ก้าวไกลจี้รัฐบาลเร่งเยียวยาประชาชน-เอสเอ็มอี – นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ว่า สัปดาห์ก่อนตนสรุปสถานการณ์โควิด-19 ในภาพรวมและข้อเสนอที่รัฐบาลควรจะทำทันที แต่จนถึงวันนี้ยังไม่มีมาตรการเยียวยาใดๆ ที่เป็นรูปธรรมออกมา เมื่อรัฐบาลไม่ยอมดำเนินการ จึงขอนำข้อเสนอมาตรการเยียวยาที่พรรคได้จัดทำรายละเอียดเพิ่มเติม ซึ่งเป็นมาตรการพร้อมใช้ที่รัฐบาลนำไปใช้ได้ทันที ดังนี้
1.ทบทวนมาตรการควบคุมโรคของแต่ละจังหวัดโดยเร่งด่วน คำนึงถึงระดับการติดเชื้อ ศักยภาพในการรองรับผู้ป่วย คำนึงถึงประเภทสถานประกอบการที่ถูกสั่งปิด ให้มีมาตรการเยียวยา ที่สอดคล้องและสมเหตุสมผล 2.เร่งช่วยเหลือถ้วนหน้า 3,000 บาท/เดือน (สำหรับอายุ 18 ปีขึ้นไป ยกเว้นข้าราชการ)
3.เยียวยาเพิ่มเติม สำหรับกลุ่มที่ได้รับความเดือดร้อนมากเป็นพิเศษจากโควิดและมาตรการของภาครัฐ ต้องช่วยเหลือค่าน้ำ-ค่าไฟ-ค่าเช่าให้ประชาชน ในจังหวัดที่ถูกควบคุมในระดับเข้มงวดสูงสุด ชดเชยสถานประกอบการที่ถูกขอความร่วมมือให้หยุดกิจการ 6,098 แห่ง ใน 28 จังหวัดที่ถูกสั่งปิด เพิ่มจาก 50% เป็น 75% ใช้งบจาก 2,321 ล้านบาทเพิ่มเป็น 3,481.5 ล้านบาท โดยตั้งต้นงบไว้ 4,000-5,000 ล้านบาท เพราะอาจมีสถานประกอบการที่มาลงทะเบียนเพิ่ม ควรมีมาตรการพยุงการจ้างงานสำหรับธุรกิจที่รายได้ลดลงในช่วง โควิด เน้นจังหวัดที่กิจกรรมทางเศรษฐกิจหยุดชะงัก เช่น 5 จังหวัดแดงเข้มและกรุงเทพฯ เสนอให้ใช้เกณฑ์การพิจารณา โดยดูจาก รายได้/การนำส่งภาษีมูลค่าเพิ่มที่ลดลง ชดเชยที่ 50-75% โดยมีเพดาน ไม่เกิน 7,500 บาท/ราย และต้องมีมาตรการช่วยเหลือผู้เช่าไม่ให้ถูกให้ออก อาจมีกฎหมายพิเศษห้ามบังคับไล่ผู้เช่าออกในจังหวัดที่ได้รับผลกระทบมาก และให้รัฐบาลไปเยียวยาผู้ให้เช่า เช่น พิจารณาลดภาษีที่ดิน
4.ภาคธุรกิจ รัฐบาลควรต่อสายป่านของธุรกิจที่อาจขาดสภาพคล่องจากสถานการณ์ที่คลี่คลายช้าลง ต้องมีโครงการซอฟต์โลน และพักชำระหนี้สูงสุด 2 ปี ด้วยการปล่อยสินเชื่อผ่านธนาคารและธนาคารของรัฐ
มาตรการเยียวยาทั้งหมดนี้ จะหางบประมาณได้จากการ 1.โยกงบฟื้นฟูเศรษฐกิจที่ยังไม่ได้ใช้จากเงินกู้ 1 ล้านล้านบาทที่เหลืออยู่ 467,000 ล้านบาท งบกลางเหลืออยู่ 139,000 ล้านบาท 2.เกลี่ยก่อนจะกู้ เมื่อมีสถานการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นอีกรอบ ควรรวบรวมทรัพยากรทั้งหมดที่มี รวมถึงการโยกงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2564 ในส่วนที่ไม่จำเป็น เพื่อนำไปเป็นกระสุนสำหรับการฟื้นฟู ในระยะถัดไป สำหรับปี 2564 ที่งบเพิ่งเริ่มใช้มาไม่ถึง 3 เดือน จะโยกงบได้ไม่ต่ำกว่า 200,000 ล้านบาท
