‘ทุกข์-สุข-แบ่งปัน’วิถีชีวิตไทยยุคโควิด – ปีที่ผ่านมาโควิดมาเยี่ยม จนป่านนี้ก็ไม่ยอมกลับ วนเวียนรอบตัวให้ผวาซะงั้น แต่ชีวิตก็ต้องดำเนินต่อไป พี่ๆ น้องๆ ในทุกทิศทั่วไทยต่างก็มีชีวิตที่ โลดแล่นไปตามจังหวะวิถีของตนเองซึ่งมีทั้ง ‘ทุกข์ สุข ฮาเฮ แบ่งปัน หลอกหลอนขวัญผวา’ ภายใต้หน้ากากอนามัยทั้งแบบผ้าและแบบกระดาษใช้แล้วทิ้ง ขอเพียงการ์ดอย่าตก เนื่องจากโควิดเจ้าตัวร้ายมองด้วยตาเปล่าไม่เห็น จ้องจะมาตีสนิทเข้าสิงร่างกาย เข้าได้เมื่อไหร่พร้อมทิ่มแทงปอดและหัวใจเราได้ เริ่มจาก

‘เมรุปันสุข’

รัฐบาลประกาศเคอร์ฟิว และล็อกดาวน์ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 ก็เกิดผลกระทบใหญ่หลวง บริษัท ห้างร้านหยุดกิจการ ธุรกิจล่มสลาย คนตกงาน ผู้คนทุกหย่อมหญ้าเดือดร้อน อัตคัดของกินของใช้เพราะไม่มีเงินซื้อ ด้วยน้ำใจคนไทยมีล้นหลาม พร้อมที่จะแบ่งปันช่วยเหลือ ดังนั้น ตู้ปันสุข อาหารกล่อง โรงทาน เกิดขึ้นทุกหนทุกแห่ง แม้แต่งานฌาปนกิจ เจ้าภาพใจดี อย่าง นายกิตติศักดิ์ ขันติธรรมพัฒนา หรือ เฮียฮวด เสี่ยเจ้าของ โรงสีรายใหญ่ในอำเภอพนมทวน จังหวัดกาญจนบุรี จัด ‘เมรุปันสุข’ เพื่อบรรเทาทุกข์ สิ่งประดับประดาเมรุเพื่อส่งร่างญาติผู้ใหญ่จากดอกไม้สดจึงเป็นข้าวสาร อาหารแห้ง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เครื่องดื่มแบบซอง ปลากระป๋อง น้ำมันพืช ฯลฯ

พอเสร็จพิธีทางเจ้าภาพมอบให้เทศบาลตำบลพนมทวน นำไปจัดทำเป็นถุงปันสุขเกือบ 400 ถุง แจกจ่ายให้กับผู้ที่เดือดร้อน

‘ลมหายใจแผ่วเบา’

คุณป้าสวอน ซ่อนกลิ่น ชาวบ้านต.ปราสาท อ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์ ร้องไห้โฮ!น้ำตานองหน้าเมื่อพนักงานในร้านธงฟ้าเช็กบัตร สวัสดิการแห่งรัฐให้พร้อมบอกว่ามีเงินเข้ามา 500 บาท คุณป้าบอกว่าดีใจมีเงินซื้ออาหารแห้งเก็บไว้กิน ครอบครัวไม่มีเงินแม้แต่ บาทเดียว ในบ้านไม่มีอาหาร เงินเบี้ยคนชราซื้อข้าวสารกับจ่ายค่าไฟไปก่อนหน้านี้แล้ว ลูกชายที่คอยส่งเงินมาให้ใช้ทุกเดือนตกงานตั้งแต่โควิดระบาดบริษัทปิด กลับมาอยู่บ้าน พอรู้ว่ามีสิทธิ์ซื้อของได้รู้สึกโล่งใจจนกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ ขอบคุณที่ยังต่อลมหายใจให้กับคนจนได้ มาวันนี้ได้เพราะขออาศัยรถกระบะเพื่อนบ้าน








Advertisement

ชีวิตแบบคุณป้าสวอน บนโลกมนุษย์ ตรงพิกัดประเทศไทย มีให้เห็นอยู่เยอะมาก ยังไม่อยากเป็นชาติที่ 5 ของเอเชียที่ผลิตยานอวกาศไปโคจรรอบดวงจันทร์ อยากเห็นคนไทยมีกินมีใช้ ให้สมกับคำที่ว่าเป็นประเทศอู่ข้าว-อู่น้ำ

‘ช้างยังอดใจไม่ได้’

ทุเรียน ถ้าชอบจะหอมอร่อย ครั้งหนึ่งในชีวิตต้องลอง ทุเรียนป่าละอู ตำบลห้วยสัตว์ใหญ่ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบฯ ของเขาอร่อยหอมหวานจริงๆ มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว แม้แต่ช้างป่าละอูยังชอบ หน้าทุเรียนเดือนพ.ค.-ส.ค.กลิ่นทุเรียนหอมกรุ่นทั่วสวน ช้างป่าบุกเข้าสวน ใช้หัวดันต้นหรือไม่ก็ใช้เท้าหน้าสองข้างยืนเขย่าต้นให้ผลร่วง แล้วใช้เท้าหน้ากระทืบเปลือกทุเรียนให้แตก ใช้งวงควักเนื้อในกิน ดังนั้นต้องคอยดูและเก็บลูกที่แก่มาพักไว้ในบ้านก่อนจำหน่าย ขืนช้าพรึบเดียวหมดสวน และครั้งนี้ก็เช่นกันหาในสวนไม่เจอ บุกเข้าไป ร้านดาวเกษตรป่าละอู ยามค่ำคืนพังประตูเหล็กเข้าไป ทำอย่างนี้ถึงสองครั้งติดๆ กันเพื่อกินทุเรียน เจ้าของร้านเก็บไว้ให้ลูกค้าเกลี้ยงกริบเหลือแต่เปลือก

นางศิริพร เกิดสุชน เจ้าของร้านเล่าเป็นช้างเพศผู้อายุประมาณ 15-20 ปี เข้ามาสองวันติดๆ คงได้กลิ่นทุเรียนที่เก็บไว้ในร้าน “หมดไปเป็นหมื่น แต่ต้องทำใจให้ได้ เพื่อให้อยู่กับช้างป่าให้ได้”

ทุเรียนป่าละอูขึ้นชื่อว่า อยากกินต้องจองนะจ๊ะ ขนาดช้าง ยังอดใจไม่ได้

‘ปิดถนนตะลุมบอน’

หัวร้อนหัวเกรียนไล่ตีกันมีให้เห็นอยู่บ่อย แต่ถ้าเป็นลิงยกพวกตะลุมบอนไม่ได้เห็นพร่ำเพรื่อ เช้าวันหนึ่งที่จ.ลพบุรี คงจะเป็นเรื่องเหลืออดของเหล่าวานรแก๊งปรางค์สามยอด ที่เห็นลิงแก๊ง “ศาลพระกาฬ” อิ่มหมีพีมันนอกจากผักผลไม้แล้ว ยังมีนมเปรี้ยวของชอบตบท้ายเมนู อาจจะด้วยความหิวบวกกับความไม่พอใจที่มีอยู่เป็นทุนเดิม วันนั้นถือว่าเป็นวันแตกหัก จ่าฝูงพร้อมพลพรรคแก๊งปรางค์สามยอด และแก๊งลิงตึก ต่างวิ่งเข้าตะลุมบอนแก๊งศาลพระกาฬกลางถนน นับพันตัว มะรุมมะตุ้มกัน รถที่สัญจรไปมาเบรกเอี๊ยดอ๊าด หวั่นเหยียบเหล่าจ๋อหัวร้อน มนุษย์อย่างเราๆ แยกไม่ออกว่าตัวไหนเป็นแก๊งไหน ตะลุมบอนกันสักพัก ก็แยกย้ายกลับฐานที่มั่น ในที่เกิดเหตุไม่พบอาวุธใดๆ ไม่มีตัวใดบาดเจ็บสาหัสหรือตาย

เรื่องของลิง คนอย่าไปยุ่ง

‘วิ่งเพื่อแม่’

‘ไอ้ไข่’ มีต้นกำเนิดที่ วัดเจดีย์ จ.นครศรีธรรมราช ร่ำลือว่า ของานได้งาน ขอเงินได้เงิน ขอหวยก็ถูกรางวัล กระทั่งปัจจุบันนี้ รูปปั้นไอ้ไข่ มีอยู่ทั่วทุกหนทุกแห่งเกือบทุกภาค สะดวกวัดไหนก็แวะไปวัดนั้น อย่างจ.ราชบุรี วัดเขากรวด ริมถนนสายราชบุรี-จอมบึง ต.เกาะพลับพลา อ.เมือง มีรูปปั้นไอ้ไข่ ไอ้จุก และกุมารหญิงจันทิมา อยู่ภายในศาลเดียวกัน ของแก้บนมีล้นหลาม บ่งบอกถึงความศรัทธา ลือว่าไอ้ไข่วัดนี้ให้โชคมาหลายงวด แต่ละวันคนมาล้นวัด

นางสาวศุภรัตน์ จันทรชิต คนขายลอตเตอรี่ เล่าว่าพูดเล่นๆ ถ้าขายลอตเตอรี่หมด 600 ใบภายในวันเดียว จะให้ลูกชายวิ่งแก้ผ้ารอบศาล 3 รอบ และจุดพลุสี 12 นัด วันนั้นแค่วางแผงขายหน้าศาลไอ้ไข่วันเดียวขายได้ 600 ใบเกลี้ยงแผง น้องไกด์ วัย 3 ขวบ จึงแก้ผ้าวิ่งโทงๆ รอบศาล “คิดว่าไอ้ไข่คงจะชอบ ไม่เคยเห็นมีใครมาบนแบบนี้เลย”

ใครจะลองก็ได้นะ ใจกล้าหรือเปล่า?

‘แปรงฟันให้ฮิปโป’

เอ่ยถึง แม่มะลิ ฮิปโปโปเตมัส วัย 55 ปี ก็ต้องนึกถึงสวนสัตว์เปิดเขาเขียว ศรีราชา จ.ชลบุรี ที่ใครๆ ก็รู้จัก อยู่มานาน เป็นแม่พันธุ์ชั้นเลิศ มีลูกมาแล้ว 14 ตัว ชีวิตประจำวันของแม่มะลิ มีนายสมพงษ์ สวัสดิ์นํา เจ้าหน้าที่ คอยประคบประหงมกว่า 30 ปี มองตารู้ใจกัน ทำให้ทุกอย่าง แม้แต่ทำความสะอาดฟันให้แม่มะลิ ก่อนกินอาหารมื้อเช้า แม่มะลิก็อ้าปากรอแล้ว เพื่อให้ตรวจดูช่องปากจากนั้นใช้แปรงสีฟันขนาดยักษ์อันโปรดชุบน้ำทำความสะอาดฟันให้กับแม่มะลิทีละซี่จนครบ ใช้มือตรวจดูช่องปากอีกครั้ง แปรงฟันเสร็จ ก็ถึงเวลาป้อนอาหาร ทั้ง กล้วย มันเทศ แครอต ข้าวโพด ล้วนแต่เป็นของโปรด อาหารการกินทุกอย่างได้รับการดูแลเป็นอย่างดีจากนักโภชนาการอาหารเฉพาะทาง ส่งผลให้แม่มะลิมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง

อยากเห็นแม่มะลิตัวเป็นๆ แวะมาได้ทุกวันในโซน Africa Amazing

‘ซอมบี้ทำปัง’

ขายของยุคนี้ไม่ต้องมีหน้าร้าน มีสินค้าและมือถือเน็ตแรงๆ ก็พอ น.ส.กนิษฐา ทองนาค หรือกุ๊ก สาวชนแดน เมืองเพชรบูรณ์ ขายเสื้อผ้ามือสอง ไลฟ์สดผ่านมือถือ พร้อมใบหน้าที่แต่งแนวซอมบี้ เป็นที่ชื่นชอบของลูกค้าที่ดูไลฟ์สด วันไหนจัดเต็มปากแดงแก้มแดง ไม่มีใครสั่งซื้อ ถ้าหน้าซอมบี้เมื่อไหร่ ยอดขายทะลุเป้า สาวเจ้าเล่าว่าเหตุบังเอิญแท้ๆ วันนั้นน้ำไม่ไหล ไม่ได้อาบน้ำ ใกล้เวลาไลฟ์สดขายของ เมื่อโทรมอยู่แล้วก็ให้เป็นซอมบี้ไปเลย วันนั้นขายของดีมาก

“เสื้อผ้าที่ขายซักตากอย่างดีก่อนขาย ทุกชิ้นนำไปให้พระที่วัดทำพิธีสวดบังสุกุล เพื่อความสบายใจทั้งคนซื้อและคนขาย ท่านใดซื้อไปก็ได้ทำบุญร่วมกัน เงินรายได้ส่วนหนึ่งนำไปร่วมทำบุญกับสมาคมกู้ชีพ-กู้ภัยชนแดนสงเคราะห์ ซื้อโลงศพไว้บริจาคให้กับผู้ยากไร้”

รีบค้นหาไลฟ์สไตล์ของตัวเองให้เจอ ลูกค้าชอบ มีสิทธิ์ปัง!

‘หลวงพ่อลงมือเอง’

พระพรชัย สิริภัทโท อายุ 61 ปี พระลูกวัดราษฎร์ศรัทธาธรรมหมู่ที่ 3 ต.ชีน้ำร้าย อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี หลวงพ่อทนเห็นหน้ากากอนามัยที่ไทยผลิตแต่หายากและราคาแพงไม่ได้ จึงลงมือตัดเย็บหน้ากากผ้าเอง เริ่มจากแจกพระ เณรในวัดก่อน ตอนบิณฑบาตตอนเช้า พกไปด้วยเพื่อแจกญาติโยมที่มารอใส่บาตร และบรรดาชาวบ้านละแวกวัด

“อาตมาเคยเป็นช่างเย็บผ้ามาก่อน เอาผ้าจีวรมาเย็บเป็นหน้ากากอนามัยให้พระ ส่วนผ้าลายแจกญาติโยม”

‘ผิดที่ผิดเวลา’

เจ้าหน้าที่ตำรวจและกู้ภัยสว่างพรกุศล จุดมาบตาพุด อ.เมือง จ.ระยอง รับแจ้งเหตุกลางดึกของวันที่ 1 ธันวาฯ ว่ามีผู้เสียชีวิตภายในรถยนต์ จอดอยู่ในซอย ไปถึงก็พบรถคันดังกล่าว ตรงเบาะข้างคนขับมีผู้เสียชีวิตเป็นชายอายุประมาณ 49 ปี นอนเสียชีวิต ไม่พบบาดแผลตามร่างกาย เสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 5 วัน ระหว่างที่ทุกคนกำลังสาละวนกับหน้าที่ พลันเครื่องเสียงในรถดังขึ้นพร้อมเสียงเพลง “กอดฉัน” ของ อ้วน วารุณี สุนทรีสวัสดิ์ เพลงเพราะ แต่ทุกคนในที่นั้นผวาขนหัวตั้ง กุญแจรถยังอยู่ที่ตัว ผู้ตาย และไม่มีคนไหนไปยุ่งกับเครื่องเสียง เจ้าหน้าที่นายหนึ่งใจกล้าใช้ไม้เขี่ยปิดวิทยุ ไม่ถึงอึดใจ “กอดฉัน” ก็ดังขึ้นอีก ก็ต้องปิดอีกครั้ง ครั้งนี้เงียบ… จนได้ยินเสียงหัวใจตัวเอง

น้องสาวผู้ตายมารับศพไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี ที่บ้านเกิด จ.สุรินทร์ ไขข้อข้องใจว่า เพลง กอดฉัน เป็นเพลงโปรดของพี่ชาย หลังจากเลิกกับภรรยาไปพี่ชายก็ชอบเปิดเพลงนี้ตลอด

เพลงเพราะน่าฟัง แต่ ณ เวลานั้น ผิดที่ผิดเวลาไปหน่อย

‘ตู้จ.ม.สู่ภพภูมิ’

พระครูศิริธรรมมาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดศรีแก้งคร้อ หมู่ 10 ต.ช่องสามหมอ อ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ แก้ปัญหาพื้นที่เริ่มคับแคบเนื่องจากเจดีย์ที่เก็บอัฐิของผู้เสียชีวิตเริ่มมากขึ้น ครั้นจะเจาะกำแพงวัดเพื่อเอาอัฐิใส่ตามช่องกำแพง ดูไม่เป็นระเบียบ ค่าใช้จ่ายก็สูงบางรายเป็นหลักหมื่น จึงแนะญาติโยมไปซื้อตู้จดหมายมาใส่แทน ติดตามกำแพงวัด ในวันนี้จึงหลากหลายสีหลายขนาด แขวนกว่า 100 กล่อง แต่ละตู้นั้นมีการเขียนชื่อและมีรูปถ่ายติดอยู่และใส่กุญแจล็อก แรกๆ ชาวบ้านที่ผ่านไปผ่านมาก็อดแปลกใจไม่ได้ต้องถามหลวงพ่อตลอด

ปัจจุบันชินแล้ว ที่สำคัญใช้ตู้จดหมายเก็บอัฐิเถ้ากระดูกราคาแค่หลักร้อยบาท และตู้จดหมายยังดูดีเป็นระเบียบและยังง่ายสำหรับการดูแลรักษา ตู้จดหมายสื่อถึงการส่งต่อ ถือได้ว่าได้ส่งดวงวิญญาณของผู้เสียชีวิตใส่ผ่านตู้จดหมายขึ้นสู่สรวงสวรรค์ไปสู่ภพภูมิที่ดีอีกด้วย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน