พ่อจ๋าแม่จ๋า‘เข้ม-มุก’เข้าครัวได้สองเชฟดัง‘เป่าเป้-จ๋า’ผู้ช่วย – พาละคร “โซ่เวรี” ฟาดเรตติ้งนำโด่งแล้ว พ่อจ๋าแม่จ๋า ‘เข้ม‘ หัสวีร์ ภัคพงษ์ไพศาล และ ‘มุก’ มุกดา นรินทร์รักษ์ ก็ควงคู่กันมาโชว์สกิลทำอาหาร โดยมีวัตถุดิบหลักเป็น “ไข่ไก่” และมีผู้ช่วยเป็นถึงแชมป์และรองแชมป์รายการ “MasterChef All Stars Thailand” ได้แก่ ‘เป่าเป้’ เจสสิก้า หวัง และ ‘จ๋า’ น้ำทิพย์ ภูศรี

งานนี้ไม่ว่าจะให้รังสรรค์เมนูอะไร พ่อจ๋าแม่จ๋าสู้ตาย!!

จากนั้นก็เป่ายิงฉุบเลือกฝั่ง ผลปรากฏ เข้ม ได้ เชฟเป่าเป้ เป็นผู้ช่วย ทำเมนู “ลาบไข่” ส่วน มุกดา ได้ เชฟจ๋า ทำเมนู “ใบเหลียงผัดไข่”

แถมแต่ละทีม ยังต้องมีวัตถุดิบปริศนานำมาใส่เพิ่ม ทีมพ่อจ๋า ได้ วุ้นเส้น มะกรูด และคอร์นเฟล็ก ส่วนทีมแม่จ๋า ได้ ฟักทอง กะปิ และพริกหยวก

วัตถุดิบลงตัวแล้วก็ถึงเวลาลงมือทำ เข้มดูคล่องแคล่ว พอเริ่มทำก็จัดแจงปอกและหั่นผักอย่างรวดเร็ว ส่วนทางสาวมุกเก้ๆ กังๆ ไม่รู้จะเริ่มทำอะไรก่อน จนเชฟจ๋าต้องบอกให้เด็ดใบเหลียงก่อน เจ้าตัวก็ตั้งหน้าตั้งตาเด็ด เด็ดไปบ่นไปว่าทีมงานซื้อใบเหลียงแก่มาให้ กว่าจะเด็ดใบเหลียงเสร็จ ทางเข้มก็เตรียมทุกอย่างเสร็จหมดแล้ว นำกระทะตั้งเตาพร้อมตอกไข่ลงไป คนจนสุกนำขึ้นจากเตา ผสมเครื่องปรุงเองจนเชฟเป่าเป้ได้แต่ยืนมอง เพราะพูดไม่ทัน จนถึงช่วงชิม ก็ได้แค่บอกว่าควรใส่โน่นนี่เพิ่ม เป็นอันเสร็จ จัดแจงนำเมนูลาบไข่จัดใส่จาน

ทีมพ่อจ๋าเสร็จแล้ว แต่ทีมแม่จ๋ายังไปไม่ถึงไหน สาละวนอยู่กับการหั่นพริกหั่นฟักทองแล้วค่อยๆ ผัดอย่างประณีต ทำตาม ทุกขั้นตอนที่เชฟจ๋าบอกอย่างละเอียดยิบ แถมยังเจอหนุ่มเข้มเข้ามาก่อกวนอีกต่างหาก กว่าจะเสร็จเรียกว่าต้องใช้สมาธิอย่างสูง

แต่งานนี้ ช้าๆ ได้พร้าเล่มงาม เพราะช่วงตัดสิน เมนูที่ชนะปรากฏเป็น “ใบเหลียงผัดไข่” ของทีมแม่จ๋า เพราะด้วยรสชาติเข้มข้นถูกปากกรรมการ

เสร็จจากการทำอาหาร พ่อจ๋าแม่จ๋าก็มานั่งพูดคุยถึงการเข้าครัวทำอาหารครั้งนี้ โดยมุกกล่าวว่า “ถือเป็นการทำอาหารจริงจังครั้งแรก ปกติแค่ไข่เจียว หมูทอด สเต๊ก ซึ่งไม่ต้องปรุงอะไรมาก แต่นี่มีการปรุง ผัดใส่โน่นนี่ หลายขั้นตอน แล้วหนูเป็นคนมือหนัก เวลาจะปรุงอะไรจะใส่อย่างละช้อนโต๊ะ ก็ไม่เคยคิดว่าผิด แต่มาวันนี้ คิดเลย ตายแล้วที่ใส่มาตลอดทั้งชีวิตนั้นใส่ผิด”

เข้มกล่าวต่อ “ผมทำกับข้าวอยู่แล้ว แต่เมนูลาบไข่ยัง ไม่เคย เป็นครั้งแรก และไม่คิดว่าทำได้ด้วย เพราะส่วนใหญ่ลาบก็จะเป็นไก่ หมู เนื้อ มีรสชาติของเนื้อ วันนี้ได้เชฟมาสอนถึงกับเกร็ง พี่ๆ เขาเก่ง แต่เราเป็นมือใหม่ รสชาติออกมาอร่อย แต่ของมุกอร่อยกว่า”

มุกรีบแย้ง “ของเข้มไม่ใช่ว่าไม่อร่อย อาจจะถูกปากคนกรุงเทพฯ ตัวมุกเป็นคนชอบกินรสจัด แล้วก็คุ้นเคยกับใบเหลียงเพราะคุณแม่เคยผัดให้กิน เหมือนเราเคยชิน แต่พอทำเสร็จแล้วอร่อยมั้ย ตอบไม่ได้” เข้มตอบแทน “อร่อยครับ กินกับข้าวจะพอดี”

ผ่านจากวันนี้ไปแล้ว การทำอาหารยังรู้สึกว่ายากอยู่มั้ย นางเอกสาวตอบ “ไม่ยากหรอก คือบางทีถ้าเราไม่รู้ เราจะใส่ทุกอย่างโครมๆ มันก็จะเสร็จเลย คือ ไม่ได้กิน เพิ่งรู้วันนี้แหละว่าทำไมต้องเอากุ้งไปผัดแยกก่อน ถ้าทำเองคงใส่รวมๆ ไปเลยทีเดียว แต่นี่เอากุ้งลงไปผัดให้สุกก่อน แล้วเอาออกมาพัก เปลี่ยนกระทะ แล้วค่อยๆ รอค่อยๆ ใส่ ความอร่อยคงอยู่ที่การรอ”

พระเอกหนุ่มเสริม “ผมว่ามันคือศิลปะ ค่อยๆ เติมโน่นนี่อย่างละนิดละหน่อยมันถึงอร่อย วันนี้ถือว่าผ่านไปได้ด้วยดีครับ”

มาถึงละครของเราบ้าง “โซ่เวรี” ตอนนี้กำลังเข้มข้น กับบท ‘ปรินทร์’ และ ‘ปารมิตา’

เข้มบอก “เรตติ้งออกมาเกินคาด แค่คนดูก็ดีใจแล้ว ถือเป็นกำไรให้กับเราและทีมงาน ตอนถ่ายค่อนข้างจะหนักหน่วงวันไหนเป็นซีนร้องไห้ ก็จะร้องอยู่อย่างนั้น”

มุกดาเสริม “มิตาร้องเยอะมาก แทบไม่มีซีนไหนที่ไม่ร้อง มันจะหนักหน่วงในเรื่องอารมณ์ เราก็เต็มที่ อยากให้ผลงานออกมาดี เรื่องนี้จะหนักทั้งพระเอกนางเอก หนูก็หนักมาตั้งแต่ต้นเรื่อง เพราะปมอยู่ที่ เราสองคน หนักตรงที่เรามีลูก ก็เป็นความท้าทายในคาแร็กเตอร์ใหม่ โดยรวมก็ดีใจที่ผล ตอบรับดี”

เวลาเล่นด้วยกันยากไหม นางเอกสาวตอบ “หนูกับเข้มเริ่มรู้จังหวะกัน ที่สำคัญเรื่องนี้คือบท คำพูด และอารมณ์ในหลายๆ คำพูดที่ต้องโต้ตอบกัน มันส่งเราไปครึ่งนึงแล้ว ความแรงของมันส่งเราอยู่แล้ว บวกกับจังหวะที่เราเล่นมาประมาณนึงแล้วมันโอเค ไปด้วยกันได้ง่ายค่ะ”

แล้วเราล่ะเข้ม เจอมุกดาเรื่องแรกเป็นไงบ้าง เข้มกล่าวว่า “ด้วยพลังในการเล่นของเขา ดีหมดทุกอย่างเลย เจอกันครั้งแรก ในเรื่องการปรับพฤติกรรมต่างๆ ก่อนที่จะสนิทกัน มันต้องใช้เวลา แต่กับมุกมีความโชคดีที่ผู้กำกับฯ ผู้จัด ทุกอย่างเป็นธรรมชาติที่เราพูดคุยกันได้ เราแค่รับผิดชอบการบ้านของเราในแต่ละวัน พอมาเจอกัน ทุกอย่างลงตัวไปหมด”

แรกๆ ที่เจอและร่วมงานกัน เข้มบอก “มุกเป็นผู้หญิงที่คาแร็กเตอร์นิ่งๆ พูดตรงเราก็คิดแล้วว่าจะหาทางเข้าหาเขายังไงดี แต่พอรู้จัก เขาก็เป็นผู้หญิงฮาๆ โก๊ะๆ แรกๆ จะเกร็งๆ หน่อย ไม่รู้จะเข้าแบบไหน แต่พอเข้ากันได้ ทำให้บรรยากาศในกองค่อนข้างมีความสุข สนุกสนาน”

มุมโก๊ะของมุกดา เป็นยังไง เข้มตอบ “เขาจะมีจังหวะของเขา” มุกดากล่าวต่อ “ไม่มีใครรู้ได้ ถ้าไม่เจอ มันไม่มีมุขอะไรเลย มันคือจังหวะนรกบางจังหวะ คือการตอบตรง แบบที่ทุกคนไม่คาดคิด อะไรเงี้ย”

เข้มเผาต่อ “แล้วเขาก็จะถูกแกล้งเรื่อง คำผวน เพราะผู้กำกับฯ และผู้จัดเราเก่ง คำผวนกันมาก เขาก็จะแกล้งๆ มุกก็ไม่เข้าใจ คนอื่นเขาก็จะขำหน้างงของมุก”

แล้วมุกล่ะ ก่อนจะสนิทกัน เรารู้สึกว่า เข้มเป็นคนยังไง มุกกล่าวว่า “ครั้งแรกเลย รู้สึกว่าการจะคุยกับเข้มยาก เพราะเขาเป็นคนสนุก พูดเก่ง คนละขั้วกับเราเลย หนูนิ่งมาก เขาอะเลิร์ตมาก บางครั้งเราไม่รู้ว่าจะคุยกับคนแบบนี้ในทางเขาได้ยังไง พอมีผู้กำกับฯ ผู้จัด ช่วยปูทางมาแล้วครึ่งหนึ่งเราก็รู้แล้วว่าจะเล่นกับเข้มได้ แต่ก็ประมาณนึง”

คิดไหมว่าจะได้มาเป็นคู่จิ้นพ่อจ๋าแม่จ๋า เข้มแง้ม “เอาจริงๆ เวลาทำงานเราก็ทำงานเลย ยังไม่คิดว่าต้องจิ้น ก่อนหน้านี้เราเล่นละคร ในป่า ยังไม่เคยสัมผัสคำว่าคู่จิ้น จนมาเรื่องนี้ที่หลังๆ มา พอมันเคยชินกับตัวละครที่เราดูแลมุกดา เราพูดคุยกัน เล่นกัน ในจังหวะที่ไม่ได้อยู่หน้ากล้อง แล้วโดนแอบถ่ายจากผู้จัด หรือแฟนคลับออกมา ตัวเรามองเราก็ยิ้มนะ พอมาดูสิ่งที่เรากระทำกับเขานอกเหนือ จากงานมันดูน่ารักดี แล้วพอมันเป็น กระแส พ่อจ๋าแม่จ๋า ต่อวันมีคนแท็กมาประมาณร้อยกว่าแท็ก ผม ไม่เคยมีคู่จิ้น พอมีก็น่ารักดีครับ”

มุกล่ะ คู่จิ้นเยอะมาก ดาราสาวหัวเราะ “ดีใจค่ะ การที่มีแฟนคลับมาชื่นชอบทุกๆ คนที่เราเล่นคู่ด้วย ก็ดีใจ ถือว่าประสบความสำเร็จ ทำให้คนรักทั้งคู่ได้ ทั้งนี้ทั้งนั้นก็อยากให้ทุกคนรักทุกคู่เหมือนเดิม ชีวิตเราในวงการ ยังต้องเจอพระเอกอีกหลายคน โอกาสจะกลับมาเจอกันมีอยู่แล้ว แค่ว่าเมื่อไหร่ เราจะเล่นอยู่กับแค่คนคนเดียวไม่ได้หรอก ฉะนั้นมุกก็อยากให้รักทุกๆ คู่ ทุกคาแร็กเตอร์ ซัพพอร์ตกันดีกว่า จะได้ไปเรื่อยๆ มีอะไรให้น่าติดตามไปตลอด”

ส่วนคำว่า “พ่อจ๋าแม่จ๋า” ที่ถูกเรียก ถามว่ามาจากไหน เข้มเฉลย “น่าจะมาจากในละครที่เราสองคนรับบทเป็นพ่อเป็นแม่ ก็เลยมี #พ่อจ๋าแม่จ๋า”

แม้จะเป็นวัยรุ่น แต่พอถูกเรียกพ่อจ๋าแม่จ๋า ทั้งคู่ก็ไม่ติดและไม่เขิน โดยมุกกล่าวว่า “ไม่เขินด้วยคาแร็กเตอร์ มันไม่ใช่พ่อแม่ พอมีคำว่า จ๋า เข้ามาทำให้ดูซอฟต์ ดูคิวต์ๆ น่ารัก”

หลังจากนี้จะมีผลงานอะไรกันต่อบ้าง เข้มเผย “ละครเรื่อง ‘เผาขน’ ของโคลีเซี่ยมฯ บู๊เยอะ รอชมครับ”

ส่วนมุกดาก็กลับมาหาคู่จิ้นคนเดิม ‘ไมค์ ภัทรเดช’ เจ้าตัวพยักหน้า “ใช่ค่ะ เรื่อง ‘คู่แค้นแสนรัก’ เรื่องนี้พลิกคาแร็กเตอร์มากๆ เป็นคอมเมดี้หนัก รับรองทุกคน ต้องอึ้ง แล้วก็มีภาพยนตร์เรื่อง ‘My Boss is a Serial Killer’ ฝากติดตามด้วยค่ะ แต่ยังไง ก็ฝากติดตามเรื่อง ‘โซ่เวรี’ ก่อนค่ะ กำลังออนแอร์ทางช่อง 7 รับรองสนุกเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ”

เข้มกล่าวเสริม “หลังจากนี้ช่วงหน่วงๆ จะน้อยลง มีความโรแมนติกเพิ่มเข้ามา คู่เราเซอร์ไพรส์แน่นอนครับ”

อนงค์ จันทร

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน