จากเหนือเข้ากรุง มท.จับมือตร.ลุย

‘ปส.’ สนธิกำลังกับทหาร และมหาดไทย สกัดจับแก๊งยาบ้าภาคเหนือรายใหญ่ ได้ผู้ต้องหา2คน ยึดยาบ้าของกลาง 10 ล้านเม็ด ซุกรถกล้วยตบตาเจ้าหน้าที่ ลำเลียงจากเชียงดาว เชียงใหม่มาพักอยุธยา ก่อนนำมาซ่อนย่านประเวศ กรุงเทพฯ จนท.ไล่ประกบติดตลอดทาง ก่อนจับได้ เร่งขยายผลจับเพื่อนร่วมแก๊ง พร้อมยึดทรัพย์ สั่งคุมเข้ม 15 อำเภอ 3 จังหวัดชายแดน ทั้งเชียงใหม่ เชียงราย นครพนม

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 6 ธ.ค. ที่อาคารกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย พร้อมด้วย พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะรอง ผอ.ศอ.ปส.ตร. พล.ต.ท.คีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย ผบช.ปส. พล.ต.ต.สมบูรณ์ เทียนขาว รอง ผบช.ปส., ผู้แทนจาก กอ.รมน., สำนักงาน ป.ป.ส. ร่วมกันแถลงผลการจับกุมเครือข่ายค้ายาเสพติดภาคเหนือ ได้ผู้ต้องหา 5 ราย รถยนต์ 3 คัน หลังลักลอบขนยาบ้า 10 ล้านเม็ดซุกซ่อนในรถขนกล้วยน้ำว้า ส่งขาย จ.พระนครศรีอยุธยา

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 26 พ.ย.66 บช.ปส. โดย กก.2 บก.ปส.3 พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันสืบสวนติดตามพฤติกรรม เครือข่ายลำเลียงยาเสพติดจากภาคเหนือ พบว่าจะใช้รถกระบะลักษณะตีคอก ป้ายแดง กำแพงเพชร และรถกระบะอีซูซุ เชียงใหม่ ลำเลียงยาเสพติดจาก จ.เชียงใหม่ ลงไปยังพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา โดยอำพรางด้วยพืชผลทางการเกษตร

ต่อมาเจ้าหน้าที่พบความเคลื่อนไหวของเครือข่ายขับรถกระบะป้ายแดง กำแพงเพชร เข้าไปรับยาเสพติดบริเวณ ต.แม่นะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ จากนั้นมุ่งหน้าสู่พื้นที่ภาคกลาง โดยมีรถกระบะอีซูซุป้ายเชียงใหม่ ขับนำทางและนำมาจอดทิ้งไว้ที่บริเวณหน้าปั๊มน้ำมัน ปตท.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ก่อนจะมีคนลงจากรถเก๋งที่ขับมาจอดด้านข้างแล้วขึ้นไปขับตามกันออกไป จากนั้นพบรถทั้ง 2 คันขับมาจอดภายในซอยหมู่บ้านฉัตรนคร แขวงและเขตประเวศ กรุงเทพฯ เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวขอตรวจค้น จากการตรวจค้นรถกระบะลักษณะตีคอก พบมีการใช้กล้วยน้ำว้าจำนวนมากมาวางปิดทับซุกซ่อนกระสอบบรรจุยาบ้า ประมาณ 10 ล้านเม็ด เจ้าหน้าที่จึงจับกุมผู้ต้องหาซึ่งทำหน้าที่ขับรถบรรทุกยาเสพติดและรถนำทั้งหมด 5 คน พร้อมรถยนต์ 3 คัน ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี

พล.ต.ท.คีรีศักดิ์กล่าวว่า ภายใต้แผน “ตามล่า 100 เครือข่าย” ในคดีนี้ พบว่าผู้ต้องหาเครือข่ายนี้รับยาเสพติดจากในพื้นที่ อ.เชียงดาว โดยใช้รถกระบะลักษณะตีคอก และใช้กล้วยซึ่งเป็นผลผลิตการเกษตรของชาวเขาตามแนวชายแดนปิดทับซ่อนไว้ เช่นเดียวกับการจับกุมเมื่อก่อนกลางเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา ตำรวจ บก.สกส.บช.ปส. จับกุมผู้ต้องหา 3 ราย พร้อมยาบ้า 13.4 ล้านเม็ด ที่ด่านตรวจ จ.ชุมพร ซึ่งใช้รถกระบะมีคอกใช้กล้วยปิดทับและรับยาบ้ามาจากพื้นที่ อ.เชียงดาว เช่นกัน

“สำหรับ อ.เชียงดาว เป็นหนึ่งใน 5 อำเภอตามแนวชายแดนของ จ.เชียงใหม่ ที่พบการลักลอบลำเลียงยาเสพติดเป็นประจำ ตำรวจปราบปรามยาเสพติดจะสืบสวนขยายผลเพื่อดำเนินคดีและยึดทรัพย์ผู้สั่งการทั้งสองคดีนี้ให้ได้โดยเร็ว และจะดำเนินการสกัดกั้นการลักลอบลำเลียงยาเสพติดที่พื้นที่ชายแดนอย่างจริงจัง โดยจะร่วมบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยใช้มาตรการปราบปรามทางกฎหมาย โดยเฉพาะในพื้นที่เร่งด่วนตามมาตรา 5 (10) ของประมวลกฎหมายยาเสพติด ซึ่งกำหนดสถานะชายแดนที่มีความจำเป็นเร่งด่วนเพื่อป้องกันและปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่ชายแดน 15 อำเภอ 3 จังหวัดได้แก่ 6 อำเภอของ จ.เชียงราย 5 อำเภอของ จ.เชียงใหม่ และ 4 อำเภอของ จ.นครพนม โดยมีเป้าหมายเพื่อลดการลักลอบลำเลียงยาเสพติดเข้ามาภายในประเทศ ตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลในการสกัดกั้นตามแนวชายแดน” พล.ต.ท.คีรีศักดิ์กล่าว

10 ล้านเม็ด – นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผบ.ตร. และพล.ต.ท.คีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย ผบช.ปส. แถลงจับกุมผู้ต้องหา 5 ราย ยึดยาบ้าได้ 10 ล้านเม็ด ที่บช.ปส. เมื่อวันที่ 6 ธ.ค.








Advertisement

ด้านนายชาดากล่าวว่า กระทรวงมหาดไทยมีนโยบายปราบปรามผู้มีอิทธิพลในทุกพื้นที่ พบว่าส่วนมากมีความเกี่ยวข้องกับยาเสพติดที่ต้องดำเนินการปราบปรามโดยเร่งด่วน ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือของทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้องและกลไกในระดับพื้นที่ กระทรวงมหาดไทยเปิดปฏิบัติการ (คิกออฟ) ปราบปรามผู้มีอิทธิพล เมื่อวันที่ 1 ธ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งการจับกุมครั้งนี้ถือเป็นความสำเร็จหนึ่งที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด ในการแก้ไขปัญหายาเสพติดทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องทำงานร่วมกัน “แยกปลาแยกน้ำ” ระหว่างผู้เสพผู้ค้า ดำเนินการปราบปรามผู้ค้า ผู้มีอิทธิพลที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดอย่างจริงจัง เพื่อเป็นที่พึ่งของพี่น้องประชาชนอย่างแท้จริง ยอมรับทุกพื้นที่ในประเทศไทยเป็นพื้นที่สีแดงที่มีการระบาดของยาเสพติด จึงขอฝากพี่น้องประชาชนหากมีเบาะแสของการค้ายาเสพติดให้แจ้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้ทันที อย่ากลัวเพราะถ้ากลัวที่จะแจ้ง ยาเสพติดก็จะเข้ามาหาลูกหลานท่านเอง

วันเดียวกัน เวลา 11.00 น. ที่ สภ.สบปราบ จ.ลำปาง พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผบช.ภ.5 เป็นประธานแถลงผลการจับกุมยาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่จ.ลำปาง ผู้ต้องหา 2 คน รถยนต์ 2 คัน ของกลางยาบ้า 1.3 ล้านเม็ด

พล.ต.ท.กฤตธาพลกล่าวว่า ทั้งนี้ เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 2 ธ.ค.ที่ผ่านมา จากการสืบสวนขยายผลคดีการลำเลียงยาเสพติดจากแนวชายแดนเข้าสู่พื้นที่ตอนในของประเทศเมื่อวันที่ 18 ก.ย.66 ตร.สภ.แม่พริก จ.ลำปาง จับกุมผู้ต้องหา 4 คน รถยนต์ 2 คัน ยาบ้า 500,000 เม็ด ส่งดำเนินคดี จึงสืบสวนขยายผล พบว่ากลุ่มผู้ต้องหาคดีนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกัน จึงบูรณาการร่วมกับฝ่ายทหาร ฝ่ายปกครอง พลเรือน ป.ป.ส.ร่วมตรวจสอบ ต่อมาเวลา 08.30 น. ต่อเนื่องเวลา 08.35 น. วันที่ 2 ธ.ค. พบรถยนต์ 2 คัน เป็นรถเก๋งนิสสันสีบรอนซ์เงิน ทะเบียน 6 กธ 4190 กรุงเทพฯ และรถเก๋งโตโยต้ายาริส สีน้ำตาล ทะเบียน งฉ 1147 เชียงใหม่ เป็นรถนำทาง สำรวจเส้นทาง โดยต้นทาง อ.เมือง จ.เชียงราย อ.เมือง จ.พะเยา อ.งาว อ.เมืองลำปาง อ.สบปราบ อ.เถิน จ.ลำปาง วิ่งเข้าสู่เขต อ.แม่พริก และตามกันมาบนถนนพหลโยธินขาขึ้น ก.ม.596 หมู่ 5 ต.พระบาทวังตวง อ.แม่พริก จ.ลำปาง เจ้าหน้าที่ด่านตรวจจึงเรียกตรวจค้นแต่รถทั้งสองคันมาถึงจุดกลับรถก่อนถึงด่านตรวจแม่พริก 300 เมตรได้กลับรถ เจ้าหน้าที่เรียกให้หยุดแต่คนร้ายกลับเร่งเครื่องยนต์หลบหนี เจ้าหน้าที่จึงขับรถติดตามรถยนต์ทะเบียนกรุงเทพฯ แต่ก็ยังไม่ยอมหยุดจึงใช้ปืนยิงล้อหลังด้านขวาจนยางแตกไม่สามารถขับต่อได้ จึงเข้าตรวจสอบภายในรถ ทราบคนขับชื่อนายวรภพ ชาว อ.เมือง จ.ตาก ได้รับบาดเจ็บจากการถูกกระสุนแฉลบเข้าหัวเข่าข้างขวา

ตรวจสอบภายในรถพบยาบ้าบรรจุในถุงปุ๋ยเก่า 6 กระสอบ รวมกว่า 1.3 ล้านเม็ด จึงควบคุมตัวนายวรภพมาสอบสวนที่ สภ.แม่พริก ก่อนนำตัวส่งรักษาที่ร.พ.แม่พริก ส่วนรถเก๋งป้ายทะเบียนเชียงใหม่เจ้าหน้าที่ไล่ติดตาม สามารถจับกุมนายชัยณรงค์ ชาว อ.เมืองตาก คนขับรถได้ที่ถนนสายรอง หมู่บ้านวังสำราญ-แม่พริก ต.แม่พริก อ.แม่พริก จ.ลำปาง จึงควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองพร้อมของกลางรถยนต์ 2 คัน ยาบ้า 6 กระสอบ รวม 1.3 ล้านเม็ด ส่งร.ต.อ. วรากร สิทธิ พงส.สภ.แม่พริก สอบสวนดำเนินคดีและเร่งสืบสวนขยายผลติดตามจับกุมขบวนการมาดำเนินคดีต่อไป

พล.ต.ท.กฤตธาพลกล่าวอีกว่า จากการสืบสวนขยายผลผู้ต้องหารับว่ารับยาเสพติดมาจากเขตอ.เมืองเชียงราย จะไปส่งที่เขตพื้นที่ จ.ตาก ราคา 50,000 บาท โดย ผู้บงการสั่งการทางแอพพลิเคชั่นไลน์ ปลายทางเลยด่านตรวจ สภ.แม่พริก ไปแล้วจะจอดรถทิ้งไว้ข้างทาง จากนั้นจะมี ผู้ขับไปต่อ ตร.ภาค 5 จะเร่งสืบสวนขยายผลหาเครือข่ายผู้ร่วมกระทำความผิดทุกระดับ ขยายผลยึดทรัพย์สินของผู้เกี่ยวข้องต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน