จุดขาย‘ไอโฟน12มินิ’ – สมาร์ตโฟนยอดนิยมจากค่ายแอปเปิ้ล ประเทศสหรัฐอเมริกา ปีนี้ ไอโฟนเปิดตัวมาหลากหลายทั้งรุ่นและขนาด ปิดศักราชกับการที่ต้องเลือกระหว่าง ไอโฟนขนาดเล็กลดสเป๊กอย่างไอโฟน เอสอี กับไอโฟน เครื่องใหญ่สเป๊กสุดไฉไล

เมื่อ “ไอโฟน 12 มินิ” รวมไว้ใน หนึ่งเดียว กล่าวคือ “เล็กทรงพลัง”

ไอโฟน 12 มินิ เป็นไอโฟนรุ่นที่มีขนาดเล็กที่สุดในซีรีส์ 12 แอปเปิ้ลเพิ่งเปิดตัวไปในปลายปีนี้ แต่ยังคงไว้ซึ่งสเป๊กอันทรงพลังแบบเดียวกันกับรุ่นอื่นๆ (ไม่นับแบตเตอรี่) อย่างเช่น ชิพประมวลผล (SoC) รุ่น เอ14 ไบโอนิก ทำให้ไอโฟน 12 มินิ เป็นสมาร์ตโฟนเครื่องเล็กที่มีประสิทธิ ภาพสูงที่สุดของปี 2563

หน้าจอ Super Retina XDR OLED ของไอโฟน 12 มินิ มีขนาดเพียง 5.4 นิ้ว ความละเอียดสูงสุดแบบ FHD (1080 x 2340 พิกเซล) ความสว่างสูงสุดถึง 1,200 นิต ซึ่งด้วยขนาดเครื่องที่เล็กทำให้ความหนาแน่นของพิกเซลสูงถึง 476 พิกเซลต่อตารางนิ้ว (ppi) ใช้อัตราส่วนภาพ 19.5 ต่อ 9 สนับสนุนเทคโนโลยีภาพแบบ HDR10, Dolby Vision, Wide color gamut และ True-tone ช่วยให้ภาพมีสีสันสวยสดใสและคงความสมจริงเหมือนธรรมชาติมากที่สุด

ไอโฟน 12 มินิ มีขนาดเครื่องกว้าง 64.2 ยาว 131.5 หนา 7.4 มิลลิเมตร น้ำหนักรวมแบตเตอรี่ 135 กรัม ทั้งยังผ่านมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP68 ถือว่าเล็กยิ่งกว่าเครื่อง พิกเซล 4 เอ จากกูเกิ้ลเสียอีก แต่ไอโฟน 12 มินิ ไม่มีขอบที่หนาเหมือนกับสมาร์ตโฟนขนาดเล็กทั่วไป

ตรงกันข้ามคือ ไอโฟน 12 มินิ มีขอบจอที่ค่อนข้างบางเช่นเดียวกันกับไอโฟน 12 รุ่นอื่นที่มีราคาแพง กว่า ทำให้ไอโฟน 12 มินิ แลดูเป็นสมาร์ตโฟนที่ทันสมัยไม่แพ้ ไอโฟนรุ่นพี่

เดวิด ลเมล ผู้ทดสอบของเว็บไซต์แอนดรอยด์อูธอริตี พบว่าขนาดที่เล็กลงกว่าสมาร์ตโฟนทั่วไปในยุคนี้ของไอโฟน 12 มินิ ไม่ได้ทำให้การใช้งานสะดวกน้อยลง แต่ตรงกันข้ามกลับทำให้ได้ความรู้สึกเก่าๆ กลับมา

เช่น การใช้สมาร์ตโฟนแบบมือเดียว หรือวัน-แฮนด์ โอเปอเรชั่น โดยขณะถือนั้นนิ้วโป้งแตะขึ้นไปได้ถึงขอบบนของจอ แต่การใช้งานแบบสองมือนั้นทำให้รู้สึกคับแคบไปเล็กน้อย เพราะสมาร์ตโฟนในยุคนี้ที่หลายคนคุ้นชิ้นนั้นแทบมีจอไม่ต่ำกว่า 6 นิ้ว

ลเมลมองว่า หากเป็นผู้ที่ชื่นชอบ การชมคอนเทนต์ความบันเทิงเป็นกิจวัตร ไอโฟน 12 มินิจะไม่ค่อยเหมาะเพราะมีจอภาพที่ขนาดเล็ก แนะนำเป็นไอโฟน 12 โปร แม็กซ์ หรือซัมซุง กาแล็กซี โน้ต 20 อัลตราดีกว่า แต่หากเป็นผู้ที่ต้องการความคล่องตัวในการพกพา และใช้งานทั่วไปอย่างการติดตามข้อมูลข่าวสาร ไปจนถึงโทรศัพท์ติดต่องาน ไอโฟน 12 มินิ ถือว่าเหมาะ

ไอโฟน 12 มินิ ใช้ขุมพลังจาก SoC รุ่นแอปเปิ้ล เอ14 ไบโอนิก ซึ่งเป็น SoC ที่มีประสิทธิภาพที่สุดในชั่วโมงนี้ ทั้งยังเป็น SoC แรกของโลกที่ใช้สถาปัตยกรรมการผลิตขนาด 5 นาโนเมตร (nm) ภายในประกอบด้วยหน่วยประมวลผลกลาง (CPU) แบบ 6 คอร์ (Hexa-core) แบ่งเป็น 2 คลัสเตอร์ ได้แก่ ความถี่สัญญาณนาฬิกา 3.1 กิกะเฮิร์ตซ์ (GHz) และ 1.8 GHz สำหรับอีก 4 คอร์ที่เหลือ ส่วนหน่วยประมวลผลกราฟิกนั้นเป็นแอปเปิ้ล จีพียู แบบ 4 คอร์ หน่วยความจำแรม 4 กิกะไบต์ (GB) และพื้นที่เก็บข้อมูลภายใน 64 128 และ 256 GB บนอินเตอร์เฟซเชื่อมต่อแบบ NVMe พร้อมแบตเตอรี่ขนาด 2,227 มิลลิแอมป์ชั่วโมง (mAh)

แม้ไอโฟน 12 มินิ จะมีสเป๊กที่แรงระดับเรือธงของแอปเปิ้ล แต่ด้วยขนาดของแบตฯ ที่เล็กทำให้เป็นข้อเสียที่สุดของสมาร์ตโฟนรุ่นนี้ จากการทดสอบพบว่า ไอโฟน 12 มินิ ใช้งานติดต่อกันได้เพียง 5 ชั่วโมงเท่านั้น เทียบไม่ได้กับไอโฟน 12 โปร ที่ใช้งานได้นานติดต่อกัน 6 ช.ม. และ ไอโฟน 12 โปร แม็กซ์ ใช้งานติดต่อกันได้นานถึง 8 ช.ม.

ปัจจัยระยะเวลาการใช้งานถือเป็นหนึ่งในกุญแจสำคัญของการตัดสินใจเลือก ไอโฟน 12 ซีรีส์ นอกเหนือไปจากราคา ดังนั้น การทดสอบข้างต้นถือว่าน่าตกใจ เนื่องจากระยะเวลาการใช้งานติดต่อกัน 5 ช.ม.นั้น ผู้ใช้ที่ใช้งานหนักอาจต้องขยันชาร์จอยู่บ่อยครั้ง หรือพกพาเพาเวอร์แบงก์

หากรับจุดนี้ได้ ไอโฟน 12 มินิก็จะเป็นสมาร์ตโฟนที่วิเศษ แม้ระยะเวลาการใช้งานนับว่าต่ำกว่าสมาร์ตโฟนทั่วไปในยุคนี้ ถือว่าได้อย่าง (ชิพทรงพลังที่สุด) แต่เสียอย่าง ส่วนผู้ที่ใช้แบบเบาๆ นั้นน่าจะอยู่ได้ทั้งวัน (แต่ก็เสี่ยง)

กล้องถ่ายภาพของไอโฟน 12 มินิ นั้นมีสเป๊กเดียวกันกับไอโฟน 12 ได้แก่ เลนส์หลักและวายความละเอียด 12 ล้านพิกเซล (MP) ที่ด้านหลังเครื่อง และเลนส์เซลฟี่ความละเอียดเท่ากันที่ด้านหน้าบริเวณติ่งขอบจอด้านบน แต่จะไม่มีเลนส์ซูม 2X เหมือนในไอโฟน 12 โปร และเลนส์ซูม 2.5X แบบไอโฟน 12 โปร แม็กซ์

แต่คุณภาพจองภาพนิ่งและคลิปที่ออกมานั้นยอดเยี่ยมมาก โดยคลิปวิดีโอถ่ายได้สูงสุดถึง 4K ที่ 60 เฟรมต่อวินาที แม้จะไม่มี Night portrait mode และเซ็นเซอร์ LIDAR ที่ช่วยให้โฟกัสของกล้องมีความแม่นยำสูงเป็นพิเศษ

ดังนั้น แม้จะมีข้อด้อยที่ระยะเวลาการใช้งานต่ำกว่าสมาร์ตโฟนทั่วไปก็ตาม แต่ชดเชยด้วยชิพที่ทรงพลัง และไอโอเอสอัพเกรดเป็น 14.2 ได้ เป็นประสบการณ์การใช้งานที่ยอดเยี่ยม

ถึงจะไม่มีฟีเจอร์อย่างจอความถี่สูง ชาร์จเร็ว และเลนส์ซูม เป็นสมาร์ตโฟนขนาดเล็กที่ทรงพลังที่สุดในปีนี้ สนนราคาที่ 25,900 บาท

หรือหากต้องการมองทางเลือกอื่น แนะนำเป็นซัมซุง กาแล็กซี เอส 20 เอฟอี วันพลัส 8ที และกูเกิ้ล พิกเซล 5

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน