เมื่อวันที่ 20 พ.ย. รศ.ดร.อนุสรณ์ ธรรมใจ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยเศรษฐกิจดิจิทัล การลงทุนและการค้าระหว่างประเทศ และอาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ภาคการลงทุนต่างประเทศนั้นมีความสำคัญต่อการเติบโตของไทย และยกระดับ ขีดความสามารถในการแข่งขันในระยะยาว ลดความเหลื่อมล้ำหากกำหนดยุทธศาสตร์ให้ถูกทิศทางตั้งแต่แรก ข้อตกลงการเข้ามาลงทุนในประเทศไทยดีล 2 แสนล้านบาทของ Google และ Microsoft จะเสริมความเข้มแข็งของเศรษฐกิจดิจิทัลของไทย และสร้างฐานเศรษฐกิจฐานข้อมูลขนาดใหญ่ โดย Microsoft จะเน้นการลงทุนเกี่ยวกับ “ดาต้าเซ็นเตอร์” และ “พลังงานสะอาด” คาดว่าจะมีการลงทุนเฟสแรก 1 แสนล้านบาท และควรส่งเสริมให้มีการเพิ่มการลงทุนในเฟสต่อๆ ไป อีกทั้งยังทำให้กลุ่มทุนธุรกิจไทยสามารถพัฒนาเทคโนโลยีของตัวเองได้ การที่จะเกิดสิ่งนี้ได้ประเทศต้องมีระบบการศึกษาทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเข้มแข็ง มีการลงทุนทางด้านการวิจัยและนวัตกรรมไม่น้อยกว่า 5% ของจีดีพี จุดพลิกโฉมเศรษฐกิจไทยอยู่ที่การถ่ายทอดเทคโนโลยีและการพัฒนาเทคโนโลยีของตัวเอง ให้ได้ ขณะที่ Google สนใจเข้ามาลงทุนในกิจการระบบ Cloud และ AI

รศ.ดร.อนุสรณ์กล่าวอีกว่า แนวโน้มการลงทุนโดยตรงของต่างชาติปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้น โดย 9 เดือนแรกของปี 2566 มีการขยายตัวเพิ่มขึ้น 44.8% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ยุทธศาสตร์การส่งเสริมการลงทุนของ “บีโอไอ” โดยเฉพาะการลงทุนในอุตสาหกรรมนวัตกรรมสูงนั้น ต้องอาศัยทรัพยากรมนุษย์คุณภาพสูง ทักษะและความสามารถสูง ที่สังคมไทยยังคงขาดแคลนอยู่ การประกาศเป็นศูนย์กลางลงทุนของภูมิภาค (Regional Hub) 5 ด้าน ได้แก่ Tech Hub, BCG Hub, Talent Hub, Logistic&Business Hub, Creative Hub นั้น จำเป็นต้องเปลี่ยนบทบาท “บีไอโอ” จากผู้ให้สิทธิประโยชน์เพื่อส่งเสริมการลงทุน มาเป็น ผู้บูรณาการ อำนวยความสะดวกและเชื่อมโยงการลงทุนมากขึ้น เพื่อให้เกิดการกระจายผลประโยชน์จากการลงทุนของต่างชาติ “บีโอไอ” ควรทำงานร่วมกับหน่วยงานเกี่ยวกับการส่งเสริม SMEs ทั้งหลาย ทำให้ SMEs ไทยเชื่อมโยงกับเครือข่ายการผลิตและการบริการข้ามชาติมากยิ่งขึ้น

รศ.ดร.อนุสรณ์กล่าวต่อว่า การทำงานผ่านเครือข่ายออนไลน์ การสื่อสารผ่านช่องทางดิจิทัลที่ง่ายดาย ทำให้บริษัทไฮเทคและบรรษัทข้ามชาติทั้งหลายสามารถทำงานเชื่อมโยงข้ามประเทศได้ง่ายขึ้น สะดวกขึ้น ต้นทุนต่ำลง โดยสามารถใช้ทรัพยากรในแต่ละประเทศมาส่งเสริมการทำงานแบบเครือข่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ มาตรการดึงดูดแรงงานทักษะสูงและผู้เชี่ยวชาญทางเทคโนโลยีมีความสำคัญต่อการพัฒนาต่อยอดของการลงทุนของบริษัทไฮเทคในประเทศไทย การดึงดูดผู้มีความสามารถสูงเข้ามาตั้งถิ่นฐานในไทยเป็นหลักประกันความสำเร็จของ “ดาต้าเซ็นเตอร์” “ระบบ Cloud” “การพัฒนา AI ในภาคส่วนต่างๆ” “การทำ Digital Transformatio” นอกจากนี้ ไทยควรพัฒนาความร่วมมือระหว่างประเทศขนาดใหญ่ผ่านเครือข่ายผู้เชี่ยวชาญเทคโนโลยีและผู้ประกอบการจึงสามารถยกระดับธุรกิจอุตสาหกรรมของไทยที่ไม่ใช่ของต่างชาติ เทียบชั้น ธุรกิจอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไต้หวันและสิงคโปร์ได้

รศ.ดร.อนุสรณ์กล่าวถึงโครงการแลนด์บริดจ์ว่า โครงการนี้จะเป็นเครื่องยนต์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจสู่ความรุ่งเรืองใหม่ได้ อย่างไรก็ตาม ต้องทำประชาพิจารณ์ผลกระทบชุมชน สิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจฐานเดิม การทำประเมินผลกระทบของนโยบายของการลงทุนขนาดใหญ่ ก่อนเดินหน้าการดำเนินการตามนโยบาย จำเป็นจะต้องมีกลไกคณะกรรมการร่วมที่มีภาควิชาการ ภาคศึกษาวิจัยนโยบายอย่างรอบด้าน ร่วมกับภาคประชาสังคมเข้าร่วมเป็นกรรมการด้วย ใช้ Open Data ในการส่งเสริมการออกแบบกระบวนการนโยบายที่ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง การดำเนินการโครงการแลนด์บริดจ์จะต้องเน้นให้ความสำคัญต่อกระบวนการและเป้าหมายไปพร้อมกัน หากเราสนใจแต่เป้าหมาย สุดท้ายจะเป็นการรับรองกระบวนการแบบอำนาจนิยมหรือบนลงล่าง หากเราต้องการการพัฒนาและการเติบโตแบบยั่งยืน เราต้องใช้กระบวนการประชาธิปไตยและการมีส่วนร่วม กระบวนการประชาธิปไตยแบบยั่งยืนนี้จะเน้นเอาความเป็นธรรมและกำกับการพัฒนาแบบไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ไม่ซ้ำเติมปัญหาความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคมที่รุนแรงอยู่แล้วในไทย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน