คอลัมน์ สดจากสนามข่าว

ย้อนนาทีจับยานรก2คดี – บ่ายวันที่ 14 มกราคม ที่ สภ.โนนแดง จ.นครราชสีมา พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 นำทีมพร้อมด้วย พล.ต.ต.พรชัย นลวชัย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา แถลงผลปฏิบัติการไล่ล่าจับกุมแก๊งคนร้ายลักลอบขนยาเสพติดรายใหญ่ ตรวจยึดของกลางยาบ้าจำนวน 2 ล้านเม็ด และยาไอซ์หนัก 438 กิโลกรัม

พล.ต.ท.ภาณุรัตน์เปิดเผยเหตุการณ์ระทึกก่อนนำมาซึ่งการจับกุมบิ๊กล็อตครั้งนี้ว่า เมื่อ 01.00 น.วันเดียวกัน ตำรวจสืบสวนภูธรภาค 3 และตำรวจ สภ.โนนแดง จ.นครราชสีมา ได้รับการประสานจากตำรวจภูธร จ.อำนาจเจริญ ให้ช่วยวางกำลังสกัดรถกระบะท้ายตู้บรรทุก ยี่ห้ออีซูซุ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ยข 5260 นครราชสีมา ซึ่งในการข่าวทราบว่ากำลังลำเลียงยาบ้าและยาไอซ์มาจากแนวชายแดนเขต จ.มุกดาหาร มุ่งหน้า จ.กาฬสินธุ์ ก่อนไล่ติดตามเข้าเขต จ.มหาสารคาม จ.ขอนแก่น มุ่งหน้า ถ.มิตรภาพ เขต จ.นครราชสีมา

หลังรับแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงระดมออกตั้งจุดสกัด กระทั่งพบรถคนร้ายบนถนนสายบ้านวัด-โนนแดง อ.โนนแดง จ.นครราชสีมา จึงเรียกให้หยุดแต่คนร้ายเร่งเครื่อง หลบหนี ก่อนเปิดฉากยิงปืนใส่รถเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 นัดเพื่อหวังจะเปิดทาง จนเกิดการยิงปะทะกัน เจ้าหน้าที่ยิงสกัด จนรถของคนร้ายจนมุมข้างทาง ก่อนเข้าจับกุมได้ทั้ง 2 คน โดยในรถพบนายเพชรรัตน์ วิเศษสุทธิ์ อายุ 26 ปี ถูกกระสุนเข้าที่หัวไหล่ 1 นัด บาดเจ็บเล็กน้อย ขณะที่อีกรายเป็นเยาวชนอายุ 17 ปี ไม่ได้รับบาดเจ็บ

เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจค้นภายในตู้บรรทุก พบของกลางยาบ้าและไอซ์ ยาบ้าจำนวน 2 ล้านเม็ด และยาไอซ์หนัก 438 กิโลกรัมดังกล่าวอยู่ในกระสอบพลาสติกวางอยู่เต็มท้ายรถ รวมทั้งอาวุธปืนพกสั้น 1 กระบอก ปลอกกระสุนขนาด .38 จำนวน 2 ปลอก

สอบสวนผู้ต้องหารับสารภาพว่า ได้ค่าจ้าง 1 แสนบาทให้ขนลำเลียงยาเสพติดล็อตใหญ่จาก จ.นครพนม ไปส่งลูกค้าในพื้นที่กรุงเทพมหานคร แต่สุดท้ายไปไม่ถึงปลายทาง ถูกตำรวจไล่ล่าสกัดจับกุมเสียก่อน รวมระยะทางหลบหนีกว่า 400 กิโลเมตร

เบื้องต้นถูกแจ้งดำเนินคดี 6 ข้อหา ประกอบด้วย 1.ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า ยาไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย 2.ต่อสู้ขัดขวางการจับกุมเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ 3.ร่วมกันมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย 4.ร่วมกันพยายามฆ่าเจ้าหน้าที่ 5.พกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะ และ 6.ยิงปืนในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเร่งขยายผลหาตัว ผู้ร่วมขบวนการ ผู้อยู่เบื้องหลัง ผู้สั่งการ มาดำเนินคดีต่อไป

อีกคดีเกิดขึ้นเมื่อเวลา 17.40 น. วันที่ 15 ม.ค. โดย พล.ต.ต.สมพจน์ ขอมปรางค์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุบลราชธานี ร่วมกับ พ.ต.อ.ประสงค์ เรืองเดช รองผู้บังคับการสืบสวนตำรวจภูธรภาค 3 พ.ต.อ.ชาญชัย อินรา ผู้กำกับการสืบสวน กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุบลราชธานี นำกำลังจับกุมนายประวิตร หรือบอล สารภี อายุ 38 ปี ชาวบ้านคำเม็ก ต.หนองสังข์ อ.นาแก จ.นครพนม พร้อมรถเก๋งฮอนด้าแอคคอร์ด สีขาว ทะเบียน 1 ขด 7902 กรุงเทพฯ พร้อมยาบ้าจำนวน 1 ล้านเม็ด ขณะจอดรถส่งยาบ้าริมถนนทางเข้าบ้านห้วยคุ้ม-บ้านนาดูน ต.ขามใหญ่ อ.เมืองอุบลราชธานี

โดยก่อนจับกุมเจ้าหน้าที่รับแจ้งมีกลุ่มขบวนการค้ายาเสพติดลักลอบส่งยากันบริเวณริมถนนดังกล่าว จึงวางกำลังดักรออยู่ ก่อนจะพบนายประวิตรขับรถเก๋งฮอนด้าเข้ามาจอด จากนั้นมีชายเดินลงมาเปิดท้ายรถหยิบถุงใส่ยาเสพติดเดินหายไปในป่า เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าจับกุม โดยสามารถล็อกตัวนายประวิตรได้คารถ ส่วนเพื่อนร่วมแก๊งที่หิ้วถุงใส่ยาเสพติดไปทิ้งไว้ในป่าข้างทางทราบชื่อว่านายโป้ง เห็นเจ้าหน้าที่ก็ได้ทิ้งถุงใส่ยาเสพติด และอาศัยความมืดวิ่งหลบหนีเข้าไปในป่าหายไป

จากการตรวจค้นในถุงพลาสติกที่ทิ้งไว้ในป่าพบยาบ้าห่อพันด้วยเทปกาวอย่างดีจำนวน 200 มัดใหญ่ คิดเป็นยาบ้า 400,000 เม็ด และเมื่อมาตรวจสอบบริเวณท้ายรถที่ใช้ขนยาเสพติดพบยาบ้าอีก 300 มัดใหญ่ คิดเป็นยาบ้าอีก 600,000 เม็ด

นายประวิตรรับสารภาพไปรับยาบ้าทั้งหมด 538 ห่อจำนวนล้านกว่าเม็ด ที่ขบวนการค้ายาบ้านำมาทิ้งไว้ริม แม่น้ำโขงในอำเภอเรณูนคร จ.นครพนม เมื่อช่วงกลางดึกคืนวันที่ 14 ม.ค.ที่ผ่านมา จนรุ่งเช้าได้ขับรถนำยาบ้ามาตามถนนชยางกูรนำมาส่งตามรายทางไปบางส่วน กระทั่งมาถึงจุดนัดหมายป่าข้างทางบ้านห้วยคุ้ม-บ้านนาดูน ต.ขามใหญ่ ขณะจอดรถนำยาบ้าลงไปซ่อนไว้ก็ถูกเจ้าหน้าที่บุกจู่โจมเข้าจับกุมไว้ได้

สำหรับนายประวิตร หรือบอล อดีตเคยเป็นพ่อค้าขายอาหารบุฟเฟต์ทะเลใน จ.นครพนม แต่เกิดการระบาดของโควิด-19 ทำให้ร้านขาดทุนจนต้องปิดกิจการ และถูกเพื่อนชักชวนให้มาขับรถส่งยาบ้าจะได้ค่าส่งมัดละ 500 บาท ครั้งนี้คิดเป็นเงินค่าจ้างกว่า 250,000 บาท แต่ไม่ทันได้ ค่าจ้างก็มาถูกจับเสียก่อน

เกษม ชนาธินาถ

ประสิทธิ์ ตั้งประเสริฐ

พงษ์สันต์ เตชะเสน

เรื่อง/ภาพ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน