‘รอน’โอดเจอผลกระทบโควิดทุกทาง – เจอผลกระทบจากโควิด ตั้งแต่การแพร่ระบาดครั้งที่แล้ว ต่อเนื่องถึงตอนนี้ หนุ่ม ‘รอน เอเอฟ’ หรือ ภัทรภณ โตอุ่น ยอมรับมีท้อแต่ต้องสู้และ อยู่กับปัจจุบัน โดยเจ้าตัวบอกว่า
“ถามถึงผลกระทบโควิดกับธุรกิจที่ทำอยู่ ผมเชื่อว่าทุกคนโดนกันหมด อย่างผมเป็นนักแสดง ตอนนี้ก็มีคิวละครที่จะถ่ายช่วงกลางเดือน ก็รออยู่ว่าสถานการณ์เป็นยังไงบ้าง โลเกชั่นยังสรุปไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ มาตรการต่างๆ หรือความเข้มข้นของตัวโควิดจะเพิ่มขึ้นหรือลดลง ก็ต้องรอติดตาม ช่วงปีใหม่ก็เพิ่มทำธุรกิจผลไม้แบรนด์พรีเมียม ก็ถือว่าโดนไปตามๆ กัน รวมถึงสตูดิโอ โยคะด้วย ตอนแรกๆ ก็มีให้ครูมาไลฟ์นะ แต่ตอนนี้เป็นเหมือนการรีรัน เพราะว่าเราโดนมาสองครั้งแล้ว แต่ก็ไม่ใช่แค่เราคนเดียว โดนกันหมดถ้วนหน้า”
ท้อเลยไหม “ต้องสู้ครับ สุดท้ายสิ่งนี้เกิดขึ้นแล้ว เราต้องมีสติ ตั้งรับได้ดีมากขึ้น แต่ผลกระทบยังคงมี และเชื่อว่ายังมีมากขึ้นด้วยซ้ำ แต่การตั้งรับการตั้งสติก็มีมากขึ้น มีท้อแต่ต้องอยู่กับปัจจุบัน”
วิธีตั้งรับ เราทำยังไงบ้าง “อยู่กับปัจจุบันครับ เราต้องนอนให้หลับ พักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อตื่นขึ้นมาตั้งรับกับสถานการณ์ แล้วทำทุกวันให้ดีที่สุด พยายามหาอะไรทำมากขึ้น อย่างวันนี้ก็ประชุมแบรนด์ผลไม้ หาแนวทางแก้ไขว่าจะทำยังไง อย่างผมเองเป็นครูสอนโยคะด้วย จะสอนไลฟ์ยังไง ก็ต้องหานิวนอร์มัลใหม่ๆ และมีละคร ‘ดวงใจในมนตรา’ กำลังจะออนเร็วๆ นี้ มีอีก 2 เรื่องทีมงานเขาจะวางคิวยังไงในเรื่องของโลเกชั่น ตอนนี้เงื่อนไขเยอะขึ้น”
รอบนี้มีความหวังมากขึ้น “คือตั้งรับได้ดีมาก ยิ่งขึ้นครับ สุดท้ายแล้วเราต้องดูแลรับผิดชอบตนเอง และคนอื่นด้วย ดูแลกันสู้ไปด้วยกันครับ”
อัพเดตอาการคุณแม่ที่ประสบอุบัติเหตุ “ดีขึ้นครับ ตอนนั้นเป็นวันเกิดแม่ด้วย ตรงวันเลย ก็จะพาไปพักผ่อนที่ต่างจังหวัด แต่เขาบอกว่าฟาดเคราะห์ไปแล้วกัน เขาชอบคิดแบบนี้ครับ เหมือนเขาจะรับแทนเรา พอเขาเป็นอะไร เขาจะอวยพรเรา ขอให้เจอแต่สิ่งดีๆ ต่อจากนี้นะ”
ไปทำบุญไหม “ทำบุญแน่นอยู่แล้วครับ ใครติดตามผมจะเห็นว่าผมมีกลุ่มเพื่อนร่วมทำบุญอยู่แล้ว จะทำบุญบ่อย”
โดนปลอมเฟซ ปลอมไอจีด้วย “จะบอกว่ามีชาวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือตะวันออกกลาง ชอบเอารูปเราไปใช้เป็นไอจีปลอม หรือเฟซบุ๊กปลอม อย่างครั้งที่แล้วเป็นชาวฟิลิปปินส์ ครั้งนี้เป็นชาวเมียนมาที่เอาไปใช้แล้วมีประสิทธิภาพมากกว่าผมเองอีก คือที่แซวแบบนี้เพราะมีคนตาม มีความเคลื่อนไหวเยอะกว่าผมทำเองอีก”
Advertisement
“คือผมไม่ค่อยได้เล่นเฟซบุ๊กเท่าไหร่ เรามีไว้ก็ไม่ค่อยได้อัพเดต เลยเอามาแซวว่าทำยังไงได้บ้าง แล้วมันเหมือนอันนั้นเป็นของจริง (หัวเราะ) แต่พอลงไปได้สักพักเฟซบุ๊กนั้นก็หายไปครับ ถ้าถามผม ผมคิดว่าน่าจะเป็นคนที่ชื่นชอบเรานั่นแหละ เราขอบคุณนะที่ชอบแต่ถ้ามาเอาไปใช้แล้วแอบอ้างเป็นตัวเราเลย แล้วมีคนเข้าใจผิด แล้วมีเรื่องราวเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งตอนนี้ก็ยังไม่มีเรื่องอะไรนะครับ คือผมก็ลงของผมเลยไม่ได้ไปบอกเขาด้วยว่าอย่าทำ ถ้ารักเราจริงก็ซัพพอร์ตในรูปแบบอื่นดีกว่า อย่าทำแบบนี้เลยดีกว่า”
