ป่วยจิต-เมาเหล้าขี่จยย. ‘คอนสาร’ชัยภูมิระทึก ครูใจเด็ดเผยนาทีชีวิต เข้าสู้-รับมีดแทนเด็ก ตร.ค้นบ้านเจอยาบ้า

ครูนักเรียนวิ่งหนีตายอลหม่าน หนุ่มป่วยจิตคลั่งขี่จยย.ควงมีดพร้า บุกเข้าโรงเรียนที่คอนสาร ชัยภูมิ ไล่ฟันครูกับนักเรียนกว่า 100 คนขณะทำกิจกรรมตอนเช้า ปาแก้วปาขวดใส่ ครูพละเผยนาทีชีวิตเห็นท่าไม่ดีรีบพานักเรียนเข้าไปหลบในอาคาร พอคนร้ายตามไปจึงเอาตัวเข้าขวางถูกฟัน บาดเจ็บ ก่อนเกิดการต่อสู้กันกระทั่งหนุ่มคลั่งรีบขี่จยย.เข้าไปหลบซ่อนตัวอยู่ในบ้านพักใกล้โรงเรียน จึงรีบโทร.แจ้งตำรวจมาเกลี้ยกล่อมนานนับช.ม.จนยอมมอบตัว พ่อแม่ชายคลั่งระบุลูกป่วยจิตเวชไม่ยอมกินยาและน่าจะเมาเหล้าด้วยจึงก่อเหตุขึ้น ตร.ค้นบ้านพบยาบ้า นำตัวส่งรักษาที่ร.พ. ก่อนแจ้งข้อหาดำเนินคดีต่อไป รองผู้ว่าฯ ชัยภูมิรุดตรวจที่เกิดเหตุ สั่งโรงเรียนพักการเรียนการสอน 1 วัน เยียวยาจิตใจครูกับเด็ก

เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 22 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเกิดเหตุการณ์ระทึก ขึ้นที่โรงเรียนบ้านน้ำพุหินลาด ต.ทุ่งนาเลา อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ ขณะที่ครูและนักเรียนกว่า 100 คน กำลังทำกิจกรรมหน้าอาคารเรียนช่วงเช้าก่อนเข้าชั้นเรียน ปรากฏว่าได้มีชายวัยกลางคนที่เป็นผู้ป่วยทางจิตเวช ซึ่งมีบ้านพักอาศัยอยู่ใกล้กับโรงเรียนดังกล่าว เกิดอาการคลุ้มคลั่ง คว้ามีดอีโต้ตัดอ้อยขนาดใหญ่ ขี่รถจักรยานยนต์บุกเข้าไปภายในโรงเรียน ก่อนจอดรถลงไปใช้มีดอีโต้ตามวิ่งไล่ฟันคณะครูและนักเรียนที่พากันวิ่งหนีเข้าไปหลบภายในอาคารเรียน

ขณะที่ครูคนหนึ่งถูกมีดฟันได้รับ บาดเจ็บเล็กน้อย ส่วนเด็กๆ สามารถหลบเข้าไปภายในตัวอาคารได้ทัน ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ สักครู่ชายคลั่งผู้ก่อเหตุก็ขี่รถจักรยานยนต์หนีออกมาจากโรงเรียนไปซ่อนตัวในบ้านตัวเองที่อยู่หน้าโรงเรียน ก่อนที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ หน่วยกู้ภัยร่วมกตัญญูอำเภอคอนสาร และเจ้าหน้าที่ ร.พ.คอนสาร นำกำลังร่วมกันเข้ามาช่วยกันเกลี้ยกล่อมชายคลุ้มคลั่งนานกว่า 1 ชั่วโมง ก่อนควบคุมตัวไว้ได้ นำตัวส่งรักษาที่ร.พ.คอนสาร ในที่สุด

คลั่งบุกร.ร. – ภาพวงจรปิดนาทีนายเริงฤทธิ์ ต่อวิญญา อายุ 37 ปี คลุ้มคลั่งควงมีดพร้าตัดอ้อยขี่จยย.เข้าไปไล่ฟันนักเรียนโรงเรียนบ้านน้ำพุหินลาด อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ ขณะทำกิจกรรมหน้าเสาธงช่วงเช้าจนต้องวิ่งแตกตื่นหนีตาย เมื่อ 22 พ.ย.

ด้านชาวบ้านในพื้นที่เผยว่า เหตุการณ์ครั้งนี้โชคดีไม่มีครูกับนักเรียนได้รับ บาดเจ็บอันตรายรุนแรงมากไปกว่านี้ แต่ชาวบ้านอยากฝากไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และครอบครัวที่มีผู้ป่วยทางจิตเวชช่วยดูแลอาการของญาติที่เป็นผู้ป่วยทางจิตที่มาอาศัยอยู่ร่วมกับคนในชุมชน ควรมีมาตรการการด่วนดูแลบุคคลลักษณะนี้ให้มากกว่านี้ รวมทั้งการรักษาผู้ป่วยทางจิตและปล่อยให้กลับเข้ามาอยู่ในชุมชนควรช่วยรักษาอาการให้หายขาดก่อน ทุกวันนี้ในหลายพื้นที่ในชุมชนที่มีบุคคลป่วยทางจิตแบบนี้มาอยู่ร่วมในชุมชนด้วย ต่างเกิดความหวาดผวา และเสี่ยงที่จะเกิดผู้ป่วยทางจิตคลุ้มคลั่งแบบนี้ออกมาสร้างความเดือดร้อนให้มากขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ในทุกวันนี้ เพื่อไม่อยากให้เหตุการณ์เกิดขึ้นซ้ำรอยบ่อยครั้ง

ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปที่โรงเรียนบ้านน้ำพุหินลาด สอบถามนายธวัชชัย ด้วงธรรม อายุ 32 ปี ครูพละ ที่พานักเรียนวิ่งหนีจากเหตุการณ์ดังกล่าวและเป็น ผู้ที่ต่อสู้กับชายคลุ้มคลั่ง ซึ่งภายหลังทราบชื่อคือ นายเริงฤทธิ์ ต่อวิญญา อายุ 37 ปี ซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุ โดยนายธวัชชัยกล่าวว่า ช่วงเช้าที่ผ่านมาตนได้พานักเรียนเตรียมทำกิจกรรมซึ่งเป็นกิจกรรมที่ทำทุกวัน และเตรียมจะพานักเรียนทำกิจกรรมหน้าเสาธงและเคารพธงชาติ จู่ๆ นายเริงฤทธิ์ ผู้ก่อเหตุ ได้ขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาในโรงเรียนและปาแก้วปาขวดเข้ามายังบริเวณที่นักเรียนเข้าแถวอยู่ จนทำให้ขวดแตกกระจาย พอตนเห็นว่าผู้ก่อเหตุถือมีดยาวขี่รถมุ่งหน้ามายังนักเรียน ตนจึงรีบพานักเรียนเข้าไปหลบมุม ก่อนให้วิ่งหนีเข้าไปหลบซ่อนตัวอยู่ภายในห้องเรียน ส่วนบางกลุ่มหนีไม่ทันให้วิ่งออกไปยังประตูด้านนอกที่อยู่ติดกับบ้านของชาวบ้านเพื่อหลบซ่อน

ครูธวัชชัยเล่าเหตุการณ์สุดระทึกต่อว่า จากนั้น ผู้ก่อเหตุมุ่งหน้ามาทำร้าย ตนจึงเอาตัวปกป้องเด็ก แล้วนำตัวบังรับมีดแทนเด็ก แล้วเกิดการต่อสู้กันสักพักคนร้ายก็ได้ ขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปหลบซ่อนตัวอยู่ในบ้าน หลังจากนั้นครูได้โทรศัพท์แจ้ง เจ้าหน้าที่ขอให้มาจับกุมตัวผู้ก่อเหตุที่ขัง ตัวเองอยู่ในบ้าน ประสานขอกำลังมาติดตาม และบุกจู่โจมเข้าไปในบ้านที่ อยู่หน้าโรงเรียนจนควบคุมตัวไว้ได้ เจ้าหน้าที่ตรวจสอบชายคลุ้มคลั่งไม่พบสิ่งเสพติด แต่มีอุปกรณ์การเสพ จึงควบคุมตัวไปที่ สภ.คอนสาร เพื่อตรวจหาสารเสพติดในร่างกาย เบื้องต้น ไม่พบสารเสพติด จึงได้ส่งตัวไปที่ ร.พ.คอนสาร เพื่อรักษาจิตเวช

จากการสอบถามเพื่อนบ้านที่อยู่บ้านติดกันเล่าว่า บ้านของผู้ก่อเหตุไม่มีใครอยู่และปิดบ้านเงียบ เนื่องจากพ่อและแม่เดินทางไปดูอาการของผู้ก่อเหตุที่โรงพยาบาล หลังเจ้าหน้าที่นำตัวไปรักษา ส่วนผู้ก่อเหตุมีนิสัยค่อนข้างก้าวร้าวรุนแรง หนักสุดเดือนนี้ทั้งเดือนก่อเหตุมีปากเสียงกับพ่อแม่และคนในบ้านเกือบทุกวัน ซึ่งก่อนเกิดเหตุเห็นผู้ก่อเหตุมีอารมณ์ฉุนเฉียว และเอะอะโวยวายอยู่ภายในบ้าน ก่อนถือมีดออกจากบ้านมุ่งหน้าไปยังโรงเรียน ก่อนที่ตนจะมาทราบภายหลังว่าได้ไปลงมือก่อเหตุภายในโรงเรียน

ด้านพ.ต.อ.พงศ์สุข คงปัญโญ ผกก.สภ.คอนสาร กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นพบว่ามีครูได้รับบาดเจ็บ 1 ราย เจ้าหน้าที่พยายามเกลี้ยกล่อมผู้ก่อเหตุให้ออกมามอบตัวนาน 1 ชั่วโมง โดยขณะนั้นก็มีพ่อและแม่ของผู้ก่อเหตุอยู่ภายในบ้านเช่นกัน จากการสอบถามพ่อและแม่ให้การว่า ทางด้านลูกชายน่าจะมีอาการเมาสุรา แต่จากการตรวจสอบภายในบ้านพักพบว่ามียาบ้าอยู่ในห้องพัก เมื่อสอบประวัติพบว่า ผู้ก่อเหตุเคยได้รับการรักษาอาการทางจิตชนิดรุนแรงแต่ขาดการรักษามาประมาณปีเศษ ด้วยการปฏิเสธการรับยา ซึ่งเรื่องนี้พ่อและแม่ของผู้ก่อเหตุก็ทราบดี ในเรื่องคดีต้องรอให้เสร็จขั้นตอนจากการรักษาภายในโรงพยาบาล ซึ่งแน่นอนว่าต้องดำเนินการทางด้านกฎหมายต่อไป

ขณะที่ น.ส.อรอาภา โล่ห์วีระ รอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอ และ หน่วยสุขภาพจิตจังหวัด เดินทางลงพื้นที่โรงเรียนที่เกิดเหตุ พร้อมสอบถามข้อมูลครูและนักเรียน โดยเบื้องต้นได้สั่งให้หยุดการเรียนการสอนในวันที่ 23 พ.ย. เพื่อเยียวยาจิตใจเด็กนักเรียนและคณะครูของโรงเรียนให้มีสภาพจิตใจที่ดีขึ้น เนื่องจากตอนนี้คณะครูและนักเรียนยังอยู่ในอาการหวาดผวากับเหตุการณ์ หากมีนักเรียนที่มีอาการรุนแรงทางกรมสุขภาพจิตก็จะเดินทางไปรักษา

ส่วนเหตุชายคลุ้มคลั่งอีกเหตุการณ์หนึ่ง เกิดขึ้นที่อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ร.ต.อ.สุริยา กล้าหาญ รอง สวป.สภ.บางละมุง รับแจ้งเหตุลูกชายให้อาวุธมีดทำร้ายพ่อแท้ๆ ได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดที่บ้านเลขที่ 261/8 หมู่ 4 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง หลังรับแจ้งจึงรายงานผู้บังคับบัญชา พ.ต.อ.นาวิน สินธุรัตน์ ผกก.สภ.บางละมุง รับทราบ ก่อนพร้อมด้วยร.ต.ท.วงศธร มรรคนันท์ รอง สว.สอบสวน สภ.บางละมุง และ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยา รีบนำกำลังไปตรวจสอบ

จุดที่เกิดเหตุที่รั้วหน้าบ้าน พบนายอุดร ชาญสูงเนิน อายุ 54 ปี อยู่ในสภาพเปลือยกายล่อนจ้อน นอนจมกองเลือด มีบาดแผลถูกแทงเข้าที่ใต้ราวนมซ้าย ที่ข้างอวัยวะเพศ และบาดแผลถูกฟันเข้าตามร่างกาย รวมนับ 10 แผล อาการสาหัส เจ้าหน้าที่กู้ภัย ทีมแพทย์ ช่วยเหลือปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนเคลื่อนย้ายส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน

สอบถาม น.ส.พรนภัส รอดสุปะ อายุ 18 ปี หลานสาว ทราบว่า ผู้ก่อเหตุคือ นายอดิศักดิ์ ชาญสูงเนิน อายุ 30 ปี เป็นลูกชายแท้ๆ ของคนเจ็บ ก่อนเกิดเหตุตนทำกับข้าวอยู่หน้าบ้าน ส่วนตาอาบน้ำอยู่หลังบ้าน จังหวะนั้นได้ยินเสียงตาร้องโอดโอย ขอความช่วยเหลือ ตนไม่กล้าเข้าไปช่วย จึงรีบขี่รถจักรยานยนต์แจ้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจมาระงับเหตุ ผู้ก่อเหตุก็ ขี่รถตามไปด้วย แล้วมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเอง ซึ่งผู้ก่อเหตุนั้นมีอาการทางจิต โดยชอบบอกว่าเป็นลูกพระนเรศวร ไม่ชอบเขมร และจะคิดว่าคนอื่นเป็นเขมร จะเข้ามาทำร้าย เกิดจากการเสพยาเสพติดหนักมาก ซึ่งเคยได้รับการรักษาจนมีอาการดีขึ้นแล้ว แต่ต้องกินยาตลอด กระทั่งภายหลังคิดว่าหายแล้วจึงไม่ยอมกินยา จนมาเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น

เบื้องต้น พ.ต.อ.นาวิน ผกก.สภ.บางละมุง ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ควบคุมตัวผู้ก่อเหตุไว้ ตรวจสารเสพติดในร่างกาย รวมถึงให้เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานเขตสอง จังหวัดชลบุรี ตรวจเก็บคราบเลือด ลายนิ้วมือแฝงของผู้ก่อเหตุ ไว้เป็นหลักฐาน ก่อนส่งตัวพร้อมของกลางมีดปอกผลไม้ให้พนักงานสอบสวน สภ.บางละมุงดำเนินคดีต่อไป ส่วนผู้บาดเจ็บยังอาการโคม่า อยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน