วันที่ 1 ต.ค. ที่พรรคเพื่อไทย นายสุรพล เกียรติไชยากร อดีต ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย แถลงถึงกรณีศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง ยกคำร้องคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่ตัดสิทธิ์และให้ใบส้ม กรณีถวายปัจจัยพระสงฆ์ที่จ.เชียงใหม่ 2 พันบาทว่า คำวินิจฉัยของศาลฎีกาฯ แสดงว่าการเลือกตั้งในส่วนที่เกี่ยวข้องกับตน เป็นไปโดยสุจริต เที่ยงธรรม ถามว่าใครจะเป็นผู้รับผิดชอบต่อคะแนนเสียงในเขต 8 เชียงใหม่ กว่า 5.2 หมื่นคะแนน กกต.จะแสดงความรับผิดชอบโดยคืนสิทธิ์ความเป็นส.ส.ให้กับตนอย่างไร รวมทั้งชื่อเสียงเกียรติยศ และความผิดหวังของประชาชนที่เกิดขึ้น
นายสุรพลกล่าวว่า ทั้งนี้ ตนพร้อมทนายความจะไปยื่นคำร้องต่อเลขาธิการ กกต. ในวันที่ 2 ต.ค. เวลา 10.00 น. เพื่อให้ทบทวนการคืนสถานภาพ ส.ส.ให้กับตน ทราบว่าฝ่ายกฎหมาย พรรคเพื่อไทยก็เตรียมยื่นหนังสือเพื่อเรียกร้องสิทธิให้กับตนเช่นกัน
ด้านนายปกป้อง กลับวิเศษ ทนายความ กล่าวว่า จากที่เลขาธิการ กกต.ระบุการให้ใบส้มถือเป็นที่สุดนั้น คำว่าเป็นที่สุด ต้องผ่านการพิจารณาและตัดสินจากศาลฎีกาฯ ก่อน เพื่อตรวจสอบถ่วงดุลการใช้อำนาจขององค์กรอิสระ เมื่อศาลฎีกาฯ ได้พิพากษาและมีคำวินิจฉัยในข้อเท็จจริงว่า การถวายเงินเป็นเรื่องส่วนตัว ไม่ใช่การถวายผ้าป่าตามที่กกต.วินิจฉัย เท่ากับลบล้างการตัดสินของ กกต. ซึ่งผลการออกใบส้มย่อมไม่มีผล กกต.จะรับผิดชอบอย่างไร
ที่กระทรวงมหาดไทย พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการกกต. กล่าวว่า เรื่องการเยียวยาต้องรอกกต. เพราะเรื่องนี้เป็นอำนาจหน้าที่ของกกต. ซึ่งเราต้องเสนอคำพิพากษาศาลฎีกาฯ ให้ท่านรับทราบก่อนแล้วต้องรอว่าท่านจะว่าอย่างไร ส่วนเรื่องที่นายสุรพลจะฟ้องร้องกลับนั้น ก็เป็นสิทธิที่สามารถทำได้อยู่แล้ว แต่เรื่องนี้เราทำตามมาตรา 225 ของรัฐธรรมนูญ
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊กว่า เรื่องกกต.ให้ใบส้ม อดีตส.ส.เชียงใหม่ ต่อมาศาลฎีกาฯ ยกคำร้อง ซึ่งการจะฟ้องกลับกกต.ไม่ง่าย เพราะกกต.เป็นองค์กรอิสระ มีกฎหมายคุ้มครองความเป็นอิสระเต็มที่ เปรียบเหมือนมีผนังทองแดงกำแพงเหล็ก คุ้มครอง การเอาผิดไม่ง่าย หากไม่ได้ประมาทเลินเล่อหรือมีเจตนาทุจริต และการสืบเจตนาทุจริตยาก โดยทั่วไปถ้าไม่มีพยานหลักฐานชัด เอาผิดยากมาก มนุษย์ในองค์กรอิสระทุกองค์กร จึงต้องเป็นคนดีจริงๆ ถ้าไม่ดี ก็ทำบ้านเมืองพังพินาศทั้งระบบ ทั้งนี้ การฟ้องร้ององค์กรอิสระ ถ้าใครสนใจจะศึกษาเป็นตัวอย่าง คอยดูคดีที่ตนฟ้องอาญากกต. ที่ศาลอาญาทุจริตกลางดีกว่า
