ไทยกินเค็มเกิน2เท่า รศ.นพ.สุรศักดิ์ กันตชูเวสศิริ นายกสมาคมโรคไตแห่งประเทศไทยและประธานเครือข่ายลดบริโภคเค็ม เปิดเผยว่า จากผลงานวิจัยล่าสุดในปี 2564 ซึ่ง ได้รับการพิมพ์ในวารสาร Journal of Clinical Hyper tension โดยความร่วมมือกับองค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ตีแผ่พฤติกรรมคนไทยบริโภคโซเดียม (เกลือ) เฉลี่ยสูงที่สุดในภาคใต้, ภาคกลาง, ภาคเหนือ, กรุงเทพฯ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยค่าปริมาณการบริโภคโซเดียมเฉลี่ยประชาชนไทยเท่ากับ 3,636 มิลลิกรัมต่อวันหรือเท่ากับเกลือถึง 1.8 ช้อนชา ขณะที่องค์การอนามัยโลกแนะนำให้บริโภคโซเดียมไม่เกินวันละ 2,000 มิลลิกรัม

ทำให้สมาคมโรคไตแห่งประเทศไทย กระทรวงสาธารณสุข และเครือข่ายลดบริโภคเค็มและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต้องเน้นความสำคัญของการทำ ความเข้าใจและการปรับทัศนคติการใช้ชีวิตในการอยู่ร่วมกับโรคไต ส่วนผู้ที่มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคไต ต้องระมัดระวังตนเองให้มากขึ้น

ดังนั้นการจัดกิจกรรมวันไตโลก ประจำปี 2564 ในปีนี้ จึงเป็นที่มาของคำขวัญ ‘ไตวายไม่ตายไว แค่ปรับใจและปรับตัว’ โดยกิจกรรมวันไตโลกจะจัดในรูปแบบออนไลน์ ผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์ ของสมาคมโรคไตแห่งประเทศไทย จัดขึ้นในวันพฤหัสบดี ที่ 11 มีนาคม 2564 ตั้งแต่เวลา 09.00-13.30 น. เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโรคต่างๆ และการป้องกันโรคอย่างเหมาะสม

ทั้งนี้ทุกฝ่ายได้ตระหนักถึงการบริโภครสเค็มของคนไทย รวมถึงพบว่าประเทศไทยมี ผู้ป่วยโรคไตเพิ่มขึ้นทุกปี ถึงแม้ว่าในปี 2564 จะมีการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา ทำให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ก็ตาม แต่จำนวนผู้ป่วยโรคไตของประเทศไทยในปัจจุบัน มีผู้ป่วยเกิดจากการรับประทานเค็ม ทำให้ป่วยเป็นโรคความดันโลหิตสูงถึง 11.5 ล้านคนและโรคไตทะลุถึง 8 ล้านคน ทำให้เป็นปัญหาสาธารณสุขของชาติและประเทศไทย จะต้องเร่งแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น

รศ.นพ.สุรศักดิ์กล่าวอีกว่า ประเทศไทยมีเป้าหมายที่จะลดปริมาณการบริโภคโซเดียมลงให้ได้ร้อยละ 30 ภายในปี พ.ศ.2568 เพื่อลดโรคความดันโลหิตสูง และภาวะแทรกซ้อน แต่เนื่องจากข้อมูล การบริโภคโซเดียมในประชากรไทยนั้นมีจำกัด จึงทำให้เกิดงานวิจัย ชื่อ Estimated dietary sodium intake in Thailand : A nation-wide population survey with 24-hour urine collections (J Clin Hypertens. 2021;00:1-11.)

โดยงานวิจัยชิ้นนี้ได้รับความร่วมมือกันระหว่างเครือข่ายลดบริโภคเค็ม สมาคมโรคไตแห่งประเทศไทย ภาควิชาเวชศาสตร์ชุมชน คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล และคณะสาธารณสุขในมหาวิทยาลัยต่างๆ ทั่วประเทศ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และองค์การอนามัยโลก (WHO) ได้นำไปตีพิมพ์ในวารสาร Journal of Clinical Hypertension โดยเก็บข้อมูลการบริโภคโซเดียมในประชากรไทยทั่วประเทศกว่า 2,388 คน ด้วยวิธีการตรวจเก็บปัสสาวะ 24 ชั่วโมง นำมาวิเคราะห์ปริมาณโซเดียมทางห้องปฏิบัติการ ซึ่งเป็นวิธีการที่น่าเชื่อถือและแม่นยำที่สุดในขณะนี้

ตัวเลขที่ได้จากห้องปฏิบัติการจะถูกคำนวณรวมกับปริมาณโซเดียมที่ขับออกทางอื่นนอกเหนือจากปัสสาวะอีกร้อยละ 10 โดยงานวิจัยชิ้นนี้ มีกลุ่มตัวอย่างอาสาสมัครที่ได้เก็บข้อมูลได้อย่าง ครบถ้วนและผ่านเกณฑ์การเข้าร่วมวิจัยทั้งหมด 1,599 คน มีอายุเฉลี่ย 43 ปี เป็นเพศหญิงร้อยละ 53 และมีภาวะความดันโลหิตสูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ 30 โดยค่าปริมาณการบริโภคโซเดียมเฉลี่ยประชาชนไทยเท่ากับ 3,636 มิลลิกรัมต่อวัน หรือเท่ากับเกลือถึง 1.8 ช้อนชา ซึ่งผลการวิจัยพบปริมาณการบริโภคโซเดียมเฉลี่ยสูงที่สุดในประชากรภาคใต้ 4,108 ม.ก./วัน รองลงมาคือภาคกลาง 3,760 ม.ก./วัน, ภาคเหนือ 3,563 ม.ก./วัน, กรุงเทพฯ 3,496 ม.ก./วัน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 3,316 ม.ก./วัน ตามลำดับ

รศ.นพ.สุรศักดิ์กล่าวว่า ทางทีมวิจัยยังพบว่าผู้ที่มีระดับการศึกษาสูง น้ำหนักตัวเกินเกณฑ์ปกติ และคนที่มีความดันโลหิตสูง มีการบริโภคโซเดียมมากกว่ากลุ่มอื่นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ โดยสรุปแล้ว คนไทยบริโภคโซเดียมเกินเกณฑ์ที่องค์การอนามัยโลกแนะนำถึงเกือบ 2 เท่า

“การศึกษานี้เป็นการศึกษาแรกในประเทศไทยที่ใช้วิธีสำรวจมาตรฐานอย่างเป็นระบบ จึงเป็นประโยชน์มากต่อการเปรียบเทียบข้อมูลการบริโภคโซเดียมของคนไทยในอนาคต” รศ.นพ.สุรศักดิ์กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน