับเอกสารยืนยัน พร้อมเรียกร้องให้พรรคก้าวไกลส่งมติมาให้ กังวลว่าหากส่งเอกสารมาช้าจะทำให้ไม่ทันกรอบเวลาที่จะเจรจาหาพรรคใหม่ได้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน