นครบาลปูพรม14จุด รวบ‘คนชี้เป้า-พาหนี’ ค้นบ้านหรูยึดเก๋ง-ปืน เช็กเส้นทางการเงินผงะสาว24ร่วมขบวน

ตำรวจนครบาลปูพรม 14 จุด ทลายองค์กรมืดเด็กช่างกลโยง คดีฆ่า ‘ครูเจี๊ยบ น.ศ.อุเทนฯ’ ล็อต 2 กวาดจับได้ทั้งชาย-หญิง 12 ราย คนชี้เป้า-พาหนี พร้อมพวกที่สนับสนุนฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และซ่องโจร ‘รองนพศิลป์’ ลั่นล่าไม่เลิก ‘ไอ้วิน-ไอ้เลาะ’ มือลั่นไก-คนขี่จยย. เผยผู้ต้องหาสาวร่วมองค์กรมืดหลักฐานชัดขับเก๋งพาทั้งคู่หนีหลังก่อเหตุ

เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 18 ธ.ค. พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต. นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต. ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. เปิดปฏิบัติการ “ปิดเมืองกรุง ล่ามือปืน ep.2” สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน บก.สส.บช.น. ระดมกำลังติดตามปิดล้อมและจับกุม รวม 14 จุด ทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑล เป้าหมายกลุ่มองค์กรอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับเหตุบุกจ่อยิงนายธนสรณ์ หรือ หยอด ห้องสวัสดิ์ อายุ 19 ปี นักศึกษาชั้นปี 1 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย บริเวณทางเท้าหน้าธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด สาขาคลองเตย ถนนสุนทรโกษา ใกล้แยก ณ ระนอง แขวงพระโขนง เขตคลองเตย กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 11 พ.ย. ที่ผ่านมา ทำให้ น.ส.ศิรดา หรือ ครูเจี๊ยบ สินประเสริฐ อายุ 45 ปี ครูสอนวิชาคอมพิวเตอร์ ระดับชั้น ม.ต้น โรงเรียนพระหฤทัยคอนแวนต์ ถูกลูกหลงเสียชีวิตไปด้วยรวม 2 ศพ

จับช่างกล – ตำรวจบก.สส.บช.น.เปิดปฏิบัติการจับใหญ่ กลุ่มอดีตน.ศ.ช่างกลปทุมวัน ร่วมก่อเหตุยิงน.ศ.อุเทนถวาย และครูสาวถูกลูกหลงเสียชีวิต สามารถตามจับได้ 12 คน เมื่อวันที่ 18 ธ.ค. โดยผู้ต้องหาส่วนใหญ่มีรอยฟันเฟืองที่แขนและหลัง

จากปฏิบัติการดังกล่าว เจ้าหน้าที่จับกุมตัวผู้ต้องหารวม 12 ราย แบ่งเป็น ข้อหาร่วมกันสมคบกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน (ซ่องโจร) 9 ราย ประกอบด้วย 1.นายชนัญชิต หรือ แป๊ปซี่ แสงจันทร์ อายุ 21 ปี ภูมิลำเนา อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี, 2.นายจิรเมธ นามณรงค์ อายุ 20 ปี ภูมิลำเนา อ.เมือง จ.นนทบุรี, 3.นายกันตพงศ์ พรมพิทักษ์ อายุ 28 ปี ภูมิลำเนา อ.คลองลาน จ.กำแพงเพชร, 4.นายขจรศักดิ์ แต้มชัยภูมิ อายุ 25 ปี ภูมิลำเนา อ.ชนบท จ.ขอนแก่น, 5.นายกรกฎ ตื้อแอ้ อายุ 20 ปี ภูมิลำเนา อ.ชนบท จ.ขอนแก่น, 6.นายสุขสันต์ กองแก้ว อายุ 22 ปี ภูมิลำเนา เขตบางบอน กรุงเทพฯ, 7.นายชุมนุมโชค เอี่ยมปาน อายุ 21 ปี ภูมิลำเนา อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี, 8.นายนครินทร์ นาคิน อายุ 29 ปี, 9.นายณัฏฐกิตต์ คำเก่า อายุ 33 ปี ภูมิลำเนา อ.เมือง จ.สุโขทัย

ข้อหาสนับสนุนร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน 2 คน คือ 10.น.ส.อัญญารัตน์ ทองสุข อายุ 24 ปี ภูมิลำเนา เขตภาษีเจริญ จ.กรุงเทพฯ และ 11.นายธนโชติ บุญสงเคราะห์ อายุ 22 ปี ภูมิลำเนา อ.เมือง จ.สมุทรปราการ, ส่วนรายสุดท้าย 12.นายนพวุฒิ เรืองศรี อายุ 25 ปี ภูมิลำเนา เขตห้วยขวาง จ.กรุงเทพฯ ข้อหาร่วมกันสมคบกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดอย่างหนึ่ง อย่างใดตามที่บัญญัติไว้ในภาค 2 นี้

จับช่างกล – ตำรวจบก.สส.บช.น.เปิดปฏิบัติการจับใหญ่ อดีตน.ศ.ช่างกลปทุมวัน ร่วม ก่อเหตุยิงน.ศ.อุเทนถวาย และครูสาวถูกลูกหลงเสียชีวิต โดยสามารถตามจับได้ 13 คน เมื่อวันที่ 18 ธ.ค. ผู้ต้องหาส่วนใหญ่มีรอยฟันเฟืองที่แขน

พล.ต.ต.นพศิลป์ เผยหลังร่วมสอบปากคำผู้ต้องหาทั้ง 12 ราย ที่บก.สส.บช.น. ว่า เกือบ 1 เดือนที่ผ่านมา ทีมสืบนครบาลเร่งรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด เพื่อขอหมายจับต่อศาล จากการสืบสวนสอบสวนพบกลุ่มคนร้ายมีการวางเป้าหมายที่ชัดเจน คิดแผนการก่อนก่อเหตุ ระหว่างเกิดเหตุ และหลังเกิดเหตุ มีการวางแผนผลบหนี คิดวิธีอำพรางยานพาหนะ จัดหาอาวุธ มีการฝึกซ้อม และแบ่งหน้าที่ตามความอาวุโส ปกครองกันแบบรุ่นพี่รุ่นน้อง โดยองค์กรกำหนดจัดกิจกรรมรับน้องใหม่ในวันที่ 12 พ.ย. จึงไปก่อเหตุก่อน 1 วัน ในวันที่ 11 พ.ย.

ตำรวจจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 12 คน จากทั้งหมด 14 คน คือนายนพวุฒิ เรืองศรี เป็นผู้ต้องหาในคดีฆาตกรรม นายธนสรณ์ หรือ หยอด และน.ส.ศิรดา หรือ ครูเจี๊ยบ ทำหน้าที่ชี้เป้า และดูลาดเลาให้ 2 ผู้ต้องหา ที่ยังหลบหนี คือนายอนาวิน หรือ วิน แก้วเก็บ อายุ 20 ปี มือปืน และนาย อับดุลเลาะ หรือ เลาะ ดือราแม อายุ 28 ปี คนขี่รถจักรยานยนต์ ผู้ต้องหา 2 รายสุดท้ายที่ยังหลบหนีอยู่

หลังเกิดเหตุ นายนพวุฒิยังไปรับ 2 ผู้ต้องหา ที่จุดนัดหมาย เพื่อพาหลบหนี โดยมีหลักฐานเป็นภาพจากกล้องวงจรปิดทั้งหมด ส่วนน.ส.อัญญารัตน์ ทองสุข อีกหนึ่งผู้ต้องหาที่ถูกจับในครั้งนี้ เป็น ผู้สนับสนุนในการกระทำความผิด โดยนำรถยนต์ไปรับนายอนาวินและ นายอับดุลเลาะหลังวันเกิดเหตุ

เบื้องต้นผู้ต้องหาทุกคนยังให้การปฏิเสธ แต่การที่ศาลออกหมายจับนั้น ถือว่าศาลเห็นว่ามีมูล เพราะฉะนั้นผู้ต้องหาจะว่าอย่างไรให้การอย่างไรก็ได้ สุดท้ายต้องไปสู้กันต่อในศาล สำหรับเรื่องนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาแก้ไขอย่างต่อเนื่อง แต่ผู้ก่อเหตุมีการแก้แค้นไปมาหลายครั้ง โดยรุ่นพี่ที่จบไปแล้วเป็นคนที่คอยหนุนหลัง นอกจากนี้เมื่อคนในองค์กรถูกจับรุ่นพี่จะลงขันนำเงินประกันตัว จ้างทนายมาสู้คดีให้ เวลาขึ้นศาล รุ่นพี่เหล่านี้จะรวมตัวกันไปฟังในศาล เพื่อจะได้รู้ว่าตำรวจทำงานอย่างไร สืบสวนอย่างไร นำไปเป็นบทเรียน เพื่อการก่อเหตุครั้ง ต่อไปจะได้ไม่พลาด

“อยากสื่อสารไปยังเด็กช่างทุกสถาบันว่าอย่าทำแบบนี้ อยากให้ตั้งใจเรียน ถ้าผิดไปแล้วก็เอาใหม่ เริ่มใหม่ และอยากให้พ่อแม่ดูแลบุตรหลานให้ดี ในส่วนของตำรวจจะทำหน้าที่อย่างเต็มที่ มือปืนที่ลงมือยิง คือนายอนาวินและนายอับดุลเลาะ ตำรวจยืนยันว่า ตอนนี้กำลังไล่ล่าตัวอย่างกระชั้นชิด ขอเตือนว่า ตำรวจไม่เลิก อายุความของคดียังมี ถ้าคิดว่าไม่ผิดก็ออกมาสู้กันผู้ต้องหาที่จับมาได้นั้น มีอยู่ 5 คน ที่มีรอยแผลเป็นรูปฟันเฟืองที่ไหล่ซ้าย หน้าอกซ้าย 4 รอย หรือ 2 รอย ถือเป็นความเชื่อและเป็นสัญลักษณ์ของผลการปฏิบัติ แต่ไม่ขออธิบายรายละเอียด เพราะว่าจะเป็นการลอกเลียนแบบ สำหรับองค์กรอาชญากรนี้ ตำรวจจับไปแล้ว 9 ราย และอีก 10 กว่าราย ในรอบที่ 2 ถือว่าจับไปได้แล้วเกือบจะครบทั้งองค์กร และจะรวบรวมพยานหลักฐาน ในการจับกุมให้ครบถ้วนกันต่อไป และหลังจากนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ต้องเข้าไปทำความเข้าใจ กับสถาบันในการแก้ไขปัญหานี้” พล.ต.ต.นพศิลป์กล่าว

ต่อมาเวลา 14.00 น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พล.ต.ต.วิทวัส ชินคำ ผบก.น.5 พร้อมเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน รุดตรวจสอบจุดจับกุมนายนพวุฒิ เรืองศรี ผู้ต้องหา และรถยนต์ที่ใช้ร่วมก่อเหตุภายในบ้านเลขที่ 296/228 หมู่บ้านหรู ย่านถนนร่มเกล้า เป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น เนื้อที่ประมาณ 50 ตารางวา ราคาประมาณ 5 ล้านกว่าบาท โดยพบรถยนต์ฮอนด้า แอคคอร์ด สีน้ำตาล ทะเบียน ขค 5854 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ภายในบ้าน

พล.ต.ต.นพศิลป์กล่าวว่า จากการตรวจสอบภายในบ้านพบเป็นเพียงห้องโล่ง ยังไม่มีเฟอร์นิเจอร์หรือสิ่งของใดๆ เป็นบ้านใหม่ยังไม่ได้เข้าพักอาศัย โดยมีชื่อแม่ของ ผู้ต้องหาเป็นเจ้าของ ส่วนการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่พบว่ารถคันดังกล่าวเป็นรถที่ใช้ ก่อเหตุร่วมในการรับมือปืนหลบหนีผู้ต้องหานำมาจอดไว้ที่บ้านหลังนี้ จากการตรวจสอบและพบกระเป๋าเป้ สีครีม ภายในมีเสื้อผ้า และพบกระเป๋าเก็บอาวุธปืน ซึ่งบรรจุอาวุธปืน ขนาด.45 ม.ม. แบบแม็กกาซีน และเครื่องกระสุนอีกจำนวนหนึ่ง แกลลอนน้ำมันขนาด 5 ลิตร อยู่ภายในรถคันดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน