ฮ่องกงจี้ใส่แมสก์-ป่วยทุบสถิติ
วันที่ 23 ก.ค. สเตรตส์ไทมส์รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระลอก 2-3 ในเอเชีย ว่า ฮ่องกงมีผู้ป่วยใหม่ในวันพุธที่ 22 ก.ค. เพิ่มขึ้นอีก 113 คน ถือเป็นตัวเลข ผู้ติดเชื้อรายวันที่สูงที่สุดของฮ่องกง ทุบสถิติจำนวนผู้ป่วยใหม่สูงสุดก่อนหน้านี้ 108 คน เมื่อ 19 ก.ค. ส่งผลให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมเพิ่มเป็น 2,132 คน โดยกลุ่มผู้ป่วยใหม่มี 105 คนติดเชื้อภายใน 27 คนติดเชื้อจากการร่วมรับประทานอาหารกับครอบครัวและเพื่อน ด้าน ยอดผู้เสียชีวิตคงที่ที่ 14 ราย และรักษาหายแล้ว 1,344 คน
ศ.โซเฟีย ชาน รมว.อาหารและสาธารณสุขฮ่องกง แถลงว่า ทางการฮ่องกงต้องใช้มาตรการเด็ดขาด ออกระเบียบให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ในที่สาธารณะในอาคาร ครอบคลุมซูเปอร์มาร์เก็ต และห้างสรรพสินค้า โดยจะบังคับใช้เป็นเวลา 14 วัน ทุกคนสวมหน้ากากอนามัยเมื่อใช้บริการขนส่งมวลชน หากละเมิดมีโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 20,000 บาท
ส่วนที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น แถลงพบผู้ติดเชื้อใหม่มากกว่า 300 คน นับเป็นจำนวนผู้ป่วยรายวันที่สูงที่สุดของกรุงโตเกียว และเป็นวันที่ 15 ที่เมืองหลวงแห่งนี้มีผู้ติดเชื้อรายวันเกิน 100 คน นางยูริโกะ โคอิเคะ ผู้ว่าการกรุงโตเกียว กล่าวว่าจะทำทุกวิถีทางเพื่อยับยั้ง การแพร่กระจายเชื้อโควิด-19 พร้อมเรียกร้องให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการออกนอกเคหสถานในช่วงวันหยุดยาว 4 วัน และขอให้ผู้สูงอายุ รวมทั้งผู้มีปัญหาสุขภาพ ดูแลร่างกายเป็นพิเศษ เนื่องจากเป็นกลุ่มเสี่ยงที่มีโอกาสติดเชื้อและอาการรุนแรงกว่า

ยิวผวา‘หมอ’ติดโควิดซ้ำสอง
ขณะเดียวกันเกิดกระแสหวาดวิตกในอิสราเอล เมื่อแพทย์หญิงคนหนึ่งที่โรงพยาบาลเชบาเมดิคอลเซ็นเตอร์ ในเมืองรามัทกัน ทางตะวันออกของเมืองเทลอาวีฟ ตรวจพบว่าติดไวรัสมรณะซ้ำเป็นครั้งที่สอง หลังป่วยครั้งแรกเมื่อเดือนเม.ย. และอาการดีขึ้นจนหายปกติ ซึ่งแพทย์คนดังกล่าวเข้ารับการตรวจหาเชื้อ 2 ครั้งในเดือนพ.ค. และมิ.ย. ซึ่งผลออกมาเป็นลบทั้งสองครั้ง แพทย์หญิงจึงกลับมาทำงานตามปกติ และต้องรักษาผู้ติดเชื้อโควิด-19 คนหนึ่งเมื่อ ต้นเดือนก.ค. ไม่นานก็มีอาการป่วยและผลตรวจหาเชื้อกลับมาเป็นบวกอีกครั้ง ทั้งนี้ ยังไม่มีรายงานยืนยันทางวิทยาศาสตร์ถึงการติดเชื้อโควิด-19 ซ้ำสอง

ออสซี่ขาดดุลหนักสุดรอบ 75 ปี
นายจอช ฟรายเดนเบิร์ก รมว.การคลังออสเตรเลีย แถลงว่าออสเตรเลียเผชิญภาวะขาดดุลงบประมาณ 86,000 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือราว 1.94 ล้านล้านบาท ถือเป็นการขาดดุลรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 หรือเมื่อ 75 ปีก่อน และคาดว่าในปีงบประมาณหน้าจะขาดดุลสูงกว่า 4 ล้านล้านบาท โดยระบุว่างบประมาณส่วนหนึ่งถูกนำไปใช้ปกป้องชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19 ซึ่งต้องใช้เวลานานหลายปีกว่าจะฟื้นคืนงบฯ ที่ขาดดุลได้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน