‘แอลลี่’เสียขวัญเจอบูลลี่รูปร่างหน้าตา – นักร้องสาว ‘แอลลี่’ อชิรญา นิติพน เจ้าของเพลงดัง “How To Love” สังกัด 411 Music เผยแผนงานในปีนี้ให้ฟังว่า “น่าจะมีผลงานใหม่ๆ ออกมาเรื่อยๆ ซึ่งล่าสุดเป็นเพลง ผ้าเช็ดหน้า ของไทรอัมพ์สคิงดอม เอามาทำเป็นเวอร์ชั่นใหม่ของแอลลี่ ตื่นเต้นมาก เพราะตอนเด็กหนูก็ฟังเพลงที่พี่โบ พี่จอยซ์ร้องเขาร้องไว้สนุกมาก แล้วหนูก็ชอบเพลงนั้นมากพอเป็นเวอร์ชั่นนี้ก็เป็นเวอร์ชั่นแอลลี่ที่จะ ออกสดใส บีตหนักขึ้นมานิดนึง แล้วก็มีเอ็มวีออกมาแล้ว”
คนอาจจะไม่รู้ว่าเมื่อก่อนเราไม่ค่อยฟังเพลงไทย แต่อะไรทำให้กลับมาฟังและร้องเพลงไทย “ตอนนั้นชอบฟังเพลงอาร์แอนด์บีทุกวัน พอเรามาทำงานที่นี่ได้เจอพี่ๆ ในวงการ เลยได้ดูผลงานของเขาเป็นแบบอย่าง ช่วงนี้ก็เลยติดเพลงไทยมาก เริ่มจากเราอยากจะเขียนเพลงไทย ก็เลยติดตามผลงานของพี่ๆ เขา จนตอนนี้อินเพลงไทยมากกว่า”
การทำเพลงในยุคนี้ยากไหม นักร้องสาวกล่าวว่า “หนูอยากโชว์ทุกคนว่าหนูมาเรื่อยๆ ก็มีการเลื่อนสเต็ปขึ้นเรื่อยๆ มีการเปลี่ยนคอนเซ็ปต์ไปเรื่อยๆ อาจจะมีคอนเซ็ปต์แรงขึ้นนิดนึง จากความน่ารักใสๆในตอนแรก ถามว่าจะมีเซ็กซี่ขึ้นไหม ไม่แน่ใจ อีกอย่างหนูไม่ค่อยกล้าด้วยค่ะ”
ในการเปลี่ยนลุกส์แต่ละครั้งมีความกังวลไหม แอลลี่กล่าวว่า “กังวลอยู่เหมือนกัน ในทุกๆ ครั้งหนูจะถามตัวเองว่าทำได้ดีแล้ว หรือยัง ถ้ายังไม่ดีหนูก็จะถามตัวเองหรือคนรอบข้างว่าจะทำยังไงเพื่อให้ทำได้ดีขึ้น เพราะไม่อยากให้ผลงานออกไปถ้ายังไม่ดีพอ คล้ายๆ กดดันตัวเอง แต่มันเป็นเหมือนการพัฒนาตัวเอง จุดผ่อนคลายก็เป็นตอนที่เจอๆ พี่ๆ แฟนคลับ”
เป็นคนที่อ่านคอมเมนต์ตลอดไหม “อ่านตลอดเลยค่ะ บางคนอาจจะคิดว่ามันเยอะ ไม่น่าจะอ่านหมด หรืออาจจะถึงช่วงหนึ่งแล้วที่ไม่น่าจะอ่าน แต่หนูก็อ่านค่ะ หนูเห็นทุกคอมเมนต์ เพราะหนูรู้สึกว่ามีคนที่รักและส่งกำลังใจมาให้ แล้วหนูก็อยากให้เขารู้ว่าหนูอ่าน แล้วเก็บมาเป็นกำลังใจให้ตัวเองค่ะ”
แต่เรื่องคอมเมนต์มีทั้งสองด้าน เราจัดการกับด้านที่ไม่ดีอย่างไร นักร้องสาวเผยว่า “ตอนแรกไม่รู้จะจัดการกับความรู้สึกของตัวเองอย่างไรดี แต่พอเริ่มมีพี่ๆ แฟนคลับ ก็เหมือนกับหนูมีอีกครอบครัวหนึ่ง และทีมงานอีก มันก็เริ่มคิดได้ แล้วก็รู้สึกว่าบางทีถ้ามันไม่ใช่เรื่องจริง หรือเขาพูดในเรื่องที่ไม่ดี เจอหนักๆ ก็มี มีช่วงนึงที่กำลังใจหายไป ไม่รู้ว่ามันจริงหรือเปล่า ที่เขาพูดเรื่องหน้าตาหรือรูปร่าง มันก็มีเฟลไปนิดหน่อย แต่คนที่เขาช่วยซัพพอร์ตหนูเขาก็ช่วยหนูได้มากๆ มันใช้เวลานานเหมือนกันที่จะออกจากตรงนั้น การที่เราโดนคอมเมนต์อะไรแรงๆ มันกระทบจิตใจบ้าง แต่ว่าพอโตขึ้น ความคิดก็เปลี่ยน เราก็พอมีภูมิคุ้มกันบ้าง แต่ถ้าใครจะคอมเมนต์ไม่ดีหนูขอร้องนะ (ยกมือไหว้) บางคนเขาจะคอมเมนต์เพื่อให้เราพัฒนาอันนั้นหนูจะเก็บมา เพราะมันช่วยหนูได้ แต่ถ้า คอมเมนต์เกี่ยวกับรูปร่างหน้าตา มันเป็นเรื่องที่ไม่ควรพูดถึงคนอื่นอยู่แล้วค่ะ”
