สู้คดีซูจี-ถ้าแพ้เป็นทาส – วันที่ 23 ก.พ. เอเอฟพีรายงานว่า นายขิ่น หม่อง ซอว์ อายุ 73 ปี ทนายความของนางออง ซาน ซู จี ผู้นำเมียนมา ให้สัมภาษณ์ทาง วิดีโอคอล ว่า ตนไม่ได้เป็นตัวแทนนางซู จีที่เป็นตัวบุคคล แต่เป็นตัวแทนคนที่มาจากการเลือกตั้งที่ถูกโจมตีจากทหาร ทั้งหมดเป็นการปกป้องประชาธิปไตย คดีของนางซู จีจะชี้ชัดว่าประชาชนเมียนมา จะตกเป็นทาสของกองทัพอีกครั้งหรือไม่ โดยหากแพ้อาจตกอยู่ใต้ทหาร 40 หรือ 50 ปี ดังนั้นเราต้องชนะ หลังผู้นำหญิงถูกกองทัพ เมียนมาตั้ง 2 ข้อหา ได้แก่ครอบครองวิทยุสื่อสารโดยไม่ได้รับอนุญาตและฝ่าฝืนมาตรการสกัดโควิด-19 ระหว่างการหาเสียงเลือกตั้งเมื่อ ปีก่อน ซึ่งตนยังไม่ได้รับอนุญาตให้เจอนางซู จี และหากถูกปฏิเสธอีก ตนจะทำให้โลกรู้ว่าคดีนี้ไม่ยุติธรรม

วันเดียวกันรัฐบาลสหรัฐอเมริกาขึ้นบัญชีดำอีก 2 นายพลเมียนมา ได้แก่ นายพลหม่อง หม่อง จอ ผู้บัญชาการกองทัพอากาศและ นายพลเมาะ มินต์ ตุน สมาชิกสภาบริหารแห่งรัฐที่กองทัพตั้งขึ้น เพื่อบริหารประเทศ หลังแซงก์ชั่นกลุ่มนายพลระดับผู้นำกองทัพไประลอกก่อนเมื่อต้นเดือนก.พ. เป็นมาตรการต่อเนื่องจากที่สหภาพยุโรป หรือ อียู ประกาศมาตรการแซงก์ชั่นกองทัพและผลประโยชน์ทางธุรกิจ ของกองทัพ แต่ไม่ระงับการค้าระหว่างกันเพราะอาจกระทบประชาชน

นายแอนโทนี บลิงเคน รมว.การต่างประเทศสหรัฐกล่าวว่า สหรัฐจะไม่ลังเลที่จะดำเนินการเพิ่มเติมในการต่อต้านคนที่ใช้ความรุนแรงและปราบปรามเจตจำนงของประชาชนขอเรียกร้องให้กองทัพหยุดทำร้ายผู้ประท้วงที่ชุมนุมโดยสงบ นักข่าว และนักเคลื่อนไหว ตลอดจน ปล่อยนักโทษที่ถูกจับขังและกลับคืนสู่รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย

สถานการณ์การชุมนุมในประเทศเมื่อวันที่ 22 ก.พ. ที่นครย่างกุ้งผู้ชุมนุมไม่เกรงกลัวเจ้าหน้าที่ โดยตั้งแนวกั้นขึ้นรอบๆ เมือง เพื่อไว้อาลัยผู้ประท้วงที่ถูกสังหาร ด้านสมาคมช่วยเหลือนักโทษทางการเมืองเผยว่ามีประชาชนถูกจับกุมกว่า 680 คนตั้งแต่รัฐประหาร

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน