พท.ประณามรัฐใช้กำลังปราบม็อบ – เมื่อวันที่ 1 มี.ค. น.ส.อรุณี กาสยานนท์ โฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีกลุ่ม “Restart Democracy-ประชาชนสร้างตัว” หรือ “รีเดม” (REDEM) ชุมนุมที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และเคลื่อนขบวนไปยังกรมทหารราบที่ 1 ซึ่งเป็นที่ตั้งของบ้านพักของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จนเกิดเหตุความวุ่นวายและทำลายทรัพย์สินของทางราชการเมื่อวันที่ 28 ก.พ.ว่า พรรค เพื่อไทยขอประณามและไม่ยอมรับการใช้ความรุนแรงที่เกิดขึ้น ขอเรียกร้องให้รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ ทบทวนท่าที และพิจารณาใช้มาตรการจัดการกับการเคลื่อนไหวของประชาชนตามมาตรฐานสากล เคารพและคุ้มครองเสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบ แทนการใช้มาตรการที่มุ่งเน้นจำกัดหรือสกัดกั้นการชุมนุมของประชาชน
ที่ผ่านมามีบทเรียนแล้วว่ามาตรการที่ใช้ความรุนแรงอย่างเคยชินนำไปสู่ความล้มเหลวของรัฐบาล จนเกิดสภาวะตึงเครียดระหว่าง เจ้าหน้าที่รัฐกับประชาชน และเป็นบ่อเกิดของสถานการณ์ที่ขยายตัวรุนแรงขึ้น เจ้าหน้าที่รัฐไม่มีสิทธิทำร้ายประชาชนเกินกว่าเหตุราวกับอาชญากรร้ายแรง และขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัว ร.ต.อ.วิวัฒน์ เสริฐสนิท รอง สว.(ป) สน.ธรรมศาลา ซึ่งเสียชีวิตจากภาวะหัวใจ ล้มเหลวขณะปฏิบัติหน้าที่ในวันดังกล่าว และขอให้มีการเยียวยาดูแลประชาชนและเจ้าหน้าที่รัฐที่ได้รับบาดเจ็บโดยเร็วที่สุด
ด้านนายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการกฎหมาย สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ภายหลังลงพื้นที่ สน.ดินแดง ว่า ตนมาให้กำลังใจตำรวจ ทุกนายที่ตั้งใจทำงานด้วยความเสียสละ มีความอดทนต่อการยั่วยุ และอดทนต่อการถูกกลุ่มผู้ชุมนุมกระทำย่ำยีศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ จากเหตุการณ์ที่ผู้ร่วมชุมนุมคนหนึ่งมีพฤติกรรมไม่เหมาะ จึงขอแสดงความอาลัยต่อการสูญเสีย ร.ต.อ.วิวัฒน์ที่เสียชีวิตด้วยโรคประจำตัว ขณะปฏิบัติหน้าที่ระหว่างการชุมนุมด้วย
การชุมนุมไม่ได้นำเสนอเนื้อหาสาระ มีแต่ความรุนแรง ทำลายทรัพย์สินของทางราชการเสียหาย เผารถตำรวจที่จัดซื้อมาจากเงินภาษีอากรของประชาชนทั่วประเทศ ซึ่งย้อนแย้งกับสิ่งที่ผู้ชุมนุมเรียกร้องอย่างสิ้นเชิง การเสียชีวิตของนายตำรวจในระหว่างปฏิบัติหน้าที่ เพราะการชุมนุมป่วนเมือง ยั่วยุและสร้างความรุนแรง ใช้ไม้ตีตำรวจ ปาก้อนหิน ขว้างระเบิดปิงปอง ทำให้ตำรวจต้องใช้มาตรการสากลจากเบาไปหาหนัก เพื่อสร้างความสงบและปกป้องชีวิตตนเอง
“พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯที่มาจากการเลือกตั้งของสภา มีฐานะเป็นผู้นำประเทศที่มีความชอบธรรมและชอบด้วยกฎหมายที่จะมีบ้านพักรับรองจากทางราชการ การขับไล่นายกฯให้ออกจากบ้านพัก จึงไม่ชอบธรรมและไม่ชอบด้วยกฎหมาย จึงขอประณามการกระทำของผู้ชุมนุมที่สร้างความโกลาหลยิ่งกว่าการจราจล ทำลายความเชื่อถือของนานาประเทศที่มีต่อประเทศไทย และจะนำเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุมกรรมาธิการต่อไป” นายสิระกล่าว
นายเทอดพงษ์ ไชยนันทน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานคณะกรรมการสมานฉันท์ ให้สัมภาษณ์ว่า การทำงานของกรรมการสมานฉันท์พยายามพูดคุยให้ทุกฝ่ายเกิดความเข้าใจกันได้ แต่ต้องยอมรับว่าสถานการณ์ชุมนุมที่ไม่มีแกนนำหลัก ทำให้การทำงานของกรรมการยังไม่คืบหน้า แต่ทุกคนพยายามหาวิธีทำงาน ด้วยการพูดคุย เบื้องต้นในวันที่ 1 มี.ค. กรรมการได้พูดคุยกับสมาคมของสื่อสารมวลชน ที่สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย เพราะสื่อมวลชนถือเป็นแถวหน้าในการชุมนุม จึงต้องพูดคุยและรับฟังถึงปัญหาที่เกิดขึ้น ก่อนจะสรุปเพื่อหาแนวทางสมานฉันท์ต่อไป
