ชี้หน้าที่รัฐ-ให้ฉีดฟรีวัคซีนโควิด
‘พิธา’โวยอย่าโยน‘อปท.’จี้สกัด‘มือยาวสาวได้’

วันที่ 14 ม.ค. นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล โพสเฟซบุ๊กระบุว่า กรณี นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ นำเสนอแนวคิดให้กรุงเทพมหานครใช้งบประมาณ 8,000 ล้านบาท ซื้อวัคซีนสำหรับประชาชนในพื้นที่ 8 ล้านคน เป็นแนวคิดที่สอดคล้ององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) บางแห่ง เช่น เทศบาลนครนนทบุรี และเทศบาลนครแหลมฉบัง ที่จะจัดหาวัคซีนเอง เป็นข้อเสนอที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานผลประโยชน์สูงสุดของประชาชน เป็นความหวังดีที่อปท.จัดการได้ภายใต้กรอบกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง

แต่ผู้มีงบประมาณเหลือมากที่สุดและมีหน้าที่โดยตรง เป็นหน้าที่อันหลีกเลี่ยงไม่ได้ของรัฐบาลไทย นายเอกภพ เพียรพิเศษ ส.ส.ก้าวไกล เคยอภิปรายพ.ร.ก.เงินกู้ 1 ล้านล้านบาทของรัฐบาลตั้งแต่ พ.ค.2563 เสนอให้รัฐบาลจัดงบ 67,000 ล้านบาท ไว้จัดหาวัคซีน บนพื้นฐานของหลักการว่าต้องฟรีสำหรับประชาชนทุกคน เพราะการแยกกันจัดการ จัดหา จะยิ่งเพิ่มภาระทางการเงินการคลังของแต่ละท้องถิ่น และส่งผลต่อการบริหารจัดการแจกจ่ายวัคซีนให้ประชาชนทั้งประเทศอย่างเป็นธรรมตามหลักการแพทย์ เพราะวัคซีนโควิดไม่ใช่ส่วนเสริมให้คุณภาพชีวิตดีขึ้นแบบทำเพิ่มหรือไม่ทำก็ได้ เหมือนการสร้างหอชมเมืองที่แต่ละท้องถิ่นเลือกเองว่าจะเอางบไปทำอะไร แต่เป็น “ความจำเป็น” ในวิกฤตที่ทุกคนต้องได้ฟรี เหมือนวัคซีนวัณโรค คอตีบ บาดทะยัก โปลิโอ

ไม่นับว่า อปท.ส่วนใหญ่หรือแทบทั้งหมดยังไม่มีท่าทีชัดเจนจะจัดซื้อวัคซีนให้ประชาชนหรือไม่ เพราะหลายแห่งขาดงบจัดซื้อ จะกลายเป็นระบบ “มือใครยาวสาวได้สาวเอา” ดีที่สุดต้องยึดหลักการเดิมให้เป็นหน้าที่รัฐบาลไทยใช้งบประมาณแผ่นดินจากภาษีประชาชนที่มีเหลือใช้อยู่แล้ว จัดหาวัคซีนที่มีคุณภาพสำหรับประชาชนทุกคน แต่รัฐบาลเผยแผนว่าจะจัดหาให้เพียงครึ่งหนึ่งของประชากรไทย และมีท่าทีสนับสนุนให้ท้องถิ่นจัดซื้อเอง เท่ากับประชาชนอีกครึ่งหนึ่งต้องพึ่งพิงแต่ละท้องถิ่นว่าจะทำหรือไม่

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ โพสต์เฟซบุ๊กตอบกลับว่า เห็นด้วยกับนายพิธาว่าการฉีดวัคซีน โควิดในหลักการต้องเป็นหน้าที่ของรัฐบาลจัดหาให้ประชาชนอย่างเพียงพอ ถ้ารัฐบาลทำได้อย่างรวดเร็ว ทั่วถึงและมีประสิทธิภาพก็จะดีมาก ไม่ต้องให้ท้องถิ่นมาคิดหาทางดำเนินการเอง สิ่งสำคัญคือช่วยกันคิดและทำให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน