ไวรัสตับอักเสบ ลดความเสี่ยงด้วยวัคซีน – ไวรัสตับอักเสบ เป็นโรคที่พบในคนไทยค่อนข้างมาก เป็นภาวะที่ตับอักเสบจากการติดเชื้อไวรัส อาทิ ไวรัส ตับอักเสบบี ไวรัสตับอักเสบเอ ไวรัสตับอักเสบบีมีโอกาสเป็นเรื้อรัง มีโอกาสที่จะเป็นตับแข็งและร้ายแรงถึงขั้นเป็นโรคมะเร็งตับได้

ดังนั้น การฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรละเลย เพราะช่วยป้องกันไวรัสตับอักเสบก่อนลุกลามและรุนแรง

ศ.พญ.วโรชา มหาชัย อายุรแพทย์ทางเดินอาหารและตับ และผู้อำนวยการศูนย์โรคทางเดินอาหารและตับ โรงพยาบาลกรุงเทพ กล่าวว่า ไวรัสตับอักเสบ ถือเป็นเชื้อไวรัสที่ร้ายแรงที่อาจถึงชีวิตได้ หากรับการรักษาช้าหรือปล่อยให้เรื้อรัง การติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี เป็นสาเหตุที่สำคัญของโรคต่างๆ ตามมา เช่น โรคตับอักเสบเรื้อรัง ตับแข็ง และมะเร็งตับ มีอุบัติการณ์สูงในทวีปเอเชีย รวมทั้งประเทศไทย โดยติดต่อผ่านทางการคลอดที่มารดาเป็นตับ อักเสบบี การสัมผัสเลือดหรือแผลเปิดของผู้ติดเชื้อ การมีเพศสัมพันธ์ และการใช้อุปกรณ์ที่สัมผัสเชื้อร่วมกัน เช่น เข็มฉีด ยา มีดโกนหนวด หรือแปรงสีฟัน

ภาวะตับอักเสบเฉียบพลันเกิดได้หลังจากการรับเชื้อไวรัสบี ส่วนใหญ่ (90%) หายเองและเกิดภูมิคุ้มกัน ผู้ป่วยบางรายที่ไม่สามารถกำจัดเชื้อไวรัสได้ กลายเป็นพาหะไวรัสบี และมีโอกาสดำเนินโรคกลายเป็นตับอักเสบเรื้อรังตับแข็ง ตับวาย และมะเร็งตับ เป็นอันตรายถึงชีวิตได้

การฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบีจะช่วยป้องกันการติดเชื้อ ลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งตับได้ ช่วยกระตุ้นและสร้างภูมิต้านทานขึ้นในร่างกาย สามารถฉีดป้องกันได้ตั้งแต่ทารกแรกเกิดจนถึงผู้ใหญ่ โดยฉีดทั้งหมด 3 เข็ม ครั้งที่ 2 ห่างจากเข็มแรก 1-2 เดือน และเข็มที่ 3 ห่างจากเข็มแรก 6 เดือน ร่างกายจะสร้างภูมิคุ้มกัน ได้ถึง 95% ภูมิคุ้มกันอยู่ได้นานหลายปีหรือตลอดไป

ศ.พญ.วโรชา มหาชัย

 

สำหรับกลุ่มเสี่ยงที่ควรเข้ารับการฉีดวัคซีนไวรัสตับอักเสบบีเพื่อเป็นการป้องกัน ประกอบด้วย ทารกแรกเกิดทุกราย เด็ก และผู้ใหญ่ที่ยังไม่มีภูมิป้องกัน ผู้ป่วยโรคตับเรื้อรัง ผู้ที่อยู่ใกล้ชิดกับผู้ป่วยไวรัสตับอักเสบบี บุคลากรทางการแพทย์ และผู้ที่ ทำงานในสถานพยาบาล ผู้ที่มีพฤติกรรมเสี่ยง เช่น รักร่วมเพศ ใช้ยาเสพติดชนิดฉีดเข้าเส้น ผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังที่ได้รับการฟอกไต ผู้ป่วยที่ได้รับเลือดบ่อยๆ หรือผู้ที่ต้องเดินทางไปยังพื้นที่ที่มีการระบาดของโรค เป็นต้น

ขณะที่การติดเชื้อไวรัสตับอักเสบชนิดเอ สามารถติดต่อได้จากการรับประทานอาหาร น้ำดื่ม หรือสัมผัสสิ่งปนเปื้อนเชื้อไวรัส ทําให้เกิดตับอักเสบเฉียบพลัน มีอาการอ่อนเพลีย ครั่นเนื้อครั่นตัว ไข้ เบื่ออาหาร และดีซ่าน อาการเกิดหลังจากได้รับเชื้อราว 2-4 สัปดาห์ ผู้ป่วยส่วนใหญ่ได้รับการรักษาตามอาการ และสามารถหายได้เองร่างกายสร้างภูมิต้านทานได้ แต่บางรายอาจมีอาการรุนแรงเกิดภาวะตับวายเฉียบพลันและเสียชีวิตได้

การฉีดวัคซีนไวรัสตับอักเสบเอ จึงเป็นการป้องกันโรคที่ได้ผลเกือบ 100% สามารถฉีดได้ในเด็กตั้งแต่อายุ 1 ขวบขึ้นไป โดยฉีด 2 ครั้ง ห่างกัน 6 เดือน และผู้ใหญ่ที่ไม่มีภูมิคุ้มกันโรคไวรัสตับอักเสบเอ สามารถรับการฉีดวัคซีน 2 ครั้ง ห่างกัน 6-12 เดือน

ผู้ที่ควรเข้ารับการฉีดวัคซีนไวรัสตับอักเสบเอ ได้แก่ เด็กอายุมากกว่า 1 ขวบผู้ป่วยโรคตับอักเสบเรื้อรัง และผู้ป่วยที่เป็นตับอักเสบไวรัสบีและซี ผู้ที่ใกล้ชิดกับผู้ป่วยไวรัสตับอักเสบเอหรือมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบเอ กลุ่มรักร่วมเพศ ผู้ที่ใช้สารเสพติด บุคลากรที่ทำงานในโรงพยาบาลหรือห้องปฏิบัติการ พ่อครัว แม่ครัวที่ต้อง ปรุงอาหารเป็นประจำ และผู้ที่จะ เดินทางไปยังสถานที่ที่มีการระบาด ของเชื้อไวรัสตับอักเสบเอ ควรได้รับการ ฉีดวัคซีนก่อนเดินทางประมาณ 1 เดือน

ทั้งนี้ไวรัสตับอักเสบบีและไวรัสตับอักเสบเออาจร้ายแรงถึงชีวิต การใส่ใจและดูแลตัวเองจึงเป็นเรื่องสำคัญ และควรเข้ารับการฉีดวัคซีนให้ครบถ้วนตามที่แพทย์กำหนด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน