พระปิดตา พระมหาอุตม์ หรือพระมหาอุด – ความหมายของพระปิดตาที่พระเกจิอาจารย์นำมาสร้างเป็นวัตถุมงคล หรือพระเครื่องนั้นมีที่มาที่ไปอย่างไร มีการพูดถึงมาแต่โบราณต่างๆ นานา มีหลากหลายความคิดเห็นแล้วแต่จะได้ยินได้ฟังกันมาอย่างไร ประการแรกเราควรจะรู้ถึงความหมาย และพระปิดตาเป็นรูปเคารพซึ่งองค์แทนของพระพุทธเจ้า หรือพระอัครสาวกรูปใด

พระมหากัจจายนะ เราก็คงจะพอรู้จักกันนะครับ ว่าท่านก็คือพระอรหันต์รูปหนึ่งในสมัยพุทธกาล ท่านเป็นบุตรพราหมณ์ปุโรหิต กัจจายนโคตร ณ กรุงอุชเชนี พระมหากัจจายนะท่านเรียนจบไตรเพท ของศาสนาพราหมณ์ ท่านได้พบกับสมเด็จ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า พร้อมกับบริวารอีก 7 คน และได้รับฟังคำเทศนาครั้งนั้น จนบรรลุเป็นพระอรหันต์พร้อมกันทั้ง 8 คน จึงทูลขออุปสมบท พระบรมศาสดาก็ทรงอนุญาตให้เป็นพระภิกษุด้วยวิธีเอหิภิกขุอุปสัมปทา

ครั้นพระมหากัจจายนะเถระได้อุปสมบทแล้วก็ได้ไปแสดงธรรมแก่พระเจ้าจัณตา ปัชโชติ ที่กรุงอัชเชนี และได้รับความเลื่อมใสจากพระเจ้าจัณตาปัชโชติและชาวเมือง เมื่อกลับมาสู่สำนักพระบรมศาสดาก็ได้รับคำยกย่องจากพระบรมศาสดาว่า “พระมหากัจจายนะนั้นเป็นเอตทัคคะ และฉลาดล้ำเลิศในการอธิบายความแห่งคำที่ย่อได้อย่างพิสดาร” พระมหากัจจายนะท่านเป็นพระเถระรูปงามผิวพรรณวรรณะงดงาม เป็นที่สร้างเสน่ห์นิยม มิว่าท่านจะไปที่ใด เทพยดาและมนุษย์ทั้งหลายต่างพากันสรรเสริญ

มีอยู่ครั้งหนึ่ง บุตรของเศรษฐีชื่อว่า โสเรยยะ เมื่อได้ประสบพบเห็นพระมหา กัจจายนะเถระเป็นผู้มีรูปงามผิวพรรณผุดผ่อง ด้วยความคึกคะนองใจยิ่งนัก และคิดเลยไปว่า ถ้าเราจักได้ภรรยารูปงามเช่นนี้ก็จะดี ด้วยอำนาจแห่งอกุศลจิตเพียงเท่านั้น เขาได้กลับกลายเป็นเพศสตรีในทันที และได้รับความอับอายจนต้องหนีไปอยู่ที่เมืองอื่น ภายหลังได้สำนึกผิด ได้มาขอขมา ท่านจึงได้ให้อภัย และได้กลับมาเป็นเพศชายดังเดิม

ด้วยความมีรูปกายงดงาม และแสดง พระธรรมได้ยอดเยี่ยมจึงมีผู้เลื่อมใสศรัทธากันมาก และบางครั้งยังมีผู้เข้าใจผิดคิดว่าท่านเป็นองค์พระบรมศาสดาเสียด้วยซ้ำ ท่านจึงได้รับสมญานามหนึ่งว่า “พระภควัมปติ” ซึ่งมีความหมายว่า ผู้ที่มีความงามละม้ายเหมือน พระผู้มีพระภาคเจ้า เมื่อเหตุการณ์เป็นไปดังนี้ ท่านจึงมาคิดว่า การที่เทพยดาและมนุษย์ทั้งหลายพากันสรรเสริญท่านดังนี้เป็นการไม่สมควรอย่างยิ่ง สุดท้ายท่านจึงเนรมิตกายให้เตี้ยลงจึงดูท้องพลุ้ย ไม่เป็นที่น่าดู มนุษย์และเทพยดาจะได้ไม่เกิดความเข้าใจผิดอีกต่อไป

ด้วยรูปลักษณ์ตอนที่เนรมิตกายดูอ้วนลงพุงอย่างอุดมสมบูรณ์นี้เอง ผู้ที่พบเห็นก็ยังเกิดความศรัทธาเลื่อมใส มาสักการะด้วย ข้าวของมากมาย ท่านจึงเข้านิโรธสมาบัติตัดกิเลสทั้งปวง มิให้เข้ามากล้ำกรายได้ ด้วยกิริยาปิดทวารทั้งเก้าปิดสนิท คืออาสวกิเลสต่างๆ ไม่อาจจะเข้ามาแผ้วพานได้เลย พระเกจิอาจารย์ในสมัยโบราณท่านจึงได้สร้างพระเป็นรูปพระปิดตา ปิดทวารทั้งเก้า เพื่อให้มองเห็นอย่างเป็นรูปธรรมว่า ตอนที่ทวารทั้งเก้าถูกปิดสนิทหมดนั้น เป็นตอนที่องค์ พระภควัมปติกำลังเข้านิโรธสมาบัติ คือทวารทั้งเก้าปิดสนิทหรือดับสนิท ซึ่งถือว่าเวลานั้นเป็นเวลาที่วิเศษและบริสุทธิ์ด้วยประการทั้งปวง ดังนั้น พระมหากัจจายนะ หรือพระมหาสังกัจจายนะ และพระภควัมปติ หรือพระภควัมบดี นั้นก็คือพระอรหันต์องค์เดียวกัน

ในสมัยโบราณมีบางท่านเข้าใจก็นึกเอาเองว่า พระปิดทวารทั้งเก้าเป็นมหาอุด ห้ามเก็บไว้ในบ้าน ขณะที่กำลังมีคนจะคลอดลูก จะคลอดไม่ออก เป็นต้น ซึ่งความจริงไม่เกี่ยวกันเลยครับ ดังที่ผมได้กล่าวมาแล้วว่า ท่านก็คือพระอรหันต์พระมหากัจจายนะเถระนั่นเองครับ การบูชาพระอรหันต์ผู้ปราศจากอาสวกิเลสแล้วนั้นเป็นสิ่งที่วิเศษสุด อันเป็นเนื้อนาบุญอันประเสริฐ ท่านบูชาพระมหาสังกัจจายน์กับพระปิดตา ปิดทวารก็คือการบูชาพระอรหันต์องค์เดียวกัน ซึ่งดลบันดาลให้ท่านอุดมด้วยโชคลาภ พระเกจิอาจารย์ท่านจะสร้างเป็นรูปพระปิดตาปิดเพียงใบหน้า หรือปิดทวารทั้งเก้าก็มีความหมายเช่นเดียวกัน คือหมายถึงพระอรหันต์สาวก “พระมหากัจจายนะเถระ”

วันนี้ผมได้นำรูปพระปิดตามหาอุตม์ของหลวงพ่อทับ วัดทอง มาให้ชมครับ

ด้วยความจริงใจ
แทน ท่าพระจันทร์

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน