ฉายายีนไทรน้อย-จนมุมจรัญ3 ผบช.น.ยันไม่ใช่ขัดแย้งสถาบัน ตร.รู้ตัวอีก2ร่วมแก๊ง-ล่ากระชั้น แม่เหยื่อทำพิธีเชิญวิญญาณลูก
จับแล้ว 1 มือยิงน.ศ. เทคนิคดุสิต ล่าอีก 2 ชุด สืบสวนเร่งเช็กวงจรปิด หาเส้นทางหลบหนี ผบช.น.เผยเมากระท่อม ชวนกันออกมาหาเรื่อง เห็นเพื่อนโดนแทงเลยยิงใส่ คนก่อเหตุเป็นไรเดอร์ส่งพัสดุ คดีจึงไม่เกี่ยวขัดแย้งระหว่างสถาบัน แม่ร่ำไห้จัดพิธีศพลูก ฝากถึงผู้ก่อเหตุ ‘ให้เข้ามารับผิด กล้าทำก็ต้องกล้ารับ’
จากกรณีนายพงศ์ภีระ สุขโคตร อายุ 16 ปี หรือภู่ นักศึกษาวิทยาลัยเทคนิคดุสิต ชั้นปี 2 ถูกคนร้ายใช้ปืนไทยประดิษฐ์ แบบปากกา ขนาด .38 ม.ม. ยิงที่หน้าอกเสียชีวิต ภายในซอยระนอง 2 เขตดุสิต กทม. ขณะที่วิทยาลัยเทคนิคดุสิตประกาศให้เรียนออนไลน์เป็นเวลา 2 สัปดาห์ เมื่อวันที่ 20 พย.ที่ผ่านมานั้น
ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 21 พ.ย. พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร.กล่าวว่า ขณะนี้ทราบตัวผู้ก่อเหตุแล้ว 2 รายจากทั้งหมด 3 คน มีประสานขอเข้ามอบตัวแล้ว 1 ราย ส่วนแรงจูงใจการก่อเหตุนั้นต้องรอการสอบสวนให้เสร็จสิ้นก่อน จึงจะสามารถระบุได้ว่าเกิดจากความขัดแย้งระหว่างสถาบันหรือเป็นเรื่องส่วนตัว ซึ่งกรณีที่ผู้เสียชีวิตอายุน้อยนั้นก็ยังไม่ตัดความเป็นไปได้ว่าเกิดจากเรื่องความขัดแย้งระหว่างสถาบัน
พล.ต.อ.ต่อศักดิ์กล่าวต่อว่า สั่งให้ทำงานเชิงรุก สำรวจจัดทำรายชื่อกลุ่มบุคคลที่มีแนวโน้มก่อเหตุรุนแรง และความสัมพันธ์ทางสถาบันจัดกลุ่มคู่ขัดแย้งเพื่อเฝ้าระวังการก่อเหตุ ส่วนการคาดโทษผู้กำกับในพื้นที่เกิดเหตุนั้น ต้องพิจารณาว่าเมื่อสั่งการไปแล้ว กระตือรือร้นจัดทำแผนป้องกันรับมือหรือสำรวจข้อมูลในพื้นที่หรือไม่ หากไม่กระตือรือร้นปฏิบัติตามข้อสั่งการก็จะพิจารณาดำเนินการต่อไป พร้อมย้ำว่าการแก้ปัญหานี้เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถแก้ปัญหาฝ่ายเดียวได้ ต้องบูรณาการร่วมกับหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องทั้งสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ เพื่อแก้ปัญหานี้ได้อย่างยั่งยืน
เมื่อถามถึงภาพยนตร์ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการทะเลาะวิวาทระหว่างสถาบันกำลังจะเข้าฉายในช่วงสัปดาห์หน้า พล.ต.อ.ต่อศักดิ์กล่าวว่า ยังไม่ทราบข่าวนี้ ส่วนจะส่งผลกระทบต่อสังคมหรือไม่นั้นต้องพิจารณาเนื้อหาก่อน แต่ส่วนตัวมองว่าควรสื่อสารในทางที่สร้างสรรค์มากกว่าเรื่องความรุนแรง เพราะอาจทำให้เกิดพฤติกรรมการลอกเลียนแบบได้
ทั้งนี้บก.สส.บช.น., สส.บก.น.1 และตำรวจสืบสวน สน.ดุสิต ร่วมกันจับกุมนายอัครพล ศิริเมฆานนท์ หรือยีน ไทรน้อย อายุ 22 ปี ตามหมายจับศาลอาญา ที่ จ.4091/2566 ลงวันที่ 20 พ.ย. 2566 ฐานความผิดฐาน “ร่วมกันฆ่าผู้อื่น, พยายามฆ่าผู้อื่น, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พาอาวุธปืนติดตัวไปในตัวเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต, ยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุ ในเมือง หมู่บ้าน หรือที่ชุมชน และพาอาวุธ (อาวุธปืนและมีด) ไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยเปิดเผย หรือโดยไม่มีเหตุสมควร โดยสามารถจับกุมที่บริเวณซอยจรัญสนิทวงศ์ 3 แยก 5
สอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ยิงนักศึกษาที่เสียชีวิต ให้การว่าตนเองป้องกันตัวจากกลุ่มของผู้เสียชีวิต เนื่องจากกลุ่มของตนถูกทำร้ายก่อน ทั้งนี้จะนำส่งพนักงานสอบสวน สน.ดุสิต เพื่อดำเนินคดีต่อไป
Advertisement
มือยิงนศ. – ตร.สืบสวนนครบาลจับกุมนายอัครพล ศิริเมฆานนท์ ฉายา ‘ยีน ไทรน้อย’ มือยิงนายพงศ์ภีระ สุขโคตร น.ศ.เทคนิคดุสิตเสียชีวิต สารภาพดื่มน้ำกระท่อมกับเพื่อนก่อนชวนกันออกมาก่อเหตุ เมื่อวันที่ 21 พ.ย.
ต่อมาเวลา 18.30 น. ภายหลังการสอบสวนเบื้องต้นเสร็จสิ้น พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. กล่าวว่า นายอัครพลเป็นอดีตน.ศ.สถาบันแห่งหนึ่งฝั่งธนบุรี ก่อนเกิดเหตุผู้ต้องหาทั้งสามคนได้ดื่มน้ำกระท่อม ชักชวนกันมาแซวหาเรื่องกับเด็กที่จะเดินไปที่เทคนิคดุสิต ระหว่างนั้นผู้ตายเดินอยู่ กระทั่งมีเพื่อนขี่จยย.มารับ ผู้ต้องหาทั้ง 3 จึงขี่จยย.ตามทัน ก่อนเกิดการชุลมุนต่อสู้กัน มือยิง โดยนายอัครพลให้การว่า นายออฟคนซ้อนท้ายได้ถูกแทงบาดเจ็บ นายอัครพลจึงใช้ปืนยิงผู้เสียชีวิต โดยนายอัครพลรับสารภาพว่าเป็นคนยิงจริง สำหรับมูลเหตุจูงใจตนได้ให้พนักงานสอบสวนดำเนินการสอบสวนแล้ว
ผบช.น.กล่าวว่า ขณะนี้ทราบชื่อผู้ต้องหาอีก 2 คนแล้ว พนักงานสอบสวนสามารถรวบรวมพยาน อาวุธปืน เหลือเพียงติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่เหลืออีก 2 คน ทั้งนี้หากผู้ต้องหาที่เหลือจะมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจก็เป็นสิทธิ์ของผู้ต้องหาแต่หากเจ้าหน้าที่ตำรวจพบก็จะดำเนินการจับกุมตามขั้นตอนกฎหมาย ทั้งนี้ในช่วงเกิดเหตุผู้ต้องหาทั้ง 3 คนมีปืนคนละ 1 กระบอก แต่เบื้องต้นมีนายอัครพลรับเป็นคนยิงเพียงคนเดียว คดีนี้ยืนยันว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งระหว่างสถาบัน เพราะนายอัครพลไม่มีสภาพเป็นนักศึกษาแล้ว มีอาชีพส่งพัสดุให้บริษัทเอกชนแห่งหนึ่งเท่านั้น
พ.ต.อ.ไตรเทพ แพทย์รัตน์ ผกก.สน.ดุสิต กล่าวว่า ชุดสืบสวนสอบสวนเตรียมนำคำให้การจากพยานทุกปากมา ทบทวนเพื่อพิจารณามูลเหตุในครั้งนี้ โดยจะประชุมคดีอีกครั้งเพื่อรวบรวมพยาน หลักฐาน
จากการสืบสวนคาดว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุเป็นอดีตนักเรียนช่าง ซึ่งแรงจูงใจการก่อเหตุไม่น่าเกี่ยวข้องกับเรื่องการทะเลาะวิวาท หรือการแก้แค้นจากอริต่างสถาบันที่มีข่าวไปก่อนหน้านี้ ส่วนการติดตามจับกุมกำลังเร่งไล่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด เพื่อหาเส้นทางหลบหนีของคนร้าย ซึ่งใกล้จะมีความชัดเจนมากขึ้นแล้ว อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ไล่ตรวจสอบประวัติการเข้ารับการรักษาพยาบาลใน โรงพยาบาลรอบพื้นที่เกิดเหตุ เนื่องจากกลุ่มเพื่อนผู้เสียชีวิต ระบุว่า ใช้มีดแทงไปยังกลุ่มผู้ก่อเหตุ แต่ขณะนี้ยังไม่พบข้อมูล
ด้านนายยศพล เวณุโกเศศ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) กล่าวว่า ได้แสดงความเสียใจไปยังผู้ปกครองของนักศึกษาที่เสียชีวิต และที่ผ่านมาสอศ.ดำเนินการตามนโยบายของพล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ (ศธ.) กำชับให้สถานศึกษาในสังกัดสอศ. ทั้งรัฐและเอกชน เฝ้าระวังไม่ให้เกิดเหตุวิวาท โดยทำงานควบคู่กับเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างใกล้ชิด อย่างไรก็ตามแม้จะยังเฝ้าระวังอย่างเข้มข้น แต่ก็ยังมีเหตุเกิดขึ้น และเท่าที่ทราบ เรื่องที่เกิดขึ้นไม่น่าจะเป็นการทะเลาะวิวาท แต่เป็นการจ้องทำร้าย ขณะนี้ทางตำรวจพอจะรู้ตัวผู้ก่อเหตุ โดยสภาพปัจจุบันไม่ได้เป็นนักเรียน นักศึกษา และมีหมายจับออกแล้ว ตอนนี้ทางตำรวจดำเนินการไปตามรูปคดี ปัญหาอริสถาบันทำร้ายกันนี้คงต้องช่วยเหลือกันในทุกมิติ ทั้งครอบครัว สถานศึกษา และการบังคับใช้กฎหมาย รวมถึงปลูกฝังจิตสำนึก ให้นักศึกษาเกิดความตระหนักรับผิดชอบต่อสังคมให้ได้
เชิญวิญญาณ – น.ส.นวลนภา เกตุสุวรรณ แม่นายพงศ์ภีระ สุขโคตร น.ศ.ดุสิตที่ถูกยิงเสียชีวิต เดินทางมาพร้อมครอบครัวทำพิธีเชิญวิญญาณลูกชาย จากจุดเกิดเหตุซอยระนอง 2 ส่วนศพตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดพรหมวงศาราม เขตดินแดง กทม. เมื่อวันที่ 21 พ.ย.
วันเดียวกัน นายชาญณรงค์ สุขโคตร อายุ 42 ปี น.ส.นวลนภา เกตุสุวรรณ อายุ 40 ปี พ่อและแม่ของนายพงศ์ภีระ เดินทางมาที่ซอยระนอง 2 จุดที่ผู้ตายถูกยิง เพื่อมาเชิญดวงวิญญาณของนายพงศ์ภีระ ไปบำเพ็ญกุศลยังวัดพรหมวงศาราม แขวงและเขตดินแดง ระหว่างที่ทำพิธีน.ส.นวลนภา แม่ของผู้ตายพูดทั้งน้ำตาว่ากับรูปว่า “กลับบ้านนะลูก แม่มารับลูกแล้ว”
ที่ศาลา 2 วัดพรหมวงศาราม ครอบครัวนายพงศ์ภีระ นำร่างมาตั้งบำเพ็ญกุศล โดยมีคณาจารย์และเพื่อนๆ มาร่วมพิธี บรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า
น.ส.นวลนภา แม่ผู้ตาย กล่าวทั้งน้ำตาว่า ขณะนี้ตำรวจยังไม่แจ้งความคืบหน้าเรื่องคดี แต่ทราบว่าคนร้ายจะเข้ามอบตัวแล้ว อยากฝากไปว่าหากเข้ามามอบตัวก็ถือว่าทำถูกแล้ว ให้เข้ามารับผิด กล้าทำก็ต้องกล้ารับ ตนมีลูกคนเดียว มีลูกชายเป็นความหวัง จากนี้ไม่รู้จะอยู่ยังไงและไปทางไหนแล้วเพราะหัวใจสลาย กำลังใจพังยับเยินหมดสิ้น แต่ตนไม่กดดันอะไรกับตำรวจเพราะเห็นพวกเขาทำงานกันเต็มที่แล้ว
“เคยห้ามลูกไม่ให้เรียนช่าง เพราะเห็นข่าวทะเลาะวิวาทมาแล้วหวาดกลัว แต่เขารักโรงเรียนนี้อยากจบจากที่นี่ เคยบอกไม่ได้เรียนต่อที่นี่ก็จะไม่เรียนแล้ว เมื่อลูกตั้งใจก็เลยไม่ห้าม ซึ่งลูกไม่เคยเล่าเรื่องอะไรจากโรงเรียน พูดเพียงว่าป้องกันตัวได้ไม่มีปัญหา ส่วนเพื่อนเขาก็ไม่พูด เช้าก่อนวันที่ลูกจะออกไปเรียน เขาเข้ามากอดแล้วบอกว่ารักแม่นะ ตัวเองก็ไม่คิดว่าจะเป็นกอดสุดท้าย” น.ส.นวลนภากล่าวด้วยเสียงสั่นเครือ
