หลวงพ่อดำ วัดตาล ราชบุรี – สวัสดีครับ ท่านผู้อ่านที่รักทุกท่าน วันนี้ผมจะมาคุยถึงเรื่องเหรียญเก่าแก่ของราชบุรี แต่ไม่ใช่เหรียญเต่าวัดสัตตนารถนะครับ แต่ผมจะพูดถึงเหรียญ หลวงพ่อดำ วัดตาล อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี ซึ่งสร้างในปี พ.ศ.2459 ปัจจุบันนับว่าหาดูยากแล้วครับ และไม่ค่อยมีใครได้เขียนถึงประวัติของท่านนัก วันนี้ผมก็เลยเก็บมาเล่าสู่กันฟังครับ

หลวงพ่อดำ เกิดวันอาทิตย์ เดือนอ้าย ปีขาล ตรงกับปี พ.ศ.2385 ที่บ้านคลองบางป่าใต้ ราชบุรี โยมบิดาชื่อ ปลิก โยมมารดาชื่อ เหม เมื่อเด็กท่านเป็นคนผิวดำ มารดาจึงเรียกท่านว่า “ดำ” ท่านเป็นคนนิสัยใจคอกล้าหาญมาแต่เด็กๆ พออายุสมควรเล่าเรียน บิดาจึงนำไปฝากเรียนหนังสือไทยและขอมที่สำนักวัดตาล เนื่องจากพระอาจารย์เล็กเป็นญาติทางบิดาของท่าน พระอาจารย์เล็กผู้นี้เป็นครูที่ดุมาก กวดขันนักเรียนจนเป็นที่เกรงกลัวแก่เด็กๆ หลวงพ่อดำเวลาท่องหนังสือแล้วกลัวว่าจะง่วงเผลอหลับ ท่านจะเอาทะนานลื่นๆ มาหนุนหัวท่องหนังสือ เพราะเวลาง่วงก็จะลื่นๆ กระทบกับกระดาน หลวงพ่อดำได้อุตสาหะเล่าเรียนด้วยความขยัน ทำให้พระอาจารย์เล็กเกิดเมตตาจิตถ่ายทอดวิชา ความรู้ต่างๆ ให้ จนท่านมีความรู้แตกฉาน

พออายุได้ 16 ปี จึงได้บรรพชาเป็นสามเณรที่วัดตาล และศึกษาพระธรรมวินัยจนอายุครบบวช ก็ได้อุปสมบทที่วัดตาลนั่นเอง โดยมีพระครูอภัยมงคล (แดง) วัดจันทคาม เป็นพระอุปัชฌาย์ พระสมุห์ทองกับพระอาจารย์เล็กเป็นพระคู่สวด ได้รับฉายาว่า “อินทสโร” บวชแล้วก็ได้อยู่ศึกษาพระธรรมวินัยที่วัดตาล ต่อมาจึงได้ออกธุดงค์และไปปริวาสธุดงค์กับพระอาจารย์อ้น วัดบางจาก อัมพวา ท่านได้ออกธุดงค์ไปทั่วประเทศ ฝึกพลังจิตจนกล้าแข็ง ได้พบพระอาจารย์เก่งๆ ในป่าลึก และได้รับถ่ายทอดวิชาต่างๆ มากมาย

นอกจากนี้ท่านยังเสาะหาตำราเก่าๆ เอามาศึกษาฝึกฝนด้วยตัวเอง ในระหว่างที่ท่านได้ธุดงค์ไปนั้น ไปถึงไหนก็ได้ช่วยชาวบ้าน ชาววัดที่ท่านผ่านไป ก่อสร้างวัดต่างๆ ณ ที่นั้น จนท่านมีชื่อเสียงโด่งดังเป็นที่เคารพนับถือของคนทั่วไป พอพรรษาที่ 8 เจ้าอาวาสวัดตาลว่างลง ทายกทายิกาและ ทางคณะสงฆ์ เห็นควรนิมนต์ท่านขึ้นเป็น เจ้าอาวาสวัดตาล ซึ่งขณะนั้นวัดได้ทรุดโทรมลงไปมาก ท่านจึงรับนิมนต์ และได้จัดการบูรณปฏิสังขรณ์วัดอย่างสุดความสามารถจนวัดมีความเจริญรุ่งเรืองขึ้นมา ใครเห็นท่านทำอะไรก็เลื่อมใสศรัทธามาร่วมงานด้วยความเต็มใจ เพราะท่านช่วยเหลือใครก็ไม่ได้หวังสิ่งตอบแทน ไม่เลือกชั้นวรรณะเป็นกันเองแก่ทุกคน ท่านคิดจะทำอะไรก็เป็นสำเร็จได้ทุกเรื่อง

เรื่องเครื่องรางของขลัง ใครมาขอท่านก็ทำแจกให้ไป เครื่องรางของท่านโด่งดังมากมีคนมาขออยู่เป็นประจำ พออายุได้ 40 ปี ก็ได้รับแต่งตั้งเป็นพระอุปัชฌาย์ เจ้าคณะตำบลตามลำดับ มีลูกศิษย์ลูกหามากมาย คนทางหัวเมืองใกล้เคียง เช่น สมุทรสาคร สมุทรสงคราม เพชรบุรี กาญจนบุรี สุพรรณบุรี นครปฐม ต่างก็มาเรียนวิชาจากท่านเสมอ ตะกรุดมหาอุตม์ของท่านโด่งดังมาก เคยมีนายชม นักเลงโตแม่น้ำอ้อม มีฉายาว่าขุนช้าง เนื่องจากหัวล้านและมีเงินทองมาก ได้ตะกรุดไปจากท่าน เอาพกติดตัวอยู่เสมอ เคยถูกลอบยิงหลายครั้งไม่เป็นไร ต่อมามีสมัครพรรคพวกมากขึ้น ก็เปิดบ่อนพนัน ทำตัวเป็นผู้กว้างขวางแถบนั้น

เมื่อหลวงกล้ากลางสมร มือปราบย้ายมาจากจังหวัดสมุทรสงคราม หลวงกล้าฯก็ได้มาเตือนนายชมให้เลิกเสีย แต่นายชมถือดีว่ามีสมัครพรรคพวกมาก เลยตอบไปว่า แน่จริงก็เข้ามาจับได้เลย หลวงกล้าฯจึงวางแผนเข้าจับกุม แต่ชัยภูมิบ้านของนายชมคับขันมาก มีทางเข้าแต่ทางเรือเท่านั้น หลวงกล้าฯจึงให้ตำรวจฝังตัวอยู่ในเลนครึ่งตัวล้อมจับไว้ถึง 7 ช.ม. พวกลูกน้องนายชมก็หนีหายล้มตายไปหมด เหลือแต่นายชมเพียงคนเดียว ตำรวจได้ระดมยิงไปที่นายชมหลายนัด พอยิงไปตรงตัวก็ยิงไม่ออก ยิงไปทางอื่นลูกออก จนนายชมลูกปืนหมดจึงถูกจับได้ หลวงกล้าฯ ค้นดูในตัวมีเพียงตะกรุดของหลวงพ่อดำเพียงดอกเดียว ตอนนายชมถูกจับตัวได้นั้น พอตำรวจเผลอนายชมได้กินยาตาย ไม่ยอมให้ถูกดำเนินคดี

หลวงพ่อดำท่านได้เคยออกเหรียญรูปท่าน เป็นเหรียญหล่อเนื้อทองเหลือง รูปหัวใจ มีรูปหลวงพ่อดำนั่งเต็มองค์ ระบุปี พ.ศ.2459 ด้านหลังมีอักขระขอม อะ สัง วิ สุ โล ปุ สะ พุ ภะ ติ หัง จะ โต โล ทิ นัง พุท ธัง สัง มิ อินทสโร นะ ปะ ตะ กะ สะ มีคนเข้าไปขอแจกกันมาก จนเหรียญหล่อหมด จึงได้สร้างเหรียญปั๊มหูเชื่อมเนื้อทองแดงเพิ่มเติม เพราะเหรียญหล่อไม่พอแจก

หลวงพ่อดำมรณภาพในปี พ.ศ.2466 สิริอายุได้ 81 ปี เหรียญของหลวงพ่อดำมีพุทธคุณทางคงกระพันชาตรี แคล้วคลาด และเมตตามหานิยม ปัจจุบันนับว่าหาชมได้ยากมาก เนื่องจากเป็นเหรียญที่มีอายุความเก่ามากครับ วันนี้ผมได้นำรูปเหรียญปั๊มหลวงพ่อดำ วัดตาล มาให้ชมกันทั้งด้านหน้าและด้านหลังครับ

ด้วยความจริงใจ

แทน ท่าพระจันทร์

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน