เดินสายก่อนไปฟังศาล ยืนยันบริสุทธิ์ล้าน%

ลุงพลยันบริสุทธิ์ล้านเปอร์เซ็นต์ ตระเวนทำบุญ ก่อนลุ้นฟังคำพิพากษา ไหว้พระขอพร ลั่นไม่มีมนต์ดำอะไร เชื่อความดีปกป้องตัวเอง ป้าแต๋นดีใจได้กลับมาบ้านกกกอก เตรียมทำพิธีบวงสรวงที่วังปู่ปาริจิต ด้านแม่น้องชมพู่จุดธูปบอกลูกสาว เผยไม่รู้สึกกังวล เชื่อตามหลักฐาน ที่ตำรวจสืบเสาะมา ศาลตัดสินอย่างไรก็ยอมรับ

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 19 ธ.ค. ที่บ้านกกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร นายไชย์พล วิภา ลุงของน้องชมพู่ เปิดใจถึงความรู้สึกก่อนไปรับฟังคำพิพากษาในคดีน้องชมพู่ ที่ศาลจังหวัดมุกดาหาร ในวันที่ 20 ธ.ค. หลังจากที่ถูกเลื่อนมาแล้ว 1 ครั้ง เมื่อ 31 ต.ค. ว่า เมื่อคืนนี้เป็นครั้งแรกในรอบเดือนที่มานอนบ้านกกกอก ความรู้สึกก็เหมือนปกติทุกครั้ง เพราะได้กลับบ้านหลังแรก เมื่อกลับมาก็ยังไม่ได้เจอครอบครัวหรือชาวบ้านมากนัก และตนก็ไม่อยากพูดคุยกับชาวบ้านมาก เพราะกลัวว่าจะเป็นการไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานในคดี เนื่องจากว่าชาวบ้านที่นี่ส่วนใหญ่แล้วเป็นพยานที่เกี่ยวข้องในคดี โดยวันนี้เป็นวันที่ทนายจะมาถึง ตนก็วางแพลนไว้ว่าจะไปไหว้พระพุทธชินราช ที่วัดบ้านกกกอก

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า อยากจะไปไหว้น้องชมพู่หรือไม่ ลุงพลก็ตอบว่า ไม่อยากไปวุ่นวายเพราะเป็นสิทธิ์ของครอบครัวเขา แต่ทุกครั้งที่ทำบุญ ก็จะอุทิศส่วนกุศลให้น้องชมพู่อยู่เสมอ ยังยืนยันความบริสุทธิ์ใจแบบล้านเปอร์เซ็นต์ว่าตนไม่ได้ทำ และมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีแน่นอน ซึ่งในวันพรุ่งนี้ศาลจะอ่านคำพิพากษา ลุงกับป้าก็รอคอยมาตลอด ตั้งแต่วันที่ 31 ต.ค.ที่ผ่านมา พรุ่งนี้จะมีความชัดเจนมากขึ้น เราก็เตรียมแผนการรองรับไว้แล้วว่า ถ้าหากคำตัดสินออกมาแล้วลุงกับป้าจะต้องติดคุก ก็เตรียมนายประกันเพื่อประกันตัวออกมาแล้ว เนื่องจากเราไม่มีเงินสดมากนัก ก่อนจะขอต่อสู้ตามกระบวนการของกฎหมายต่อ และในวันที่ 21 ธ.ค. จะมีพิธีบายศรีสู่ขวัญตามความเชื่อของคนอีสาน ที่วังปู่ปาริจิต ทั้งนี้ หลังจากสืบพยานเสร็จสิ้นแล้ว เชื่อว่าทุกอย่างมันชัดเจน ตนไม่มีความเครียดหรือความกังวลใดๆ แล้ว

ด้านน.ส.สมพร หลาบโพธิ์ หรือ ป้าแต๋น กล่าวว่ากลับมาบ้านทั้งทีก็อยากไปแก่งกอก นึกถึงเพราะว่าเป็นสถานที่ที่สวยงาม บรรยากาศดีสดชื่น เนื่องจากว่าตนอยู่ที่วังปู่ปาริจิต ไม่ได้มีธรรมชาติแบบนี้ เพราะว่าที่นู่นเป็นชุมชน อากาศจะร้อนมากกว่า และเช้านี้ก็ได้เอาสวิงไปช้อนกุ้งฝอยมา ถือเป็นวิถีชุมชนของตนในสมัยก่อน ตนรู้สึกว่าชอบอาศัยอยู่บ้านกกกอกมากกว่า ครอบครัวของทุกคนอยู่ที่นี่แต่เราก็ไม่ได้เข้าไปคุยอะไรมากมายเพราะกลัวว่าจะมีปัญหากัน และเรามีความสุขที่จะอยู่ตรงนี้ ส่วนอีกฝ่ายก็มีความสุขดีแล้ว จึงไม่อยากทำให้เขาไม่สบายใจ เราพยายามพูดมาตลอด ว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่ก็อยู่ที่ครอบครัวว่าจะทำความเข้าใจและกล้าออกมาพูดกันไหม ถ้าไม่กล้าก็ให้เขาอยู่ตรงนั้น ลุงกับป้าก็อยู่กับครอบครัวสบายดี

“ส่วนวันพรุ่งนี้ก็อยากให้สังคมได้รู้อย่างชัดเจนว่าผลออกมาเป็นอย่างไร ถึงแม้ว่าจะไม่เคลียร์กับทุกคน แต่เชื่อว่าคำตัดสินของศาลในวันพรุ่งนี้จะกระจ่างมากขึ้น และเราพร้อมยอมรับในคำตัดสินนั้น เชื่อว่าความยุติธรรมยังมีอยู่ในประเทศไทย” ป้าแต๋นกล่าว

ลุ้นคำพิพากษา – ‘ลุงพล’ นายไชย์พล วิภา เปิดใจหลังกลับมาที่บ้านกกกอก อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร ขณะที่ พ่อแม่ของน้องชมพู่ไปจุดธูปบอกลูกสาวที่วัดถ้ำภูผาเเอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง ก่อนที่ศาลจังหวัดมุกดาหารจะตัดสินคดี น้องชมพู่วันที่ 20 ธ.ค.นี้

ขณะที่วันเดียวกัน เวลา 11.00 น. ที่วัดถ้ำภูผาเเอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร นายอนามัย วงศ์ศรีชา และนางสาวิตรี วงศ์ศรีชา พ่อและแม่น้องชมพู่ นำนม ขนมที่ลูกสาวชอบมาไหว้ลูกสาว พร้อมจุดธูปบอกกับลูกสาว หลังจากวันพรุ่งนี้ ศาลจังหวัดมุกดาหารจะอ่านคำพิพากษาแล้ว หลังจากถูกเลื่อนมา 1 ครั้ง

นางสาวิตรีกล่าวว่า วันนี้มาบอกกล่าวลูกว่า พรุ่งนี้ศาลตัดสินแล้ว ไม่ว่าผลออกมาจะเป็นยังไง ก็ให้ยอมรับในความจริงและความชัดเจนตรงนั้น ส่วนตัวไม่ได้รู้สึกกังวลอะไรเลย เพราะได้เคารพคำตัดสินของศาลทุกอย่าง เราไม่ได้เจาะจงจะชี้ให้คนใดคนหนึ่งเป็นคนร้าย เราเชื่อตามหลักฐาน เชื่อที่ตำรวจทำงาน ถ้าหากพรุ่งนี้ศาลยกฟ้อง ก็มีขั้นตอนต่อไปที่จะดำเนินการ ก็ว่าไปตามขั้นตอนของกฎหมายเลย แต่ถ้าหากว่าศาลสั่งตัดสินให้อีกฝ่ายจำคุก และต้องมีขั้นตอนการประกันตัว ก็จะต้องปรึกษากับทนายความว่าจะคัดค้านการประกันตัวหรือไม่ “แม่ไม่ได้มีความรู้สึกส่วนตัวที่จะต้องเจาะจงให้เขาเป็นคนร้าย แม่เชื่อตามสิ่งที่ตำรวจไปสืบเสาะมา ส่วนเขาจะไปพิสูจน์ความบริสุทธิ์ใจของตัวเองยังไง มันก็เป็นสิทธิ์ที่พึงกระทำอยู่แล้ว คดีนี้ไม่ใช่คดีที่แม่สู้กับจำเลย แต่เป็นคดีที่อัยการเป็นคนฟ้อง แม่เป็นผู้สูญเสียลูก” แม่ของน้องชมพู่กล่าว

ขอพร – ‘ลุงพล’ นายไชย์พล วิภา และ ‘ป้าแต๋น’ น.ส.สมพร หลาบโพธิ์ ไหว้ขอพรพระพุทธชินราช สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำบ้านกกกอก อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร ก่อนไปฟังศาลจังหวัดมุกดาหารตัดสินคดีน้องชมพู่วันที่ 20 ธ.ค.นี้

ต่อมาเวลา 15.00 น. ที่วัดกกกอก ลุงพลกับป้าแต๋น นำพวงมาลัยดอกดาวเรืองคนละพวง และจุดธูป ไหว้ขอพร “พระพุทธชินราช” ที่แม่นกน้อย อุไรพร อัญเชิญองค์พ่อใหญ่มาไว้ที่บ้านกกกอก ซึ่งชาวบ้านถือเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ความเคารพ ก่อนเดินทางไปรอรับทนายความที่สนามบินจังหวัดนครพนม ในช่วงค่ำวันนี้ และจะเข้าไปนอนที่โรงแรมในเมืองมุกดาหาร เพื่อรอขึ้นศาลในวันที่ 20 ธ.ค.

ลุงพลกล่าวว่า ตนไม่ได้ขออะไรเป็นพิเศษหรือไม่ได้มีมนต์ดำอะไร วันนี้เป็นการขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ตนให้ความเคารพนับถือ และขอให้คดีที่เกิดขึ้นกับครอบครัวเป็นไปด้วยดี พร้อมยืนยันว่าไม่ได้มีความกังวลหรือเครียดอะไรสำหรับวันพรุ่งนี้ (20 ธ.ค.)ที่ศาลนัดฟังคำพิพากษาชั้นต้น ส่วนเรื่องของคดียังคงยืนยันเหมือนทุกครั้ง ว่าไม่ได้เกี่ยวข้อง และในกระบวนการเราได้พิสูจน์ความบริสุทธิ์ใจไปแล้ว โดยหากพูดย้อนไปในช่วงวันและห้วงเวลาที่น้องชมพู่หาย ทุกคนไม่มีใครรู้ว่าน้องหายในช่วงเวลาไหนแน่ๆ แต่ตนเชื่อว่าคนที่ตอบได้ คือพี่สาวของน้องชมพู่ (สะดิ้ง) เพราะอยู่กับน้องชมพู่เป็นคนสุดท้าย ส่วนตัวตอนนั้นหากเป็นช่วงก่อนเวลา 09.00 น. ตนก็ยังอยู่กับแม่น้องชมพู่ ก่อนจะกลับมาบ้าน เพื่อไปรับพระ

ด้านป้าแต๋นกล่าวว่า วันนี้มาไหว้พระเพื่อขอให้ท่านคุ้มครองและให้แคล้วคลาดปลอดภัยกับทุกเรื่อง ซึ่งเราเชื่อว่าความดีจะคุ้มครองตัวเราเอง ส่วนช่วงระหว่างวันที่ศาลมีคำสั่งเลื่อนอ่านคำพิพากษาวันที่ 31 ต.ค.นั้น เราได้เดินสายทำบุญกฐิน 9 วัด และทำกิจกรรมดีๆ มากมาย รวมถึงการบวงสรวง เพื่อเป็นการเอาฤกษ์เอาชัยในการขึ้นศาลพรุ่งนี้

ขณะเดียวกัน พระอธิการบุญมา ศรีลเตโช เจ้าอาวาสวัดป่าภูผาแอก เปิดใจกับสื่อมวลชนว่ามีสิ่งหนึ่งที่อยากจะพูดถึง แต่ต้องรอให้ศาลชั้นต้น อ่านคำพิพากษาคดีน้องชมพู่ ในวันพรุ่งนี้ให้แล้วเสร็จก่อน “มีอะไรอยากจะพูดหลายประเด็น แต่ขอรอให้ศาลตัดสินก่อนในวันพรุ่งนี้ โดยเรื่องที่จะพูดเป็นเรื่องลี้ลับ เหนือมนุษย์ เกี่ยวกับดวงวิญญาณของน้องชมพู่ และเกิดมาแล้วหลายครั้ง เริ่มตั้งแต่ช่วงศาลนัดฟังคำพิพากษาครั้งแรกและเกิดขึ้นต่อเนื่อง” พระอธิการบุญมากล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน