ชี้ช่องถามกฤษฎีกา-แยก2ขยัก นายกฯเร่งมอเตอร์เวย์โคราช พท.สัมมนากระชับมิตรสส.-รมต.

‘เศรษฐา’ตรวจมอเตอร์เวย์ ‘ปากช่อง-โคราช’ 28 ธ.ค.เปิดใช้ถาวร ช่วยบรรเทารถติดถนนมิตรภาพช่วงปีใหม่ เพื่อไทยสัมมนาพรรคที่เขาใหญ่ จัดกิจกรรมกระชับมิตร-ละลายพฤติกรรมสส. ‘อิ๊ง’ขอบคุณ‘มาดามเดียร์’ ยกเป็นซอฟต์พาวเวอร์ วอนมูฟออนคำนิยาม แจงงบ 5 พันล้านดึงจากงบกระทรวงที่เกี่ยวข้อง ไม่ได้ขอเพิ่ม ยันกฎหมายนิรโทษกรรมไม่เกี่ยว ‘ทักษิณ’ เลขาฯ เพื่อไทยเสนอตั้งกมธ.ศึกษาก่อนเสนอร่างกฎหมาย รมว.ยุติธรรมชี้ ‘แม้ว’ ได้อยู่ร.พ.ต่อหรือไม่ เป็นอำนาจของอธิบดีกรมราชทัณฑ์-คณะแพทย์ ‘วิษณุ’ ชี้ช่องรัฐบาลถามกฤษฎีกา 2 ขยัก ปมพ.ร.บ.กู้เงิน ทำได้หรือไม่ ก่อนส่งร่างให้ตรวจสอบ เชื่อตอบกลับทันรัฐบาลประกาศเริ่มโครงการพ.ค.67 ‘โภคิน’ จี้ปลดเสี้ยนแก้รัฐธรรมนูญ รื้อมาตรา 256

นายกฯ ตรวจมอเตอร์เวย์ M6
เวลา 13.30 น. วันที่ 6 ธ.ค. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เดินทางถึงทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 6 (M6) ตอน 34 อุโมงค์คลองไผ่ ต.คลองไผ่ อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ด้วยรถยนต์เลกซัส ทะเบียน 3 ขส 30 กรุงเทพมหานคร มีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา และสส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย 12 คน อาทิ นายโกศล ปัทมะ, นายอาทิตย์ หวังศุภกิจโกศล, นายพชร จันทรรวงทอง ต้อนรับ

นายกฯ ได้ตรวจติดตามความคืบหน้าโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 6 สายบางปะอิน-สระบุรี-นครราชสีมา หรือมอเตอร์เวย์ M6 ช่วง อ.ปากช่อง-นครราชสีมา ระยะทางรวมประมาณ 77.493 กิโลเมตร ซึ่งจะเปิดให้บริการประชาชนเต็มรูปแบบตั้งแต่วันที่ 28 ธ.ค.นี้เป็นต้นไป ขณะที่เส้นทาง M6 ตั้งแต่บางปะอิน-นครราชสีมา มีกำหนดการแล้วเสร็จปลายปี 2568

นายกฯ กล่าวว่า จะเปิดให้ใช้บริการแบบเต็มรูปแบบวันที่ 28 ธ.ค. จากก่อนหน้านี้เปิดบริการบางช่วงเวลา แต่นับจากนี้จะเปิดให้บริการตลอดไป เราต้องมั่นใจเรื่องความปลอดภัยจึงกำชับกระทรวงคมนาคมไปว่าเป็นเรื่องที่สำคัญ และโครงการนี้จะช่วยบรรเทาการจราจรโดยเฉพาะช่วงเทศกาลปีใหม่ ถนนมิตรภาพการจราจรค่อนข้างแออัด อีกทั้งทำให้ลดระยะเวลาในการเดินทางลง การลงพื้นที่วันนี้ได้มาเร่งรัดตั้งแต่ช่วงบางปะอิน-สีคิ้วให้เสร็จทันเวลา เพื่อจะเปิดให้ประชาชนได้ใช้บริการต่อเนื่องยาว ส่วนการเก็บค่าบริการต้องรอให้การก่อสร้างทั้งหมด 196 กิโลเมตรเสร็จก่อน ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณต้นปี 2568 ถึงจะเก็บค่าบริการ

สั่งฟันเฟกนิวส์ทำลายเที่ยวไทย
นายเศรษฐาให้สัมภาษณ์กรณีสื่อสังคมออนไลน์เผยแพร่ข้อความและภาพนักท่องเที่ยวชาวจีนใส่เสื้อเครื่องแบบตำรวจไทย มีชายตัดผมสั้นยืนอยู่ถัดไปพร้อมโชว์หมวกแก๊ปสีดำปักตราแผ่นดิน และข้อความ Royal Thai Police ว่า เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง ต้องจัดการไป เมื่อถามว่าได้สั่งการให้ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ดูแลเรื่อง ดังกล่าวแล้วใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า แน่นอน รวมถึงสั่งการรมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ผ่านไปยังผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ถึงเรื่องเฟกนิวส์

“เมื่อสักครู่ตอนทานข้าวเที่ยงยังคุยกันอยู่เลยว่าได้ยินบางเรื่องไปก็หัวเราะบนน้ำตา ไม่น่าเชื่อ ไม่น่าเป็นไปได้ว่ามีข่าวเหล่านี้ออกไปได้ และเมื่อสักครู่มีการคุยกันผ่านทีมทำงานให้ไปบริหารจัดการให้ดีเพราะเรื่องเฟกนิวส์เป็นอะไรที่บ่อนทำลายความเจริญของประเทศชาติ” นายกฯ กล่าว

ร่วมสัมมนาพท.-รับฟังสส.
นายเศรษฐากล่าวถึงกรณีหลายฝ่ายออกมาพูดถึงเรื่องพ.ร.บ.นิรโทษกรรมว่า ยังไม่ได้ติดตามข่าว เป็นเรื่องของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตนมัวแต่ดูเรื่องปัญหาปากท้อง พ.ร.บ.อากาศสะอาด และปัญหาเรื่อง ยาเสพติด








Advertisement

ส่วนการสัมมนาพรรคเพื่อไทยวันเดียวกันนี้จะสื่อสารอะไรเป็นพิเศษไปยังสส.เพื่อไทย นายเศรษฐากล่าวว่า ตนมีความสบายใจเพราะไม่ต้องมาพูดอะไร คงเป็นเรื่องการรับฟังมากกว่า เขามีความคิดเห็นอะไรอย่างไร อยากให้บ้านเมืองไปในทิศทางใดบ้าง สิ่งสำคัญที่สุดเราต้องไม่ลืมว่าสส.คือตัวแทนของประชาชน จึงอยากมาฟังว่าเขามีข้อคิดอย่างไร ประชาชนมีข้อกังวลอะไรหรืออยากได้อะไร ซึ่งมีทีมงานจากทำเนียบมาฟังด้วย

สัมมนาพท. – นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ เข้าร่วมสัมมนาสส.-รมต.และสมาชิกพรรคเพื่อไทย โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรค คอยต้อนรับ ที่โรงแรมเดอะ กรีนเนอร์รี่ รีสอร์ท เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 6 ธ.ค.

พท.สัมมนากระชับมิตร
เวลา 11.15 น. ที่เดอะกรีนเนอร์รี่รีสอร์ท เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย จัดสัมมนา “โครงการเสริมสร้างศักยภาพสส.และบุคลากรทางการเมือง” มีแกนนำ สมาชิกพรรค รัฐมนตรีเดินทางมาร่วมประชุมกันอย่างคึกคัก นำโดย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรค นายชูศักด์ ศิรินิล, นายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ, นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รองหัวหน้าพรรค นายสวรงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรค เข้าร่วมกิจกรรม

เวลา 13.00 น. น.ส.แพทองธารกล่าวเปิดงานสัมมนาว่า ดีใจมากที่มากันเยอะและมีกิจกรรมหลายอย่าง ขอให้ร่วมทำกิจกรรมอย่างเต็มที่ด้วยความเต็มใจ สนุกสนานและอยากให้ทุกคนผ่อนคลาย การร่วมกิจกรรมในวันนี้อยากให้ทุกคนเป็นพี่น้องกัน ไม่ว่าจะมีช่วงอายุห่างกันแค่ไหน จะเห็นได้ว่ามีทุกช่วงอายุ หลายช่วงวัย และหลายประสบการณ์ ซึ่งน่าสนใจมากๆ ขอให้วันนี้มีการเรียนรู้ซึ่งกันและกันอย่างเต็มที่ รวมถึงเรียนรู้นโยบาย เป้าหมาย และเริ่มนับหนึ่งใหม่ไปด้วยกัน

แจวเรือ – สมาชิกพรรคเพื่อไทยร่วมกิจกรรมละลายพฤติกรรมระหว่างช่วงวัยด้วยการเต้นเพลงแจวเรือ และเพลงตาหูจมูกปาก อย่างสนุกสนาน ในการสัมมนาโครงการเสริมสร้าง ศักยภาพสส.และบุคลากรทางการเมือง ที่เดอะ กรีนเนอร์รี่รีสอร์ท เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา เมื่อ 6 ธ.ค.

จัดกิจกรรมละลายพฤติกรรม
นายสรวงศ์กล่าวว่า กว่า 10 ปีที่เพื่อไทยจัดสัมมนาพรรคดำเนินการมาตั้งแต่สมัยน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ หญิงคนแรกของไทย และเชื่อว่าจะไม่ใช่นายกฯ หญิงคนสุดท้าย เพื่อไทยไม่ต่างจากองค์กรอยู่มาแล้วกว่า 20 ปี หนึ่งในปัญหาที่เกิดขึ้นจากองค์กรใหญ่คือเจเนอเรชั่นความห่างระหว่างวัย จึงเป็นโอกาสแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันของหัวหน้าพรรคอยากให้ทุกคนเข้าใจกันมากขึ้น มีเป้าหมายในทางเดียวกัน อยากเห็น เพื่อไทยก้าวไปข้างหน้าอย่างแข็งแกร่ง

ทั้งนี้ การจัดงานมีกิจกรรมละลายพฤติกรรมระหว่างช่วงวัย โดย น.ส. แพทองธารพร้อมสมาชิกลุกขึ้นเต้นเพลงแจวเรือ, ตาหูจมูกปากตา โดยบุคคลที่อายุเยอะที่สุดคือ พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ สส.บัญชีรายชื่อ อายุ 89 ปี อายุน้อยสุดคือ น.ส.สุดารัตน์ พิทักษ์พรพัลลภ สส.อุบล ราชธานี อายุ 27 ปี

น.ส.สุดาวรรณสั่งทำกางเกงแมวมาแจกให้กับผู้ร่วมสัมมนา รวมถึงมีการแจกเสื้อ ที่อกข้างซ้ายมีข้อความ “พท.นางสาว แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย” และบริเวณหน้าสถานที่จัดงานสัมมนามีป้ายสีแดงข้อความว่า “มวลชนคนเสื้อแดง เราพร้อมใจกันสนับสนุนรัฐบาลในการทำโครงการเงินดิจิทัลคนละ 10,000 บาท และมวลชนคนเสื้อแดง 20 จังหวัดภาคอีสาน สนับสนุนพรรคเพื่อไทย”

อิ๊งแจงงบซอฟต์พาวเวอร์
น.ส.แพทองธารให้สัมภาษณ์ถึงการจัดสัมมนาพรรคว่า เกินความคาดหมาย ทีมงานจัดกิจกรรมได้สนุกสนานและทุกคนให้ความร่วมมืออย่างดี เป็นการละลายพฤติกรรม ทุกคนจะได้พุดคุยกันง่ายขึ้น ซึ่งพาร์ตต่อไปจะเริ่มซีเรียสขึ้นแล้ว

เมื่อถามถึงกรณีงบจัดทำซอฟต์พาวเวอร์กว่า 5,100 ล้านบาท น.ส.แพทองธารกล่าวว่า ชุดที่ตนเป็นประธานได้ประชุมเรื่องงบที่ต้องใช้จบแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการซอฟต์ พาวเวอร์ชุดใหญ่ที่มีนายเศรษฐาเป็นประธาน ก่อนเข้าที่ประชุมครม. คาดงบจะเสร็จสิ้นเดือนพ.ค.67 งบประมาณ 5,100 ล้านบาทเป็นงบที่ใช้ใน 11 อุตสาหกรรมซอฟต์พาวเวอร์ โดยไม่ได้ของบเพิ่ม เป็นงบที่อยู่ในแต่ละกระทรวงที่เกี่ยวข้องอยู่แล้ว ไม่ได้เป็นตัวเลขที่รัฐบาลคิดขึ้นมา แต่เป็นงบที่มาจากผู้รู้จริงในแต่ละสาขานั่นคือภาคเอกชน รัฐบาลเป็นเพียงผู้อำนวยความสะดวก ภาคเอกชนมีความตั้งใจทำและระมัดระวังเรื่องการใช้งบอยู่แล้ว

เมื่อถามว่าจากเสียงวิพากษ์วิจารณ์มีโอกาสปรับลดงบลงหรือไม่ น.ส.แพทองธารกล่าวว่า ต้องรอดูคณะกรรมการชุดใหญ่จะเห็นควรอย่างไร เสียงวิพากษ์วิจารณ์เรารับฟัง และดีใจที่ทุกคนสนใจกับ 11 อุตฯ ซอฟต์พาวเวอร์ งบที่จะดึงมาจากกระทรวงหลักๆ คือ กระทรวงการท่องเที่ยวฯ กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงวัฒนธรรม ย้ำว่าเป็นงบที่อยู่ในแต่ละกระทรวงอยู่แล้ว

วอนมูฟออนเรื่องคำนิยาม
เมื่อถามกรณี น.ส.วทันยา บุนนาค ประธานคณะทำงานนวัตกรรมการเมืองกรุงเทพฯ พรรคประชาธิปัตย์ ระบุซอฟต์พาวเวอร์ที่จริงแล้วคือ น.ส.แพทองธาร ไม่ใช่สิ่งอื่น น.ส.แพทองธารกล่าวว่า เป็นการให้เกียรติกัน ต้องขอขอบคุณมาก ตนอาจพูดหลายครั้งทำให้งงกันบ้าง แต่ถ้าตามดูการให้สัมภาษณ์ไม่ได้ฟังเพียงแค่ท่อนเดียวจะเข้าใจตนสื่อมาตลอดซอฟต์ พาวเวอร์ไม่ใช่สินค้า ไม่ใช่ชี้อะไรก็เป็นซอฟต์พาวเวอร์ไปหมด เมื่อเกิดพลังอำนาจที่ทำให้คนคล้อยตามโดยไม่ต้องบีบบังคับคือซอฟต์พาวเวอร์ และอยากให้ทุกคน มูฟออนซอฟต์พาวเวอร์ได้แล้ว เพราะเรากำลังทำเรื่องที่ใหญ่กว่านั้นเพื่อพัฒนาประเทศ ปักหมุดแล้วว่าจะดันซอฟต์พาวเวอร์ให้คนทั่วโลกรู้จักเรา เข้าใจและชอบวัฒนธรรมของไทย นี่คือสิ่งที่เรากำลังทำอยู่ เราไม่ได้พยายามนิยามคำว่าซอฟต์พาวเวอร์

ปัดกม.นิรโทษเอื้อทักษิณ
น.ส.แพทองธารให้สัมภาษณ์กรณีการเสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม หลายฝ่ายกังวลจะนำนายทักษิณ ชินวัตร อดีต นายกฯ มาเป็นเงื่อนไขเฉพาะหรือไม่ว่า เลขาธิการพรรคเพื่อไทยเคยให้สัมภาษณ์ไปแล้วว่าจะเสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมประกบพรรคก้าวไกล ต้องดูว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป แต่แน่นอนต้องหาจุดที่หยุดความขัดแย้งของทุกคนอย่างแท้จริง และต้องมีการพูดคุยกันต่อในรายละเอียด เพื่อไทยสนับสนุนเรื่องนี้มาตลอด เราไม่ทิ้งไปไหน แต่ขอเป็นจุดยืนที่ทำให้เราทุกคนเข้าใจกันจริงๆ

เมื่อถามว่าจะไม่โฟกัสที่คนใดคนหนึ่ง น.ส.แพทองธารกล่าวว่า ไม่อยู่แล้ว อย่างกรณีของนายทักษิณ คิดว่าไม่เกี่ยว เพราะนายทักษิณได้รับพระราชทานอภัยลดโทษ และ 5 ธ.ค.ที่ผ่านมาก็ไม่มีการพระราชทานอภัยโทษเกิดขึ้น “อย่างที่ทุกคนถามว่าตกลงเป็นอย่างไร อภัยโทษใช่หรือไม่ อิ๊งตอบว่าอิ๊งไม่ได้ยินมาอย่างนั้นก็จริง ไม่มีอะไรเกิดขึ้น วันนี้วันที่ 6 ธ.ค.แล้ว”

เมื่อถามว่ากังวลหรือไม่ว่ามีการหยิบยกเรื่องกฎหมายนิรโทษกรรมที่เคยเป็นแผลของเพื่อไทยมาก่อน น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า หลายปีมาแล้วซึ่งเราทำเนื้อหาไว้ดีมากๆ ฉะนั้นเรานำมาแก้ไขกันแน่นอน เรื่องของเวลาที่เปลี่ยนแปลงไปก็ต้องมาคุยในรายละเอียดอีก

สส.เรียกร้องนายกฯใกล้ชิดผู้แทน
เวลา 14.40 น. นายเศรษฐาเสร็จภารกิจการตรวจเส้นทางมอเตอร์เวย์ M6 มาร่วมงานสัมมนาพรรค โดยมี สส.นครราชสีมา ต้อนรับ พร้อมมอบพวงมาลัยดอกไม้และกล้วยหอมทองปักธงชัย เป็นสัญลักษณ์เวลานายกฯ จะทำอะไรจะได้กล้วยๆ จากนั้นนายเศรษฐาเดินทางมาทักทาย น.ส.แพทองธาร และเข้าไปร่วมรับฟังการสัมมนาข โดย น.ส.แพทองธารมอบเสื้อพรรคเพื่อไทย สกรีน “พท.นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย” ให้นายเศรษฐาด้วย

ทั้งนี้ ช่วงหนึ่งของการสัมมนา มีการเปิดโอกาสให้สส.เขียนความรู้สึกใส่กระดาษติดบอร์ดพรีเซ็นต์ ส่วนใหญ่อยากให้ใกล้ชิดสส. มากกว่าที่เป็นอยู่ โทร.ไปให้รับสาย อีกทั้งขอให้รัฐบาลเร่งผลักดันนโยบายที่หาเสียงไว้ให้เป็นรูปธรรมโดยเร็ว เช่น การแก้ปัญหายาเสพติด ลดปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคม

สรวงศ์ดันตั้งกมธ.ศึกษานิรโทษ
นายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการยื่นร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม ว่า พรรคมีความพร้อมอยู่แล้วที่จะยื่นร่าง พ.ร.บ. นิรโทษกรรมประกบกับพรรคก้าวไกล แต่ได้พูดคุยกันว่าควรมีการพูดคุยวงเล็กก่อนเสนอกฎหมาย โดยเสนอตั้งเป็นตั้ง กมธ.วิสามัญ เพื่อพูดคุยเรื่องดังกล่าวให้ตกผลึกก่อน และส่วนตัวมองว่าหากเสนอญัตติขึ้นมาก็สามารถตั้งกมธ.ได้เลย เพราะถ้ารอให้มีการยื่นกฎหมายก่อนก็ไม่แน่ใจว่าประธานสภาจะบรรจุเมื่อไร ทันสมัยประชุมหน้าหรือไม่ หากตั้งกมธ.ก่อน จะกำหนดได้ว่าจะใช้เวลาศึกษาเรื่องนี้เท่าไร จะได้มีความชัดเจน

เมื่อถามถึงจุดยืนร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมจะรวมถึงผู้กระทำผิดมาตรา 112 ด้วยหรือไม่ นายสรวงศ์ กล่าวว่า เรื่อง ม.112 นั้นอาจจะมีหลายคนที่ไม่ได้กระทำความผิดโดยตรง แต่ได้รับผลกระทบเรื่องนี้ จึงอยากให้มีการศึกษาเรื่องเหล่านี้ให้ชัดเจนก่อน

‘ช่อ’แจงกม.นิรโทษรวมคดี 112
ที่รัฐสภา น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกคณะก้าวหน้า อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ กล่าวกรณีการเสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ว่า ถามว่าทำไมต้องรวมคดีที่เกี่ยวข้องกับประมวลกฎหมายอาญา ม.112 จุดประสงค์การออกร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวของพรรคก้าวไกลเป็นเพราะความขัดแย้ง แตกแยก หนึ่งในนั้นแสดงออกผ่านการฟ้องร้องการเคลื่อนไหวที่เกี่ยวข้องกับคดี ม.112

หลายพรรคไม่ได้คัดค้านเรื่อง พ.ร.บ. นิรโทษกรรม แต่ไม่ต้องการให้รวมคดี ม.112 ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่มีความเห็นต่าง การเสนอร่างประกบถือเป็นเรื่องดีหมายความว่ามีจุดที่เห็นตรงกันด้วย เป็นกลไกที่ต้องต่อสู้กันในสภาหากพรรคก้าวไกลได้เสียงไม่พอก็ต้องยอมรับความพ่ายแพ้ แต่อย่างน้อยข้อเสนอของพรรคเป็นสิ่งที่ตนและประชาชนจำนวนมาก ในสังคมเห็นด้วย อย่างน้อยที่สุดให้มีการถกเถียงและเข้าสู่กระบวนการตามปกติของสภา

ไม่รวมแกนนำอนค.-ก้าวไกล
เมื่อถามว่านายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล เคยระบุแกนนำพรรคอนาคตใหม่จนถึงพรรคก้าวไกลบางคนเคยขอสละสิทธิ์ไม่เข้าสู่กระบวนการ ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร น.ส.พรรณิการ์กล่าวว่า เราพูดคุยกันตลอดการเป็นผู้ช่วยหาเสียงของพรรคก้าวไกลว่าจะจัดทำร่างดังกล่าว สิ่งแรกที่คิดและระมัดระวังอย่างมากคือผลประโยชน์ทับซ้อนหรือไม่ เพราะมีบุคลากรของพรรคอนาคตใหม่และพรรคก้าวไกลจำนวนหนึ่งอาจเข้าข่ายได้รับประโยชน์จาก พ.ร.บ.นี้ เราตระหนักเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกในการกระทำนโยบายและ พ.ร.บ.เพื่อให้กฎหมายนี้ดำเนินหน้าต่อไป แล้วตัวเองตอบสังคมได้ ป้องกันข้อครหาผลประโยชน์ทับซ้อน

“อีกเหตุผลหนึ่งคือเรามีความจำเป็นจริงๆ ที่ต้องพิสูจน์ตัวเองด้วยกระบวนการยุติธรรม เพราะเราเชื่อว่าไม่ได้ทำอะไรผิดกฎหมาย การพิสูจน์ในกระบวนการยุติธรรมเราเชื่อว่าอาจทำให้เราได้รับความเป็นธรรมได้ เราไม่ต้องให้ผลประโยชน์ทับซ้อนนี้ขัดขวางการทำให้ พ.ร.บ.นี้ไปสู่จุดหมายปลายทาง” น.ส.พรรณิการ์กล่าว

ทักษิณได้นิรโทษหรือไม่อยู่ที่กก.ชี้
เมื่อถามว่าคดีของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ส่วนใหญ่เป็นคดีทุจริตจะเข้าข่ายด้วยหรือไม่ น.ส.พรรณิการ์กล่าวว่า หากติดตามแนวทางพรรคก้าวไกล ไม่ได้มุ่งฐานความผิดเป็นสิ่งสำคัญ แต่มุ่งที่มูลเหตุจูงใจว่าคดีที่บุคคลนั้นโดนมีมูลเหตุจูงใจทางการเมืองหรือไม่อย่างไร จึงต้องมีคณะกรรมการที่เป็นตัวแทนของทุกฝ่ายมาพิจารณาว่ามูลเหตุจูงใจทางการเมืองมีในคดีต่างๆ เหล่านั้นหรือไม่ ส่วนนายทักษิณจะเข้าข่ายหรือไม่ ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการว่าจะพิจารณาว่ามีมูลเหตุจูงใจทางการเมืองหรือไม่

เมื่อถามว่านายทักษิณ จะเป็นเหตุผลให้พรรคเพื่อไทยยกมือโหวตให้ พ.ร.บ.นิรโทษของพรรคก้าวไกลหรือไม่ น.ส.พรรณิการ์กล่าวว่า หวังว่ากรณีของนายทักษิณจะไม่เป็นมูลเหตุจูงใจให้เพื่อไทย แต่เป็นกรณีประชาชนทั่วไปที่ติดคุกจะเป็นมูลเหตุจูงใจให้เพื่อไทยและทุกพรรคเห็นความสำคัญว่าเราจะปล่อยให้ผู้ต่อสู้ทางการเมืองเพียงเพราะเขาเห็นแตกต่างติดคุกแบบนี้ต่อไปหรือไม่ “หวังใจว่ากรณีของคุณทักษิณ จะไม่เกี่ยวข้องกับการตัดสินใจของพรรคเพื่อไทยเลยแม้แต่น้อย”

อำนาจอธิบดีคุกให้แม้วนอนร.พ.ต่อ
ที่กระทรวงยุติธรรม พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม กล่าวกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ จะครบกำหนดย้ายจากเรือนจำพิเศษ กทม.ไปรักษาตัวที่ ร.พ.ตำรวจ ครบ 120 วัน ในเดือนนี้ว่า กฎหมายกำหนดเป็นอำนาจอธิบดีกรมราชทัณฑ์ กับอำนาจคณะแพทย์ในการพิจารณาความจำเป็นในการคุมขังนอกเรือนจำโดยอยู่ที่ ร.พ.ต่อเนื่อง เพียงแต่ให้รายงาน รมว.ยุติธรรม ทราบ เพื่อไม่ให้ รมว.ยุติธรรมแทรกแซงได้ กฎหมายจึงไม่ได้ให้อำนาจ รมว.พิจารณา

ส่วนระเบียบกรมราชทัณฑ์ที่จะมีรองรับกฎกระทรวงกำหนดสถานที่อื่นที่ไม่ใช่เรือนจำเป็นสถานที่คุมขัง เป็นอำนาจอธิบดีกรมราชทัณฑ์ออกระเบียบ ขณะนี้ยังไม่มีและครอบครัวชินวัตรก็ไม่ได้ยื่นขอพระราชทานอภัยโทษใดเข้ามา อย่างไรก็ตาม กรมราชทัณฑ์มีระเบียบมากกว่า 15 ฉบับที่ต้องแก้ไข และออกกฎหมายระดับรองมารองรับกฎกระทรวง ซึ่งหลักการคือเรือนจำมีนักโทษล้นคุกจึงอยู่ระหว่างออกกฎหมายให้กลุ่มนักโทษที่คดียังไม่สิ้นสุด ซึ่งกฎหมายระบุว่าตราบที่ยังไม่มีคำพิพากษาจะยังไม่ผิด ให้เป็นดุลพินิจของศาลในการคุมขังที่อื่นนอกเรือนจำได้

วิษณุแนะถามกฤษฎีกาปมพรบ.กู้
ที่รัฐสภา นายวิษณุ เครืองาม คณะกรรมการกฤษฎีกา กล่าวกรณีรัฐบาลเตรียมถามกฤษฎีกาถึงการออกพ.ร.บ.กู้เงิน 5 แสนล้านบาทใช้ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ผิดกฎหมายหรือไม่ว่า ตอนนี้ไม่มีใครตอบถูกเพราะรัฐบาลยังไม่ได้สอบถามมา หากส่งมาแล้วมี 2 ทางเลือกคือนำเข้าคณะทำงานที่ชำนาญด้านนี้ที่มีนายพนัส สิมะเสถียร เป็นประธาน ตนไม่ได้อยู่คณะนี้ หรืออาจนำเข้าคณะพิเศษ ดึงคนที่มีความชำนาญด้านต่างๆ เพราะไม่ใช่มิติด้านกฎหมายการเงินการคลังอย่างเดียว แต่มีกฎหมายเรื่องเงินคงคลัง กฎหมายวิธีการงบประมาณ และกฎหมายเลือกตั้งและรัฐธรรมนูญ ที่ต้องอาศัยความสามารถของกรรมการหลายคณะ

ทางออกที่ดีควรส่งคำถามเป็น 2 ช่วง ช่วงแรกควรถามว่าประเทศชาติวิกฤต รัฐบาลคิดว่าทำอย่างนี้ถูกกฎหมายหรือไม่ ถ้าไม่ถูกช่วยแนะนำว่าควรทำอย่างไรถึงจะช่วยแก้วิกฤต หากกฤษฎีกาตอบว่าออกร่างกฎหมายกู้เงินได้ ค่อยส่งร่างกฎหมายไปรอบที่ 2 ไม่ใช่อยู่ดีๆ ส่งร่างกฎหมาย กู้เงินไปเลยจะตรวจสอบได้เฉพาะร่างกฎหมายถูกต้องตามกฎหมายวินัยการเงินการคลังหรือไม่ และถ้อยคำถูกต้องหรือไม่ จะไม่ได้คำตอบที่ต้องการ แล้ววันหนึ่งจะมีคดีไปถึงศาลอีกอยู่ดี จึงควรถาม 2 รอบ ถามเร็วก็ตอบเร็ว เชื่อว่าทันพ.ค.2567 แน่นอน

ควรถามให้กว้าง ถ้าส่งร่างพ.ร.บ.ไปรอบเดียวเขาจะตีความในมิติแคบ ถามช้างก็ตอบช้าง ไม่ได้ตอบม้า แต่ถ้าถามไปว่าจะช้างหรือม้าหรือวัวหรือควายดี เขาจะได้ตอบให้ ต้องขมวดคำถามว่าถ้าทำไม่ได้ต้องทำอย่างไร เช่น ถ้าบอกว่าให้ใช้ งบประมาณก็ต้องใช้งบประมาณแผ่นดิน การออกเป็นพ.ร.บ.กู้เงินถือว่าเสี่ยง

ชี้ปมปัญหา-กู้ไม่ตรงปกที่หาเสียง
เมื่อถามกรณีสอบถามว่าประเทศวิกฤตจะออกเป็นพ.ร.ก.เท่านั้นหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า คนที่จะตัดสินว่าประเทศวิกฤตหรือไม่คือรัฐบาล การจะออกเป็นพ.ร.ก.แบ่งได้เป็น 2 วรรค วรรคแรกกรณีวิกฤตฉุกเฉินจำเป็นเร่งด่วนออกเป็นพ.ร.ก.ได้ อีกวรรคหนึ่งเป็นการแก้ปัญหาฉุกเฉิน จำเป็นเร่งด่วน ต้องเป็นไปเพื่อรักษาความมั่นคงทางเศรษฐกิจหรือความมั่นคงทางการเมือง ประเด็นแรกเรื่องวิกฤตฉุกเฉินจำเป็นเร่งด่วนหรือไม่ศาลรัฐธรรมนูญไม่รับวินิจฉัย แต่จำเป็นต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจและความมั่นคงทางการเมืองหรือไม่ ศาลฯ วินิจฉัยให้ได้ ดังนั้น หากเกิดวิกฤตไม่ถึงขนาดไฟลนก้น เพียงแต่เหมือนวิกฤตมาหลายเดือนและมีแนวโน้มวิกฤตต่อก็ออกเป็นพ.ร.บ.ได้

“ปัญหามีอยู่ว่าการออกพ.ร.บ.กู้เงินมาช่วยประชาชนวิกฤตหรือไม่เป็นเรื่องหนึ่ง และเข้าใจว่ามาตรา 9 ของพ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังฯ บัญญัติไว้ว่ารัฐจะไปจ่ายเงินเพื่อประชานิยมไม่ได้ เป็นเรื่องที่ต้องตอบและจะไปสัมพันธ์กับเรื่องที่ไม่ตรงปกตอนหาเสียง พูดไว้อย่างไรก็เกี่ยวโยงกฎหมายเลือกตั้งด้วย” นายวิษณุกล่าว ส่วนที่หลายฝ่ายมองว่าการออกพ.ร.บ.กู้เงินเป็นทางลงของรัฐบาล นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ทราบ เพราะยังไม่เห็นทางขึ้น จึงไม่ทราบว่าทางลงเป็นอย่างไร

‘เกชา’นั่งสส.แทนมล.ชโยทิต
วันเดียวกัน ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่คำประกาศสภาผู้แทนฯ เรื่อง เลื่อนลำดับสส.บัญชีรายชื่อ ความว่า ม.ล.ชโยทิต กฤดากร มีหนังสือลาออกจากสส.ตั้งแต่ 1 ธ.ค.ที่ผ่านมา ทำให้สมาชิกภาพสส.สิ้นสุดลง อาศัยมาตรา 105 (2) ของรัฐธรรมนูญ 2560 ให้ผู้มีชื่อลำดับถัดไปในบัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ เลื่อนมาเป็นสส. คือนายเกชา ศักดิ์สมบูรณ์

นายกฯจี้ปิดเบอร์แก๊งคอล
วันที่ 6 ธ.ค. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ทวีตผ่าน X ถึงสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (สำนักงาน กสทช.) ว่า อีกประเด็นหนึ่งที่น่าสนใจและควรพิจารณาอย่างเร่งด่วนคือเบอร์เดียวแล้วโทร.หาเบอร์อื่นวันละหลายร้อยครั้ง โดยไม่ซ้ำกัน กสทช. ควรสั่งปิดทันที จะช่วยลดทอนปัญหาอย่างมาก

อุปกิตขอเลื่อนคดีไปช่วงเปิดสภา
เมื่อวันที่ 6 ธ.ค. ที่สำนักงานอัยการสูงสุด รัชดาภิเษก พนักงานอัยการสำนักงานคดียาเสพติดนัดฟังคำสั่งที่ อัยการสูงสุดมีคำสั่งฟ้อง นายอุปกิต ปาจรียางกูร สมาชิกวุฒิสภา ข้อหา เป็นสมาชิกวุฒิสภาสมคบกันฟอกเงิน และร่วมกันฟอกเงิน, เป็นสมาชิกวุฒิสภาร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ สนับสนุนหรือช่วยเหลือ หรือสมคบกันกระทำผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด โดยในวันนี้นายอุปกิตไม่ได้เดินทางมาฟังคำสั่งเเต่ส่งตัวเเทนมา

นายประยุทธ เพชรคุณ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุดเปิดเผยว่า ในวันนี้นายอุปกิตได้ส่งตัวเเทนผู้รับมอบอำนาจมายื่นขอเลื่อนฟังคำสั่งส่งตัวฟ้องของพนักงานอัยการโดยอ้างว่าติดราชการอยู่ต่างจังหวัด ทางอัยการพิเศษฝ่ายคดียาเสพติด 9 พิจารณาเเล้วอนุญาตให้เลื่อนนัดเป็นวันที่ 14 ธ.ค. โดยในหนังสือขอเลื่อนของนายอุปกิตได้ยืนยันกับทางพนักงานอัยการว่าในวันที่ 14 ธ.ค.นี้ จะเดินทางมาพบพนักงานอัยการตามกำหนดนัดเเน่นอน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เดิมพนักงานอัยการคดียาเสพติด 9 นัดนายอุปกิตฟังคำสั่งวันที่ 26 ธ.ค. ต่อมานายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เดินทางมายื่นหนังสือต่ออธิบดีสำนักงานฝ่ายคดียาเสพติด สำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อทวงถามข้อเท็จจริง กรณีวันนัดส่งฟ้องนายอุปกิตตรงกับช่วงเปิดสมัยประชุมสภา จึงกังวลว่าจะใช้เอกสิทธิ์ สว. ทำให้ไม่สามารถส่งฟ้องได้และทำให้คดีล่าช้า พนักงานอัยการคดียาเสพติด 9 จึงเเจ้งนายอุปกิตนัดฟังคำสั่งในวันนี้ ซึ่งนายอุปกิตขอเลื่อนไปเป็นวันที่ 14 ธ.ค. ก็ตรงกับการเปิดสมัยประชุมสภา ที่จะมีขึ้นตั้งแต่วันที่ 12 ธ.ค.-7 เม.ย. ซึ่งในช่วงดังกล่าว สว.หรือ สส.จะสามารถใช้เอกสิทธิ์ในการขอเลื่อนในการนำตัวส่งฟ้องออกไปได้อีก

ปดิพัทธ์ส่งข้อมูลหมูให้ดีเอสไอ
เมื่อวันที่ 6 ธ.ค. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร เข้ายื่นหนังสือเกี่ยวกับการปกปิดข้อมูลเรื่องโรคอหิวาต์ในสุกร หรือ ASF ที่ระบาดในปี 2564 เป็นข้อมูลประกอบการสอบสวนเพิ่มเติมในคดีเกี่ยวกับขบวนการลักลอบนำเข้าหมูเถื่อนในประเทศไทย โดยมี พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผอ.กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ และในฐานะโฆษกดีเอสไอ เป็นตัวแทนรับหนังสือ

โดยนายปดิพัทธ์กล่าวว่า ในฐานะที่เคยเป็น สส.และติดตามเรื่องนี้มาโดยตลอด จึงได้นำข้อมูลที่เกี่ยวกับกรมปศุสัตว์ ที่อาจจะเกี่ยวข้องกับการปกปิดข้อมูลโรคระบาดดังกล่าวในปี 2564-2565 ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่ประเทศไทยประสบปัญหาเนื้อหมูหน้าเขียงขาดตลาด แต่กลับมีวางจำหน่ายในห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ ขณะเดียวกันยังพบว่าบริษัทส่งออกรายใหญ่ส่งออกเนื้อหมูในปริมาณเพิ่มขึ้นถึง 400% ซึ่งมากที่สุดในประวัติศาสตร์ จึงคาดว่าสอดคล้องกับการปกปิดข้อมูลโรคระบาด เพราะหากมีการประกาศเกี่ยวกับโรคระบาดที่เกิดขึ้น จะทำให้ไม่สามารถส่งออกเนื้อหมูจากประเทศไทยได้ ต่อมายังเกิดผลกระทบกับเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรรายย่อยที่กำลังจะฟื้นตัวจากโรคระบาด เพราะพบการนำเข้าเนื้อหมูเถื่อนอีกเป็นจำนวนมาก ทำให้ผู้ประกอบการรายย่อยประสบปัญหาไม่สามารถแข่งขันด้านราคา ไม่สามารถฟื้นฟูกิจการได้ กลไกดังกล่าวจึงถือเป็นการทำลายเกษตรกรรายย่อยอย่างถาวร

นายปดิพัทธ์ยังกล่าวอีกว่า เนื่องจากรัฐบาลในขณะนั้นไม่สามารถดำเนินการเอาผิดได้ วันนี้จึงถือโอกาสนำข้อมูลชุดเดียวกันมายื่นให้กับกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อให้ล้างบางขบวนหมูเถื่อนทั้งหมด ซึ่งข้อมูลมีความเกี่ยวข้องกับทั้งเจ้าหน้าที่รัฐ และข้าราชการการเมืองระดับสูงโดยตรง เชื่อว่าจะสามารถช่วยให้สาวไปถึงตัวการใหญ่ได้ และเชื่อว่ารัฐบาลชุดนี้จะสามารถสืบสวนสอบสวนเอาผิดไปจนถึงผู้ที่อยู่เบื้องหลังในระดับสูง

มท.1สั่งใช้กม.เข้มป้องพีเอ็ม2.5
วันที่ 6 ธ.ค. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โพสต์ข้อความแสดงความเสียใจถึงการจากไปของนพ.กฤตไท ธนสมบัติกุล อาจารย์ประจำศูนย์ระบาดวิทยาคลินิกและสถิติศาสตร์คลินิก ภาควิชาเวชศาสตร์ครอบครัว คณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เจ้าของเพจสู้ดิวะ พร้อมระบุ ตระหนักถึงปัญหาฝุ่นพีเอ็ม 2.5 ไม่ใช่ปัญหาที่แก้ได้ง่าย คนไทยได้รับผลกระทบไม่ใช่แค่มลพิษ แต่คือปัญหาสุขภาพที่พรากชีวิตคนที่เรารักไปก่อนเวลาอันสมควร ดังนั้น จะสู้ให้เต็มที่ ร่วมกันผลักดันพ.ร.บ.อากาศสะอาด เพราะอากาศสะอาดต้องเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของเราทุกคน

ขณะที่น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการ รมว.มหาดไทยและโฆษกกระทรวงมหาดไทย (มท.) กล่าวว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย ฐานะผู้บัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ มอบนโยบายให้ผู้ว่าฯ ทุกจังหวัด และผู้ว่าฯ กทม.ดำเนินการสำหรับป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็กหรือพีเอ็ม 2.5 โดยให้กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ที่ส่งผลต่อการเกิดปัญหาไฟป่า หมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็กในพื้นที่ โดยใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีในการสนับสนุนการสั่งดำเนินการ ตลอดจนแจ้งเตือนแก่ประชาชนได้อย่างทั่วถึงและมีประสิทธิภาพ และให้ฝ่ายปฏิบัติการให้ความสำคัญกับการป้องกันและลดการเกิดมลพิษที่แหล่งกำเนิด กำชับหน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ให้บังคับใช้กฎหมายโดยเคร่งครัด ไม่ว่าจะเป็นการเผาในที่โล่ง การคมนาคมขนส่ง อุตสาหกรรม และการก่อสร้าง และให้ทบทวนและจัดทำแผนเผชิญเหตุในกรณีต่างๆ ปรับปรุงข้อมูลให้เป็นปัจจุบัน

ส่วนกรณีการเผาในพื้นที่การเกษตร ให้อำเภอและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ประสานการปฏิบัติกับหน่วยงานของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในพื้นที่ ตลอดจนใช้กลไกอาสาสมัครร่วมรณรงค์งดการเผาเศษวัสดุทางการเกษตร ให้กับเกษตรกรเกี่ยวกับการกำจัดหรือใช้ประโยชน์จากวัสดุเหลือใช้ไปสู่การแปรรูปสร้างมูลค่าเพิ่มแทน เช่น การไถกลบตอซัง การใช้จุลินทรีย์ในการย่อยสลาย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน