‘เดอะ วันฯ’รวมสุดยอดคอนเทนต์ทุ่ม2พันล้านซื้อ‘จีเอ็มเอ็ม แชนแนลฯ’ – ประกาศความยิ่งใหญ่ในวงการโทรทัศน์ เมื่อกลุ่ม เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์ เข้าซื้อ กิจการกลุ่ม บจก.จีเอ็มเอ็ม แชนแนล โฮลดิ้ง ซึ่งเป็นบริษัทที่ทำคอนเทนต์ที่ประกอบด้วย จีเอ็มเอ็ม ทีวี, จีเอ็มเอ็ม มีเดีย, เช้นจ์ 2561 และจีเอ็มเอ็ม สตูดิโอส์ ส่วนช่องจีเอ็มเอ็ม 25 ที่มี จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ เป็นเจ้าของนั้นยังดำเนินการอยู่ ซึ่งกลุ่ม เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์ โดย จีเอ็มเอ็ม แชนแนล โฮลดิ้ง จะเข้าไปทำการตลาดและร่วมผลิตรายการกับช่องจีเอ็มเอ็ม 25
โดยครั้งนี้ได้เปิดแถลงข่าวทิศทางการดำเนินธุรกิจ หลังการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ซึ่งมีผู้บริหารในแต่ละฝ่ายมาร่วมแถลง ถกลเกียรติ วีรวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่ม เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์, ระฟ้า ดำรงชัยธรรม ประธานเจ้าหน้า ที่การตลาด บริษัท เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด, สายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เช้นจ์ 2561 จำกัด, สถาพร พานิช รักษาพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท จีเอ็มเอ็ม ทีวี จำกัด, สมโรจน์ วสุพงศ์โสธร กรรมการผู้จัดการ บริษัท จีเอ็มเอ็ม มีเดีย จำกัด (มหาชน) และ เอกชัย เอื้อครองธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการ-ฝ่ายผลิตรายการ บริษัท จีเอ็มเอ็ม สตูดิโอส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
บอย ถกลเกียรติเผยว่า “ดีลนี้เป็นการร่วมมือของผู้ถือหุ้นทั้ง 3 ฝ่าย เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์, จีเอ็มเอ็มแกรมมี่ และสิริดำรงธรรม เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์ เล็งเห็นถึงโอกาสเติบโตในการขยายกิจการ จึงได้ซื้อ จีเอ็มเอ็ม แชนแนล โฮลดิ้งฯ ซึ่งเป็นบริษัทที่ทำคอนเทนต์ ประกอบด้วย จีเอ็มเอ็ม ทีวี, จีเอ็มเอ็ม มีเดีย, เช้นจ์ 2561 และจีเอ็มเอ็ม สตูดิโอส์ ฉะนั้นโครงสร้างการถือหุ้นภายในกลุ่ม ONE ก็จะประกอบด้วยวัน 31, เอ็กแซ็กท์ ซีเนริโอ, แอ็กซ์ สตูดิโอ, มีมิติ และจีเอ็มเอ็ม แชนแนล โฮลดิ้ง ส่วนช่องจีเอ็มเอ็ม 25 มีทางจีเอ็มเอ็มแกรมมี่ เป็นเจ้าของและยังดำเนินการอยู่ แต่กลุ่ม เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์ โดย จีเอ็มเอ็ม แชนแนล โฮลดิ้ง จะเข้าไปทำการตลาดและร่วมผลิตรายการ”
“ถามว่าทำไมเราถึงอยากให้ดีลนี้เกิดขึ้น ผมคิดว่ามันเป็นโอกาสในการขยายและทำงานร่วมกัน นี่เป็นการรวมผู้ผลิตคอนเทนต์ที่เป็นเดอะเบสต์ของประเทศในแต่ละกลุ่มเป้าหมาย ซีรีส์วัยรุ่นต้องนึกถึงจีเอ็มเอ็มทีวี ละครแซ่บต้องยกให้เช้นจ์ 2561 คอนเทนต์ไทยที่ โกอินเตอร์ในอินเตอร์เนชั่นแนลแพลตฟอร์มต้องนึกถึงจีเอ็มเอ็ม สตูดิโอวิทยุต้องนึกถึงจีเอ็มเอ็มมีเดีย ทั้ง 4 บริษัทนี้ผมคิดว่าเป็นเดอะเบสต์ ของประเทศในแต่ละกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกันไป ที่สำคัญทั้ง 4 บริษัทนี้ผลิตคอนเทนต์ที่ออนได้ทั้งทีวีและออนไลน์ แล้วเมื่อมาผสมกับคอนเทนต์ของช่องวันที่เป็นโมเดิร์นแมสอยู่แล้ว ทำให้เราครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายได้กว้างขึ้น เยอะขึ้น และเฉพาะขึ้น”
สำหรับกระแสข่าวที่ว่าจะไม่มีช่องจีเอ็มเอ็ม 25 นั้น บอยแจงว่า “ไม่จริงครับ อยู่แน่นอน และแข็งแรงกว่าเดิมแน่ๆ ในการที่มาเกิดดีลขึ้นได้มันทำให้ทุกอย่างคล่องตัวมากขึ้น เกิดการทำงานร่วมกันมากขึ้น มีการครอสแพลตฟอร์มกันได้มากขึ้น ฉะนั้นในการที่เราร่วมทำการตลาดและร่วมผลิตรายการกับจีเอ็มเอ็ม 25 มันทำให้ทำอะไรได้อีกเยอะ”
“พอเราได้เข้าไปทำการตลาดก็มองเห็นได้ว่ากลุ่มเป้าหมายในแต่ละช่องจะทำยังไงให้มันไม่ฆ่ากันเอง ไม่แข่งกันเอง ช่องวันที่เป็น โมเดิร์นแมสอยู่ แล้วช่องจีเอ็มเอ็ม 25 ก็จะเป็นเทรนดี้ นิว เจเนอเรชั่น ไลฟ์สไตล์ และเอ็นเตอร์เทนเมนต์ ซึ่งระหว่างวันก็จะเน้นไปที่รายการสด ส่วนไพรม์ไทม์จะเป็นทางจีเอ็มเอ็มทีวีซึ่งจะเป็นซีรีส์คนรุ่นใหม่ คนละกลุ่มเป้าหมายกับละครช่องวัน จากนั้นก็จะต่อด้วยรายการแฉ ในขณะที่คลับฟรายเดย์หรือละครของเช้นจ์ก็มาอยู่ทางช่องวัน ซึ่งตรงกับกลุ่มเป้าหมายมากกว่า จีเอ็มเอ็มมีเดียหรือเอไทม์ เป็นผู้ผลิตแฉ จะมีแฉตอนเช้าด้วย คือแฉข่าวเช้า”
หลังจากนี้ความเป็นไปได้ที่ช่องจีเอ็มเอ็ม 25 จะติดท็อปฟอร์มในการจัดอันดับช่องทีวีดิจิตอลได้หรือไม่ บอยกล่าวว่า “ผมว่าทุกวันนี้คอนเทนต์ที่ทำหรือในส่วนของที่จีเอ็มเอ็ม 25 ผลิตเองอยู่ สามารถออนทีวีและออนไลน์ได้ ถ้าพูดถึงที่มาของรายได้มันไม่ได้วางว่าต้องเรตติ้งเท่านี้ๆ ถึงจะมีรายได้…ไม่ใช่ ตัวอย่างทุกวันนี้ ไบร์ท-วิน ดังมั้ย โคตรดัง แล้ว ไบร์ท-วิน เคยเล่นละครที่เรตติ้งสูงมั้ย ไม่นะ นี่คือไม่ได้มาจากเรตติ้งนะ แต่ตอนนี้ทุกคนเห็นเขาทุกมุมเมืองเลยนะ ผมถึงบอกว่าทุกวันนี้คอนเทนต์สำคัญมากๆ การที่เรามีคอนเทนต์ที่ออกได้ทั้งทีวีและออนไลน์ ผมว่าเป็นสิ่งที่สนใจของสปอนเซอร์”
กับการขยายธุรกิจในสภาวะที่เศรษฐกิจยังไม่คล่องตัว บิ๊กบอส กลุ่ม เดอะ วันฯ กล่าวว่า “ในฐานะที่เป็นคนทำคอนเทนต์ซึ่งอยู่ ในทีวีและออนไลน์ยังไงคนก็ดูได้ ช่วงเดือนประมาณเม.ย.และพ.ค. ที่ผ่านมา เราก็จะตกใจว่าจะทำยังไงดีเพราะไม่รู้ว่าสปอนเซอร์เข้าหรือเปล่า แต่ท้ายที่สุดแล้วไทยเป็นประเทศท็อปของโลกที่จัดการกับโควิด-19 ได้อย่างดีมาก ทำให้เรายังสามารถที่จะดำเนินธุรกิจไปได้ แล้วก็ในขณะเดียวกันเราก็เล็งเห็นถึงอนาคตซึ่งผมคิดว่าไม่น่าจะไกลที่เศรษฐกิจก็จะต้องกลับมาดีขึ้น อีกอย่างคือผมเชื่อมั่นในผู้ผลิตคอนเทนต์ทุกท่านเพราะว่าแข็งแรงกันมาก ซึ่งดีลนี้งบประมาณอยู่ที่ 2,200 ล้านครับ”
เตรียมจับตาปรากฏการณ์ใหม่ที่จะเกิดขึ้นในปีหน้านี้
