เยือนวัดธรรมมงคลเถาบุญญนนท์ – วัดธรรมมงคล ถนนสุขุมวิท 101 ซอยปุณณวิถี 20 แขวงบางจาก เขตพระโขนง กรุงเทพฯ

มีชื่อเต็มว่า ‘วัดธรรมมงคลเถาบุญญนนท์วิหาร’ สร้างขึ้นในปี พ.ศ.2506 เดิมพื้นที่เป็นป่าสะแก

ต่อมาสมเด็จพระญาณวชิโรดม หรือหลวงพ่อวิริยังค์ สิรินธโร อดีตเจ้าอาวาส ใช้เป็นที่พักธุดงค์ในระหว่างเดินทางเข้ากรุงเทพฯ นายเถา-นางบุญมา อยู่ประเทศ มีศรัทธาจึงมอบที่ดินและได้สร้างเป็นวัดขึ้น เมื่อ พ.ศ.2506 ปัจจุบันมีเนื้อที่ทั้งสิ้น 32 ไร่ มีพระภิกษุ-สามเณร จำพรรษากว่า 300 รูป

การเดินทางไปวัดธรรมมงคล มีรถประจำทางผ่านหลายสาย อาทิ สาย 2, 23, 25, 38, 45, 46, 48, ,98 139, 180, ปอ.2, 11, 25, 48, 507 เป็นต้น

ถือได้ว่าการคมนาคมสะดวกมาก มีรถมอเตอร์ไซค์รับจ้าง สองแถว มีรถแท็กซี่วิ่งตลอด อยู่ใกล้สี่แยกบางนา, ทางด่วนบางนา, ทางด่วนสุขุมวิท 62 ทางด่วนบูรพาวิถี

ที่สำคัญสามารถเดินทางไปด้วยรถไฟฟ้าสถานีปุณณวิถี ลงจากสถานีแล้วเดินทางต่อด้วยมอเตอร์ไซค์รับจ้าง หรือจะเดินเข้าไป ก็ไม่นับว่าไกลนัก ดังนั้น การเดินทางมาวัดธรรมมงคล ถือว่าสะดวกยิ่ง

หากมาแถวนั้นแล้วยังไม่เจอวัดธรรมมงคล ลองสอบถามคนแถวนั้นดู จะได้รับความสะดวกทีเดียว

วัดธรรมมงคล ตั้งอยู่ทิศตะวันออกของถนนสุขุมวิท ซอย 101 (ปุณณวิถี) ห่างจากถนนสุขุมวิท ประมาณ 1 กิโลเมตร เนื้อที่ของวัดเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า รวมเป็นเนื้อที่ทั้งหมด 28 ไร่

วัดธรรมมงคล ตั้งอยู่ใกล้ชุมชนที่มีคนพลุกพล่าน สามารถเดินเข้ามาในวัดได้ตรงปากทางเข้าใหญ่ มองเห็นได้แต่ไกล บริเวณดังกล่าวเป็นสถานที่ตั้งของโรงเรียนวัดธรรมมงคล ในช่วงกลางวัน มีความอึกทึกคึกคัก ไปจนถึงช่วงหัวค่ำ

สำหรับต้นไม้ใหญ่ที่ปลูกภายในวัด มีความร่มรื่นเย็นสบายพอสมควร มีห้องน้ำห้องท่าสะอาดสะอ้าน คอยรองรับผู้ที่มาเยี่ยมวัด

ภายในวัดธรรมมงคลแห่งนี้ มีสิ่งที่น่าสนใจมากมาย อาทิ พระวิริยะมงคลมหาเจดีย์ฯ เป็นเจดีย์ที่สูงสุดในประเทศไทย สามารถแลเห็นได้แต่ไกล ชั้นบนสุดบรรจุพระเกศา พระอุรังคธาตุ พระบรมสารีริกธาตุ ที่ได้รับจากประเทศบังกลาเทศ

ฐานเจดีย์ เป็นทรง 4 เหลี่ยม สูง 94.78 เมตร มี 14 ชั้น ประกอบด้วย ห้องแสดงพิพิธภัณฑ์ ห้องสมุด ห้องคอมพิวเตอร์ โรงเรียนพระปริยัติธรรม สถาบันราชภัฏ

ส่วนฐานเจดีย์เป็นสถาบันพลังจิตตานุภาพ ประกอบด้วย ห้องเรียนขนาดใหญ่ รองรับนักศึกษาครั้งละ 500 คน ได้อย่างสบาย

มีห้องเดินจงกรม ห้องนั่งสมาธิ ถ้ำวิปัสสนา ห้องอาหาร และห้องประชุม ที่มีทั้งความสวยงาม และประโยชน์ใช้สอย

รวมถึงการเปิดสถาบันชนาพัฒน์ซึ่งเป็นสถานศึกษาอาชีพแห่งใหม่ในประเทศไทยที่เชิญนักออกแบบชื่อดังจากประเทศอิตาลี สอนการออกแบบ เช่น การตกแต่งภายใน ออกแบบผลิตภัณฑ์ เครื่องหนัง แฟชั่นดีไซน์ เป็นต้น

ในพระอารามแห่งนี้ มีพระหยกเขียวที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีนามเรียกว่า ‘พระพุทธมงคลธรรมศรีไทย’ ประดิษฐานอยู่ในศาลาหลังคาแบบโดมแก้ว

หยกชิ้นใหญ่ที่สร้างเป็นพระพุทธรูปนี้ ได้ถูกค้นพบที่ใต้ทะเลสาบน้ำแข็ง ประเทศแคนาดา เมื่อปี พ.ศ.2534 กล่าวกันว่า หยกเป็นวัสดุที่มีความแข็งแกร่งมากและเหมาะแก่การนำมาสร้างพระพุทธรูป มีความสวยงาม คงทนถาวร

หยกก้อนมหึมาชิ้นนี้ มีน้ำหนัก 32 ตัน ได้ถูกตัดออกเป็นสองส่วน ส่วนที่หนึ่งแกะเป็นพระพุทธรูปหยกปางนั่งสมาธิ สูง 2.20 เมตร หน้าตักกว้าง 1.66 เมตร

ส่วนที่สองแกะเป็นพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์กวนอิมหยก มีลักษณะงาม ทรงยืนประทานพรสูง 2.2 เมตร แกะสลักโดยช่างจากประเทศอิตาลี

ศาลาหลวงพ่อหยก เป็นศาลากระจก หลังคาแบบโดมแก้ว มีสระน้ำล้อมรอบประดับด้วยไม้ดอกรอบขอบสระ เป็นพุทธบูชา ออกแบบตามสถาปัตยกรรมทันสมัย ลักษณะเป็นวงกลมโดยยึดหลักปฏิจจสมุปบาท 12 ประการ และมีการจารึกพระธรรมคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

ศาลาแห่งนี้ สาธุชนนิยมมาเดินสวดมนต์ เจริญจิตตภาวนารอบหลวงพ่อหยก จำนวน 3 รอบ เพื่อความเป็นสิริมงคล

แวะไปกราบนมัสการหลวงพ่อหยก เสร็จแล้ว เพื่อไม่ให้เสียเที่ยว เดินไปอีกเล็กน้อย ไปที่พระมหาเจดีย์ ไปไหว้ ‘หลวงพ่อองค์ดำ’ หรือ ‘พระพุทธรูป ภ.ป.ร.’ พระประธานในวิหารของพระมหาเจดีย์ ประดิษฐาน ณ ชั้นที่ 2 ของพระมหาเจดีย์

ด้านหน้าวิหารหลวงพ่อองค์ดำ เป็นที่ฝึกเดินจงกรมของบรรดาผู้ที่เข้าเรียนหลักสูตรครูสมาธิ ส่วนบรรยากาศภายในวิหาร มีความสงบเงียบ เหมาะแก่การเป็นสถานที่สวดมนต์และนั่งกัมมัฏฐาน

ถัดไปในบริเวณสวนของวัด เป็นถ้ำวิปัสสนา มีเนื้อที่ 4ไร่ จำลองบรรยากาศการปฏิบัติในป่า เพื่อเข้าไปนั่งสมาธิและฟังธรรมในถ้ำได้ มีประตูมุ้งลวด จุคนได้กว่า 200 คน ล้อมรอบด้วยสวนป่า มีไม้ดอกไม้ใบ สระน้ำและเนินเขา ให้บรรยากาศร่มรื่น สมเป็นป่ากลางกรุงเลยทีเดียว

บริเวณด้านข้างของวัด ในหมู่บ้านรังสิยา เป็นศูนย์สมาธิวิริยานุภาพ สถานที่ที่สร้างขึ้นเพื่อช่วยให้ฆราวาสผู้มาปฏิบัติธรรม มีที่พัก ภายในมีห้องพักแบบโรงแรม 80 ห้อง จุผู้มาปฏิบัติได้ ประมาณ 200 คน แบ่งห้องพักเป็นกลุ่ม เพื่อไม่ให้แออัดและไม่รบกวนกัน มีทั้งห้องเดียว ห้องคู่ และห้องรวม สำหรับครอบครัว ทุกห้องมีเตียง มีที่นอนสปริง หมอน ผ้าปูที่นอน ตู้เสื้อผ้า และติดเครื่องปรับอากาศ ใช้รองรับผู้มาปฏิบัติสมาธิพักค้างคืนได้ตั้งแต่ 3-7 วัน มีห้องนั่งสมาธิ บริเวณจงกรม มุมหนังสือธรรมะ และห้องอาหาร ให้บริการผู้มาเข้าอบรม

นอกจากนี้ ที่ใกล้พระมหาเจดีย์วัดธรรมมงคล ได้จัดสถานสมาธิเป็นบริเวณ 600 ตารางวา เป็นอาคารเพื่อบำเพ็ญสมาธิเพียบพร้อมทุกประการ เช่น ห้องบรรยาย ห้องนั่งสมาธิเป็นคณะ ห้องพักแรม ห้องสุขา ห้องครัว ห้องสนทนาธรรม มีที่จอดรถ และมีครูบาอาจารย์คอยแนะนำวิธีการ พร้อมทั้งโปรแกรมประจำวัน

สำหรับผู้จะมาบำเพ็ญสมาธิ สามารถเดินทางมาได้คนเดียวลำพัง ไม่จำเป็นต้องรู้จักใคร หากเราประสงค์จะมาปฏิบัติธรรม เพียงเข้าพบเจ้าหน้าที่รับรอง แจ้งหลักฐานประจำตัว รับโปรแกรมแล้วเข้าพักได้ทันที เพราะมีห้องเป็นส่วนตัว

ต่อจากนั้นก็ดำเนินการตามโปรแกรมจะอยู่กี่ชั่วโมงกี่วันนั้น อยู่ได้ตามประสงค์ตามรายการของโปรแกรมนั้นๆ

ท่ามกลางความวุ่นวายของเมืองหลวงกรุงเทพฟ้าอมร เส้นทางบริเวณถนนสุขุมวิท อันล้นเต็มไปด้วยความเจริญทางวัตถุ ความเร่งรีบในการดำเนินชีวิต เวลาทุกวินาทีมีค่ายิ่งกว่าทองคำ ทำให้มีโอกาสแสวงหาความสงบในจิตใจเพื่อการพัฒนาตนเองอย่างถูกวิธี ได้น้อยลงตามลำดับ

‘ศูนย์สมาธิวิริยานุภาพ’ ภายใน ‘วัดธรรมมงคล’ จึงเป็นคำตอบของคนเมือง ที่แสวงหาโอกาสฝึกทำสมาธิพัฒนาจิตได้เป็นอย่างดี

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน