ชูแก้หนี้นอกระบบวาระชาตินายกฯแถลงใหญ่

ดีเดย์อังคารนี้ แจงช่วยคนจน นำทัวร์สงขลาถกผู้นำมาเลย์ รบ.ถาม‘กกต.’3ข้อประชามติ

นายกฯ จัดแถลงใหญ่ แก้หนี้นอกระบบแบบบูรณาการ ก่อนมหาดไทยเปิดลงทะเบียนช่วยเหลือ 1 ธ.ค. ‘เศรษฐา’ ทัวร์สงขลาวันนี้ หารือนายกฯ มาเลย์ พัฒนาด่านสะเดา กระตุ้นการค้าการลงทุน ท่องเที่ยวสองประเทศ ‘ภูมิธรรม’ ยัน ‘นิด-อิ๊ง’ ลงพื้นที่ต่อเนื่อง ไม่มีนัยการเมือง ส่วนเรื่องแก้ รธน. เตรียมทำหนังสือสอบถาม กกต. 3 ข้อ ต้องทำประชามติกี่ครั้ง พ่วงเลือกตั้งนายก อบจ.ได้หรือไม่ และลงทะเบียนผ่านโซเชี่ยลได้หรือไม่ รัฐบาลเมินกฎหมายนิรโทษกรรม หวั่นสร้างความขัดแย้งรอบใหม่ พรรคก้าวไกลเดินสายขอเสียงหนุนเป็นสิทธิที่ทำได้ รวมไทยสร้างชาติขวางทันที นิรโทษห้ามรวมคดี 112

เศรษฐาลุยสงขลาถกนายกฯมาเลย์
วันที่ 26 พ.ย. นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง มีกำหนดการเดินทางลงพื้นที่ชายแดนไทย-มาเลเซีย ที่ด่านสะเดา จ.สงขลา ในวันที่ 27 พ.ย. เพื่อสำรวจความคืบหน้าการพัฒนาพื้นที่ชายแดนไทย-มาเลเซีย และมีกำหนดการหารือทวิภาคีกับดะโต๊ะ เซอรี อันวาร์ อิบราฮิม นายกฯ มาเลเซีย เพื่อผลักดันประเด็นที่ผู้นำทั้งสองฝ่ายหารือกันไว้

นายกฯ จะออกเดินทางเวลา 08.30 น. จากกรุงเทพฯไป อ.หาดใหญ่ ถึงด่านสะเดาแห่งใหม่ เวลา 11.00 น. เพื่อต้อนรับนายกฯ มาเลเซีย พร้อมหารือทวิภาคี และรับฟังความคืบหน้าการพัฒนาพื้นที่ชายแดนไทย-มาเลเซีย และสถานการณ์การค้าและการท่องเที่ยวบริเวณชายแดนของทั้งสองประเทศ นอกจากนี้ ผู้นำไทย-มาเลเซียจะร่วมกันสำรวจเส้นทางเชื่อมด่านสะเดาแห่งใหม่ กับด่านบูกิตกายูฮิตัมของมาเลเซีย หลังจากนั้น นายกฯ จะเป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารกลางวันแก่นายกฯ มาเลเซีย ที่โรงแรม Vista

เชื่อมการค้าลงทุน-ท่องเที่ยว
นายชัยกล่าวว่า การเดินทางลงพื้นที่ชายแดนไทย-มาเลเซีย สืบเนื่องมาจากการเยือนมาเลเซียอย่างเป็นทางการของนายกฯ เมื่อ 11 ต.ค.ที่ผ่านมา ผู้นำไทยและมาเลเซีย เห็นพ้องผลักดันการค้าชายแดน การแก้ปัญหาความแออัดของด่านสะเดา รวมถึงการก่อสร้างเส้นทางเชื่อมด่านสะเดาแห่งใหม่กับด่านบูกิต กายูฮิตัมของมาเลเซีย และประเด็นความร่วมมืออื่นให้คืบหน้าอย่างเป็นรูปธรรมยิ่งขึ้น และเห็นพ้องกระชับความร่วมมือทุกด้าน โดยเฉพาะการค้าการลงทุน และความสัมพันธ์ระดับประชาชน

การพบหารือของนายกฯ และมาเลเซีย สะท้อนความตกลงร่วมกันของสองรัฐบาล ที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาพื้นที่ชายแดน เพื่ออำนวยความสะดวก ความเชื่อมโยงในการ เดินทาง รวมถึงการค้าขายชายแดนระหว่างกันให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อประโยชน์โดยตรงของประชาชนไทยและมาเลเซีย ทั้งการค้า ลงทุน การท่องเที่ยว ด้านเศรษฐกิจ และทางด้านสังคม การไปมาหาสู่ระหว่างกัน

เย็นเปิดงานลอยกระทงสุโขทัย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจบภารกิจที่จ.สงขลา ช่วงเย็นวันที่ 27 พ.ย. นายกฯจะไปเป็นประธานในงานประเพณีลอยกระทงเผาเทียนเล่นไฟจังหวัดสุโขทัย ประจําปี 2566 บริเวณอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย

โดยบรรยากาศค่ำวันที่ 26 พ.ย. ภายในอุทยาน มีการจัดแสดงแสง สีเสียง จัดตลาดชุมชนโบราณที่ใช้เงินพดด้วงจับจ่ายซื้อสินค้า และมีผู้เฒ่าผู้แก่หลายรายลอยกระทงล่วงหน้าเพื่อขอขมาพระแม่คงคา ขณะที่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติให้ความสนใจมาเที่ยวชมอย่างคึกคัก และพากันสวมใส่ชุดไทยโบราณมาร่วมงาน

จับตาแถลงใหญ่แก้หนี้ 28 พย.นี้
นางรัดเกล้า สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ให้ความสำคัญกับการแก้หนี้นอกระบบเป็นวาระแห่งชาติ โดยนายกฯ เตรียมแถลงเรื่องแก้หนี้นอกระบบในวันอังคารที่ 28 พ.ย. นี้ ส่วนหนี้ในระบบแถลงอีกครั้งในวันที่ 12 ธ.ค.นี้ เพื่อให้เห็นถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาหนี้ทั้งในระบบและนอกระบบ และบูรณาการทำงานร่วมกัน เชื่อว่าการแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนจะเกิด ผลสำเร็จโดยเร็ว

ด้านกระทรวงการคลังที่ดำเนินการสนับสนุนการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบอย่างเต็มที่ ได้เพิ่มช่องทางการเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบให้ประชาชนรายย่อยในอัตราดอกเบี้ยที่เป็นธรรม มีการบูรณาการหลายหน่วยงาน เช่น เจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝ่ายปกครอง โดยกระทรวงมหาดไทยเปิดรับลงทะเบียนช่วยเหลือลูกหนี้นอกระบบที่เว็บไซต์ https://debt.dopa.go.th ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.เป็นต้นไป

“นายกฯ ย้ำเสมอว่ารัฐบาลนี้ทำงานอย่างเต็มที่ในการแก้ไขปัญหา เข้าใจความลำบากของพี่น้องประชาชนในการลดค่าใช้จ่าย จึงมั่นใจว่าการแก้ไขปัญหานี้จะเกิดขึ้นโดยเร็ว อีกทั้งจากการลงพื้นที่สอบถามประชาชนก็เห็นด้วยและสนับสนุนการแก้หนี้ทั้งระบบ ประชาชนจะได้ไม่ต้องไปจ่ายดอกเบี้ย ที่แพงเกินและทำให้อยู่ดีกินดี

ภูมิธรรมแจง‘นิด-อิ๊ง’ลงพื้นที่ถี่
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ กล่าวถึง การลงพื้นที่ของนายเศรษฐา ตลอด 2 สัปดาห์ว่า ไม่มีนัยยะทางการเมือง แต่เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่ดีที่ควรทำ และนายกฯ ยังถือว่ารู้จักพื้นที่ไม่มากพอจึงอยากสัมผัสกับประชาชนด้วยตัวเอง ไปรับฟังความรู้สึก ปัญหาต่างๆ ในพื้นที่ด้วยตัวเอง

เมื่อถามถึงการลงพื้นที่คู่ขนานกับ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เป็นการปูทางเพื่อเป็นนายกฯ คนต่อไปหรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า น.ส.แพทองธารลงพื้นที่พร้อมนายกฯ แค่บางครั้ง ภารกิจของน.ส.แพทองธารเน้นเรื่องซอฟต์เพาเวอร์ หากจะทำได้ดีต้องลงพื้นที่ไปดูด้วยตัวเอง น.ส.แพทองธาร มีหน้าที่เป็นหัวหน้าพรรค ดูแลเรื่องของพรรคและประกาศชัดเจนไปแล้วว่าจะพัฒนาพรรคเพื่อไทย ปรับระบบพรรค ทำให้พรรคสามารถทำประโยชน์ให้ประชาชนได้มากที่สุด และจะเป็นสะพานเชื่อมในการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน นำไปถ่ายทอดให้กับรัฐบาล

รัฐบาลมีเวลาอีก 3 ปีกว่า ยังไม่รีบร้อน ขณะนี้น.ส.แพทองธารเข้ามาประชุมร่วมกับรัฐบาลในคณะต่างๆ ได้รับรู้ มีส่วนช่วยสนับสนุนมากอยู่แล้ว การได้มาทำงานโดยมีเป้าหมายในการทำงานให้กับประชาชนถือเป็นการเรียนรู้ที่ดีอยู่แล้ว และที่ผ่านมา น.ส.แพทองธารลงพื้นที่เกือบทุกที่ตอนหาเสียงเลือกตั้งอยู่แล้ว

เตรียมถามกกต. 3 ข้อ
นายภูมิธรรม ในฐานะประธานคณะกรรมการเพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางในการทำประชามติ เพื่อแก้ไขปัญหาความเห็นที่แตกต่างในเรื่องรัฐธรรมนูญ 2560 กล่าวถึงความคืบหน้าการจัดทำรัฐธรรมนูญ ว่า เหลือขั้นตอนรับฟังความเห็นจากสส.สว.ที่ได้ทำแบบสอบถามไปแล้ว และรอการหารือร่วมกันเมื่อเปิดประชุมสภา คิดว่าไม่เกินกลางธ.ค.นี้ น่าจะรับฟังมาได้หมด จากนั้นจะสรุปร่วมว่าประชาชนคิดอย่างไร เห็นต่างอย่างไร และจัดทำบันทึกก่อนเสนอครม.พิจารณา

ส่วนการศึกษาทำประชามติยังมีความเห็นที่แตกต่างว่าจะทำ 2 ครั้ง หรือ 3 ครั้ง ที่เป็นปัญหาที่สำคัญต้องทำให้เกิดความชัดเจน เพราะหากส่งศาลรัฐธรรมนูญตีความว่าไม่สามารถทำได้ครบถ้วนตามรัฐธรรมนูญ กฎหมายจะตกไป ความคิดเห็นที่ทำมาก็จะตกไป ดังนั้นสัปดาห์หน้าจะลงนามหนังสือเพื่อสอบถามไปยัง กกต. ชุดใหญ่ 3 ข้อ

1.การตีความของกกต. จะมีการทำประชามติกี่ครั้ง 2.เพื่อประหยัดงบประมาณ จะจัดทำประชามติไปพร้อมกับการเลือกตั้งใหญ่ที่จะเกิดขึ้น เช่น นายก อบจ.ทั่วประเทศ ที่จะมีขึ้นในปีหน้าได้หรือไม่ และ 3.โลกที่มีการเปลี่ยนแปลงไป มีการใช้ระบบดิจิทัลมากขึ้น หากจะใช้โซเชี่ยลมีเดียมาร่วมลงทะเบียนได้หรือไม่ หากทำได้จะสะดวกมากขึ้น อาจทำให้การใช้จ่ายในการเลือกตั้งลดน้อยลงไปมาก

ศึกษาแนวทางแก้มาตรา 256
นายภูมิธรรมกล่าวว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้มีปัญหาเรื่องการตีความว่าใครมีอำนาจส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ จึงมีการเสนอให้ประธานสภาผู้แทนราษฎร ยื่นตีความเรื่องนี้ แต่เป็นเรื่องที่นอกเหนืออำนาจของคณะกรรมการ จึงเสนอให้พรรคที่อยู่ในที่ประชุมไปปรึกษาหารือเพื่อเสนอผ่านสภา และให้สภายื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อให้เกิดความชัดเจนมากยิ่งขึ้น โดยให้ไปหาข้อสรุปกันในสภา หากมีข้อขัดแย้งสภาก็จะเป็นผู้เสนอส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญเป็นผู้ตีความ

ทั้งนี้ กำชับให้อนุกรรมการการศึกษาฯ ศึกษาควบคู่ขนานกันไปว่า หากจำเป็นต้องมาแก้มาตรา 256 เพื่อ เปิดช่องให้มี ส.ส.ร.ยกร่างใหม่ทั้งฉบับ เพราะจากการรับฟังความเห็นถ้าเอา สสร.เลือกตั้งบางกลุ่มวิชาชีพไม่มีโอกาส จึงน่าจะมี สสร.ที่มาจากการ สุ่มหาจากวิชาชีพต่างๆ ที่ไม่ใช่การเลือกตั้งทั่วไป จึงมอบให้อนุกรรมการศึกษาฯ ไปดูว่าสามารถทำอะไรได้บ้าง

เมินนิรโทษ-หวั่นขัดแย้งรอบใหม่
นายภูมิธรรมกล่าวกรณีนายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล เดินสายขอเสียงสนับสนุนร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ของพรรคก้าวไกล ล่าสุดได้เข้าพบนายสุวิทย์ ทองประเสริฐ หรือ พุทธะอิสระที่วัดอ้อน้อย ว่า เป็นสิทธิของพรรคก้าวไกลที่จะไปรับฟังความเห็นทุกฝ่าย ทั้งพรรคการเมือง และนายสุวิทย์ขอให้สรุปมา อะไรที่เป็นประโยชน์รัฐบาลนี้ทำได้ก็จะทำ

เมื่อถามถึงจุดยืนของรัฐบาลและพรรคเพื่อไทยต่อร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม นายภูมิธรรมกล่าวว่า เรามุ่งมั่นทำทุกเรื่องที่เป็นข้อสรุปในสังคม แต่ถ้ายังไม่มีข้อสรุป แล้วนำไปสู่ความขัดแย้งก็ยังไม่อยากทำ เพราะไม่อยากสร้างความขัดแย้งใหม่ในขณะที่เราได้สลายความขัดแย้งเดิมไปแล้ว หน้าที่ของเราวันนี้ คือทำให้ประเทศเดินไปข้างหน้า อย่าให้ความขัดแย้งใดๆ เป็นอุปสรรคในการขับเคลื่อนประเทศ

ยันต้องไม่มีผลประโยชน์แฝง
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวกรณีนายชัยธวัชเดินสายรับฟังความเห็นฝ่ายต่างๆ ทั้งคนเสื้อแดง กลุ่มพันธมิตรฯ กปปส. ขอเสียงหนุนร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม ว่า ถือเป็นสิทธิที่นายชัยธวัชจะเดินสายไปพบใคร หรือนำเสนออะไร การคืนความยุติธรรมต้องทำอย่างเสมอภาค เท่าเทียม ไม่เลือกปฏิบัติ และต้องไม่ก่อให้เกิดความขัดแย้งรอบใหม่ หรือทำตัวเป็นคู่ขัดแย้งเสียเอง ร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมคดีทางการเมืองจะได้รับการยอมรับมากขึ้น หากมีวัตถุประสงค์ให้เป็นจุดเริ่มต้นเกิดกระบวนการปรองดอง ดำเนินการเพื่อคนทุกฝ่าย ทุกกลุ่มอย่างเท่าเทียม ไม่มีผลประโยชน์แอบแฝง

รทสช.ขวางรวมคดี 112
นายธนกร วังบุญคงชนะ รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ให้สัมภาษณ์กรณีเดียวกันว่า ถือเป็นเรื่องที่ดีที่นาย ชัยธวัชไปรับฟังทุกฝ่าย ก่อนสภาพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม จะทำให้แต่ละฝ่ายเข้าใจเนื้อหามากขึ้น

เมื่อถามว่าดูเหมือนร่างของพรรค ก้าวไกลมุ่งปลดล็อกคดีมาตรา 112 นายธนกรกล่าวว่า กฎหมายดังกล่าวหากสร้างความปรองดองแก่ทุกฝ่ายทางการเมืองที่เห็นต่างถือว่ายอมรับได้ แต่ต้องไม่ใช่ความผิดจากการกระทำที่ความรุนแรง และต้องไม่ละเมิดกฎหมายความมั่นคงแห่งรัฐ โดยเฉพาะประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ที่ไม่ใช่เรื่องการเมือง ตนไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งหากจะนิรโทษความผิดในมาตรา 112 หากพรรคก้าวไกลผลักดันให้พ้นความผิดมาตรา 112 ขอคัดค้าน

จ่อถาม 2 สภา-ประชามติเมื่อไร
นายนิกร จำนง ประธานคณะอนุกรรมการรับฟังความคิดเห็นประชาชนเกี่ยวกับแนวทางในการทำประชามติ กล่าวถึงความคืบหน้าการเดินสายรับฟังความเห็นว่า ขณะนี้เหลือการรับฟังความคิดแค่ 2 กลุ่ม วันที่ 28 พ.ย.จะเดินสายไปรับฟังความคิดเห็นของชาวเหนือ จะเชิญกลุ่มชาติพันธุ์มาพูดคุยด้วย ส่วนในภาคใต้ ไปจ.สงขลา 7 ธ.ค. จะเชิญพี่น้องชาวมุสลิมมาพูดคุยด้วย จะไม่ขยายกลุ่มเพื่อรับฟังความคิดเห็นเพิ่มแล้ว จะเป็นการรับฟังความคิดเห็น 4 ภาค 4 กลุ่มที่เป็นลักษณะพิเศษเฉพาะของแต่ละภาคคือ ภาคเหนือจะเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ ท่องเที่ยว, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือเป็นเกษตรกร ชาวนา,ภาคตะวันออกเป็นภาคอุตสาหกรรมผู้ใช้แรงงาน, ภาคใต้ เป็นคนจังหวัดชายแดน พี่น้องมุสลิม

นอกจากนี้ ยังมีคนกลุ่มต่างๆ ที่เชิญมาพูดคุยอีก 15 กลุ่มไปแล้ว รวมถึงสมาชิกรัฐสภาก็มีการพูดคุยกับ กมธ. 2 คณะ โดยมีการทำแบบสอบถามแล้ว ซึ่งจะรอถามตอนที่สภาเปิดแล้ว จะถามทั้ง 750 คน เพราะเขาจะเป็นคนโหวตเรื่องจะทำประชามติเมื่อไร จะทำก่อนเริ่มกระบวนหรือทำหลังจากที่มีกระบวนการไปแล้ว เรื่องนี้ไม่ใช่เฉพาะข้อกำหนดเท่านั้น แต่เป็นเรื่องของการเมืองด้วยว่าเขาจะโหวต เพราะ เราอาจติดปัญหาที่ต้องใช้เสียงของ สว. 84 เสียง ตามรัฐธรรมนูญฉบับเก่า

ยันต้องแก้กม.ประชามติ
เมื่อถามว่าขณะนี้การทำงานถือว่าเป็นไปตามแบบแผนหรือมีปัญหาอุปสรรคใดเกิดขึ้นหรือไม่ นายนิกร กล่าวว่า ไม่มีเลย มีติดอยู่เรื่องเดียว กฎหมายประชามติที่ต้องพิจารณาเป็นพิเศษ ซึ่งเรื่องนี้ได้หารือกันแล้วและต้อง รอฟังคณะกรรมการพิจารณาประชามติว่าเราจะดำเนินการใดๆเกี่ยวกับกฎหมายประชามติที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ขอย้ำว่าตนได้เสนอร่างแก่ที่ประชุมไปแล้วว่าให้แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 13 พ.ร.บ. ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ พ.ศ.2564 เกี่ยวกับคะแนนการออกเสียงประชามติ ส่วนจะทำประชามติทั้งหมดกี่ครั้งนั้น ขณะนี้ยัง ไม่ทราบและ จะมีการพิจารณาอีกครั้งในช่วงปลาย ธ.ค.นี้