‘กาดต้นลำไย’ไหม้วอด100ล.

ไฟไหม้ระทึก ‘กาดต้นลำไย’ ตลาดเก่าแก่กลางเมืองเชียงใหม่ตั้งแต่กลางดึกยันเช้า เผาวอดอาคารพาณิชย์ครึ่งตึกครึ่งไม้อายุเก่าแก่กว่า 80 ปี รวม 9 คูหา มูลค่าความเสียหาย ไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท ชาวบ้านระบุต้นเพลิงมาจากโคมลอยวันลอยกระทงตกใส่หลังคาอาคารก่อนลุกลามจนคุมไม่อยู่ นายกเล็ก-ผู้ว่าฯเชียงใหม่รุดลงพื้นที่ตั้งศูนย์อำนวยการให้ความช่วยเหลือ ผู้ประสบภัย ประกาศปิดพื้นที่ป้องกันอันตราย เร่งสืบสวนหาสาเหตุที่แท้จริง

เมื่อเวลา 03.00 น. วันที่ 28 พ.ย. เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลนครเชียงใหม่ รับแจ้งว่าเกิดเหตุเพลิงไหม้อาคารพาณิชย์บริเวณตลาดต้นลำไย ถนนไปรษณีย์ ต.ช้างม่อย อ.เมือง จ.เชียงใหม่ แหล่งการค้าเก่าแก่ที่สุดของเชียงใหม่ นายอัศนี บูรณุปกรณ์ นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ รีบจัดทีมดับเพลิงเข้าสกัดไฟ พร้อมนำเจ้าหน้าที่หน่วยเกี่ยวข้องลงพื้นที่ทันที

ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์ครึ่งตึก ครึ่งไม้อายุเก่าแก่กว่า 80 ปี ย่านการค้าเก่าแก่ของเมืองเชียงใหม่ ใกล้กับตลาดดอกไม้และตลาดต้นลำไย กลางเมืองเชียงใหม่ ส่วนใหญ่เปิดเป็นร้านขายของชำ เพลิงได้ลุกไหม้อาคารเสียหาย 9 หลังคาเรือน ใกล้ลุกลามติดศาลเจ้าปึงเถ้ากง ศาลเจ้าเก่าแก่ในพื้นที่ ส่วนร้านใกล้เคียงพากันขนทรัพย์สินมีค่าหนีเปลวเพลิง เจ้าหน้าที่ระดมรถดับเพลิงกว่า 10 คันฉีดน้ำนานกว่า 30 นาที กระทั่งควบคุมได้ในที่สุด แต่ยังมีควันคุกรุ่นลอยออกมาตลอดเวลา ทำให้ยังต้องคอยฉีดน้ำหล่อเลี้ยงป้องกันไฟปะทุขึ้นมาอีกครั้ง จนถึงเช้าจึงสงบ เบื้องต้นมูลค่าความเสียหายรวมไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท ส่ วนสาเหตุอยู่ระหว่างให้เจ้าหน้าที่พฐ.เข้าตรวจสอบ

ส่วนต้นเพลิงนั้นได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบควันไฟ ก่อนที่จะมีเปลวเพลิงลุกไหม้บนชั้นดาดฟ้าของอาคารช่วงคูหาที่ 4-5 ก่อนที่จะมีการลุกลามไปอย่างรวดเร็ว เนื่องจากสินค้าส่วนใหญ่เป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ประกอบกับส่วนของหลังคาและอาคารด้านหลังเป็นไม้ทั้งหมดจึงทำให้ไฟลุกลามออกไปยังคูหาข้างเคียง และอาคารด้านหลัง

นายอัศนีเผยว่า เบื้องต้นให้ปิดกั้นพื้นที่และห้ามใช้พื้นที่โดยเด็ดขาดเพื่อความปลอดภัย พร้อมจัดตั้งศูนย์อำนวยการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเหตุไฟไหม้ครั้งนี้ และประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุอย่างละเอียดเพื่อเก็บหลักฐานและหาสาเหตุที่ชัดเจนของการเกิดไฟไหม้ในครั้งนี้ เบื้องต้นมีอาคารพาณิชย์ 9 คูหา และโกดังเก็บสินค้าที่อยู่ด้านหลัง พร้อมทรัพย์สินที่ส่วนใหญ่เป็นสินค้าได้รับความเสียหาย บริเวณที่เกิด ไฟไหม้นั้นครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 1,400 ตารางเมตร เทศบาลนครเชียงใหม่ออกคำสั่งห้ามใช้พื้นที่แล้วเพื่อความปลอดภัย พร้อมเร่งสำรวจความเสียหายและหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป สำหรับมูลค่าความเสียหายนั้นเบื้องต้นจากข้อมูลจากเจ้าของอาคารแต่ละรายรวมกันแล้วน่าจะมากกว่า 100 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นสินค้าที่เตรียมไว้ขาย

ไหม้ตลาดดัง – จนท.ระดมฉีดน้ำดับเพลิงไหม้ตลาดต้นลำไย ตลาดเก่าแก่เมืองเชียงใหม่กลางดึกคืนวันลอยกระทงวอด 9 คูหา มูลค่า 100 ล้านบาท สาเหตุอยู่ระหว่างตรวจสอบแต่ชาวบ้านเชื่อว่าเกิดจากไฟโคมลอย

ต่อมานายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผวจ.เชียงใหม่ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ โดยได้ลงมาติดตามการทำงานของเจ้าหน้าที่ พร้อมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่เสี่ยงชีวิตเข้าดับเพลิงในครั้งนี้ ส่วนเจ้าของบ้านที่มาดูจุดเกิดเหตุและได้ให้กำลังใจหลายคนอยู่ในอาการเสียใจและตกใจอย่างมากในตอนนี้ โดยผู้ว่าฯ ลงเดินไปตรวจสอบโดยรอบพื้นที่ทั้งหมดทั้งจุดที่เป็นอาคาร 9 คูหา ด้านหลังอาคารที่เป็นบ้านไม้วอดเสียหายทั้งหมด รวมทั้งพื้นที่โดยรอบ ทั้งศาลเจ้าปุงเถ้ากง บ้านเรือนประชาชน และฝั่งของพิพิธภัณฑ์ไปรษณีย์ไทยที่อยู่ติดกันก่อนที่จะรอให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องตรวจสอบความเสียหายโดยละเอียดอีกครั้ง








Advertisement

รายงานข่าวแจ้งว่า ขณะนายนิรัตน์ลงพื้นที่มีหญิงสาวหนึ่งในเจ้าของร้านค้า ที่ถูกเพลิงไหม้ขอเข้าพบพร้อมระบุว่า ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์บอกว่าสาเหตุของเพลิงไหม้มาจากโคมลอยที่ตกใส่หลังคา โดยหลังคาส่วนใหญ่เป็นไม้ทำให้ไฟลุกลามรวดเร็ว ส่วนตัวเอะใจและรู้สึกสังหรณ์ใจแต่แรกแล้วเพราะช่วงกลางคืนก่อนที่จะปิดร้านกลับบ้านพบว่ามีคนฝ่าฝืนเล่นโคมลอยในพื้นที่ริมแม่น้ำปิงและบนสะพานนวรัตน์จำนวนมาก ทั้งที่เป็นเขตห้ามเล่น ห้ามปล่อยโคมลอยทุกชนิด กลัวว่าจะไปตกใส่หลังคาและเกิดไฟไหม้ แต่ไม่คิดว่าจะกลายมาเป็นเหยื่อเสียเอง ตอนนี้ทรัพย์สินเสียหายทั้งหมดแทบหมดตัว ไม่ควรจะมีคนมาปล่อยในเขตตัวเมืองเช่นนี้

ด้านนายนิรัตน์เผยว่า ได้มาติดตามความคืบหน้า ตอนนี้ต้องกันพื้นที่ไว้เพื่อความปลอดภัย เบื้องต้นรอสรุปความ เสียหายโดยละเอียดอีกครั้ง แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ส่วนสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ครั้งนี้ยังไม่สามารถชี้ชัดได้ว่ามาจากสาเหตุอะไร ต้องให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบหาสาเหตุโดยละเอียดอีกครั้งถึงจะระบุได้ว่ามาจากสาเหตุใด

“ส่วนเรื่องของโคมลอยนั้นยืนยันว่าในเขตอำเภอเมืองเชียงใหม่ทุกพื้นที่สั่งห้ามปล่อยโคมลอยเด็ดขาด และมีการส่งเจ้าหน้าที่ตรวจตราและมีการตักเตือนห้ามปรามกันตามจุดที่มีผู้คนออกมาท่องเที่ยวกันอยู่ตลอดทั้งคืน เหตุการณ์ครั้งนี้แม้จะยังไม่รู้แน่ชัดว่าเกิดจากโคมลอยหรือไม่ แต่ต้องขอความร่วมมือไม่จุดไม่เล่นโคมลอยดีที่สุด” ผวจ.เชียงใหม่กล่าว

ขณะที่นายบดินทร์เดช ต้วนเจริญ เจ้าของร้านค้าส่งหนึ่งในผู้เสียหายเผยว่า ช่วงเกิดไฟไหม้ไม่ได้อยู่ในอาคาร แต่มีภรรยาพักอยู่ด้านใน เมื่อเกิดเหตุรีบหลบหนีออกมาได้ปลอดภัย แต่สินค้าที่อยู่ภายในร้านมูลค่านับสิบล้านบาทเสียหายทั้งหมด ทำให้ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักเพราะไม่ได้ทำประกันเอาไว้ เนื่องจากเป็นอาคารที่เช่าเปิดร้านมาได้ 9 ปีแล้ว โดยสาเหตุของการเกิดไฟไหม้นั้นเชื่อว่าน่าจะมาจากโคมลอย เพราะก่อนเกิดเหตุมีผู้เห็นโคมลอยตกลงมาและลักษณะของไฟไหม้ในครั้งนี้ลุกลามจากด้านบนลงมาด้านล่าง อย่างไรก็ตาม ต้องรอผลการตรวจพิสูจน์ของเจ้าหน้าที่อีกครั้ง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน