เมื่อวันที่ 20 พ.ย. ที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) พล.ต.ต.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ รองเลขาธิการ ปปง. พร้อมด้วยนายวิทยา นีติธรรม โฆษกประจำสำนักงาน ปปง. และ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีดีเอสไอ ร่วมแถลงผลการดำเนินงาน อาทิ ผลการปฏิบัติงาน ของสำนักงาน ปปง. และผลการประชุมคณะกรรมการธุรกรรม ประจำเดือน พ.ย.

นายวิทยากล่าวว่า คณะกรรมการธุรกรรมพิจารณาเห็นชอบให้ดำเนินการกับทรัพย์สิน ที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด ดำเนินการกับทรัพย์สิน 1,333 รายการ 60 รายคดี มูลค่าทรัพย์สินกว่า 2,559 ล้านบาท และมอบหมายพนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจสอบทรัพย์สิน 26 รายคดี สรุปรายคดีสำคัญอันเป็นที่สนใจของประชาชน ยึดและอายัดทรัพย์สิน 16 รายคดี ทรัพย์สิน 430 รายการ พร้อมดอกผล มูลค่าประมาณ 1,422 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่เป็นทรัพย์สิน เกี่ยวกับความผิดมูลฐานยาเสพติด ฉ้อโกงประชาชน การลักลอบหนีศุลกากร และการจัดให้มี การเล่นการพนันทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์

สำหรับข้อมูลรายคดีสำคัญ อาทิ ความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด อายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับ การกระทำความผิดไว้ชั่วคราว 42 รายการ พร้อมดอกผล มูลค่าประมาณ 64 ล้านบาท อาทิ รายคดีกลุ่มเครือข่ายยาเสพติด นายทุน มิน หลัด กับพวก จำนวน 24 รายการ เป็นเงินในบัญชีเงินฝากธนาคาร พร้อมดอกผลมูลค่าประมาณ 21 ล้านบาท, ความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชน อายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดไว้ชั่วคราวรวม 17 รายการ พร้อมดอกผล มูลค่าประมาณ 374 ล้านบาท อาทิ รายคดีของ นายชนินทร์ เย็นสุดใจ อดีตประธานบริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) อายัดทรัพย์สิน 16 รายการ เป็นเงินสด เงินในบัญชีเงินฝากธนาคาร หลักทรัพย์ และสินทรัพย์ดิจิทัล พร้อมดอกผล มูลค่าประมาณ 349 ล้านบาท

พ.ต.ต.ยุทธนา ยังเผยถึงความคืบหน้าการดำเนินคดีคดีหุ้นสตาร์คว่า พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล อธิบดีดีเอสไอ เร่งรัดให้สอบสวนต่อเนื่อง ภายหลังจากที่ ก.ล.ต. ร้องทุกข์กล่าวโทษต่อบริษัท สตาร์คฯ และกรรมการผู้มีอำนาจลงนาม รวมถึงกลุ่มบริษัทลูกข่ายต่างๆ สอบปากคำแล้ว ทั้งสิ้น 160 ราย แจ้งข้อหาแก่ผู้ต้องหาแล้ว 11 ราย แบ่งเป็น บุคคลธรรมดา 6 ราย และนิติบุคคลอีก 5 ราย ออกหมายจับผู้ต้องหาอีก 1 ราย เป็นบุคคลที่อยู่ระหว่างหลบหนีอยู่ที่ต่างประเทศ คาดสรุปสำนวนได้ภายในสิ้นเดือน พ.ย.นี้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน