ธนาธรเฉ่งรัฐบาลประยุทธ์ – วันที่ 7 ส.ค. นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าคณะก้าวหน้า โพสต์เฟซบุ๊กถึงความจริงของสภาพเศรษฐกิจ ระหว่างตลาดสดกับตลาดหุ้นว่า

ในรอบเดือนที่ผ่านมา ตนไปพบปะประชาชนในตลาดสดหลายแห่งทั่วประเทศ ได้รับฟังปัญหาความทุกข์ของประชาชน ตอกย้ำความเป็นจริงว่าเศรษฐกิจปัจจุบันเลวร้ายกว่าตัวเลขจีดีพีที่เห็นมาก

ขณะที่หลายสำนักประมาณการเศรษฐกิจติดลบ 7-10 เปอร์เซ็นต์ ความเห็นส่วนใหญ่ของพ่อค้าแม่ขายในตลาดสด บอกว่ายอดขายลดลงครึ่งหนึ่ง ตั้งแต่เกิดรัฐประหารปี 2557 สถานการณ์มีแต่เลวร้ายลง และตกต่ำสุดเมื่อเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19

นายธนาธร ระบุอีกว่า เมื่อตัดภาพกลับไปที่ตลาดหุ้น ดัชนีตลาดหุ้นไทยเริ่มต้นปีด้วยดัชนี 1,575 จุด ปัจจุบันยืนอยู่ที่ 1,342 จุด หรือลดลง 14.8 เปอร์เซ็นต์ ตลาดหุ้นไทยตื่นตระหนกกับสถานการณ์โควิดเพียงสั้นๆ ช่วงครึ่งหลังของเดือนมี.ค. ที่ดัชนีตกลงเหลือ 1,000 จุด ก่อนจะค่อยๆ ไต่ระดับมาถึงปัจจุบัน เมื่อตลาดตื่นตระหนก รัฐบาลได้ออกมาตรการในรูปแบบพ.ร.ก. 2 ฉบับ ฉบับแรกเพื่อพยุงเสถียรภาพตลาดหุ้นกู้ และฉบับที่สองเพื่อให้เอสเอ็มอีเข้าถึงเงินกู้เพิ่มเติมได้ ซึ่งประชาชนจึงสงสัยว่า กองทุนนี้ตั้งขึ้นมาเพื่ออุ้มธนาคารหรืออุ้มเอสเอ็มอีกันแน่

“ดังนั้น ความเป็นจริงของตลาดสด จึงหดหู่กว่าตลาดหุ้น วิกฤตโควิด-19 ส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจกับคนจนมากกว่าคนรวย แต่มาตรการที่ออกมาอุ้มคนจนน้อยเกินไป ช้าเกินไป และกระมิดกระเมี้ยนเกินไป ไม่สมสัดส่วนความเดือดร้อน ขณะที่มาตรการเพื่อกลุ่มทุนรวดเร็วฉับไว” นายธนาธร ระบุ

นายธนาธร ระบุด้วยว่า กองทัพยังซื้ออาวุธต่อไปไม่หยุด ไม่มีความพยายามใดๆ จากรัฐบาลที่จะดึงเงินสดที่เหลืออยู่มากในรัฐวิสาหกิจและกองทุนต่างๆ ภายใต้การดูแลของรัฐบาลส่งคืนกลับรัฐเพิ่มขึ้น ทั้งหมดเกิดขึ้นในช่วงที่เงินเยียวยาประชาชนก้อนสุดท้ายกำลังหมดลง ซึ่งในสังคมเดียวกัน คนรวยและคนมีอำนาจเหมือนอยู่คนละโลกกับคนจนที่หาเช้ากินค่ำ วันที่ประชาชนกู่ร้องตะโกนถึงความลำบาก รัฐบาลกลับบอกให้พวกเขาทำตามกฎหมาย ข่มขู่ คุกคามด้วยคดีความ

ขณะที่คนรวยและคนมีอำนาจ ได้รับสิทธิประโยชน์ ได้รับการชดเชยเยียวยาก่อนใคร ความเจ็บปวด ความไม่พอใจของประชาชนที่ส่งเสียงออกมา ไม่ใช่เพราะใครอื่น นอกจากการกระทำของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน