‘พอร์ช’ใช้ชีวิตคุ้มแล้วเริ่มวางแผนมีครอบครัว! – ตัดสินใจเป็นนักแสดงอิสระ หลังอยู่ใต้ชายคาช่อง 7 มานานถึง 10 ปี สำหรับพระเอกหนุ่ม ‘พอร์ช’ ศรัณย์ ศิริลักษณ์ โดยทิ้งทวนละครเรื่องล่าสุด “วงเวียนหัวใจ” ประกบคู่นางเอกสาว ‘นาว’ ทิสานาฏ ศรศึก ที่กำลังออกอากาศทางช่อง 7HD อยู่ในขณะนี้

เป็นไงบ้างละคร “วงเวียนหัวใจ”?

พอร์ช – “สนุกมาก ทำงานง่าย ทำงานกับคนที่เคยร่วมงาน คุ้นเคยกัน บทบาทเรื่องนี้จะคล้ายที่เคยเล่นมา เรื่องนี้จะแกล้งนางเอกในโหมดจริงจังหน่อย เลยจะดูดุ แต่จริงๆ ไม่ได้โหดขนาดนั้น เรื่องนี้เป็นพี่ชายที่รักน้องสาวมาก พ่อแม่เสียตั้งแต่เด็ก เลี้ยงน้องสาวมาคนเดียว เราเหมือนพ่อ รักน้องมาก บางสิ่งบางอย่างเป็นสิ่งที่ผิดแต่เราก็ทำเพื่อน้อง เป็นพี่ชายที่แสนดี”

เป็นละครดราม่า คนก็บอกว่าพอร์ชเอาอยู่ เพราะเราสายดราม่า?

พอร์ช – “จริงๆ ครบรสนะ ซีนดราม่าไปหนักที่นางเอกเยอะ ของเราเล่นลึกๆ แสดงออกทางสายตา ในเรื่องจะเข้มๆ ดุๆ มีความโหดนิดๆ ไม่เหมือนนางเอกที่เล่นร้องไห้หนักมาก สงสารนางเอก”

มาเจอนาวอีกรอบเป็นไงบ้าง?

พอร์ช – “สบาย รู้จักนาวตั้งแต่เขาอายุ 15 ผมอายุ 17-18 ปี เห็นมาตั้งแต่เด็ก ถ่ายละครด้วยกันมา เรื่องสายโลหิต ถ่ายอยู่ 2 ปี เล่นกับนาวไม่ต้องนัด เราจะรู้ว่าน้องจะเล่นมาแบบนี้ เราก็จะรอ เหมือนรู้จังหวะกัน เรื่องนี้ทำงานง่าย นักแสดงที่เล่นเราสนิทเกือบหมด ทีมงานกองก็เคยทำงานกันอยู่แล้ว จะเล่นอะไรก็คุยกันได้ รู้ทางกัน”

ในเรื่องนี้เราฉุดกระชากนาวเยอะเหมือนกัน?

พอร์ช – “พอสมควร มีวันนึงเผลอไป ปกติจะจับน้องเบาๆ แต่วันนั้นเป็นฉากโมโห บีบแขนนาวเขียวเลย (หัวเราะ) ไม่ได้ตั้งใจ ด้วยมันโมโหอยู่ พอคัตก็รีบขอโทษไม่ได้ตั้งใจ จริงๆ มีซีนฉุดกระชากเยอะเหมือนกัน มีแอบอุ้มเข้าเอว ฉากเลิฟซีนก็มีบ้างกรุบกริบ มีแบบยินยอมและไม่ยินยอม แล้วแอบ แกล้งก็มี ฉากเลิฟซีนเล่นกับนาวสบาย นัดกันเรียบร้อย หนูอย่างนี้นะอย่างนี้ (หัวเราะ)”

กดดันไหม เพราะเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องสุดท้ายกับช่อง 7 ก่อนหมดสัญญา?

พอร์ช – “ผมเป็นคนไม่ค่อยซีเรียสอะไรเท่าไหร่ เราดูแล้วเราสนุกกับมัน เราโอเคก็พอใจแล้ว เพราะเราทำเต็มที่แล้ว”

เป็นอิสระแล้ว วางแผนหลังจากนี้ยังไงต่อ?

พอร์ช – “ได้ไปทำอะไรนอกบ้านบ้าง มีธุรกิจด้วย จะได้หลายช่องทาง ผมตัดสินใจนาน กว่าจะออกมาบอกว่าไม่ต่อสัญญาช่อง 7 จริงๆ เราอยากผันตัวไปทำธุรกิจด้วยสัก 50 เปอร์เซ็นต์ ทำงานในวงการ 50 เปอร์เซ็นต์ เลยอยากให้มันได้หลายช่องทาง เวลาไปโปรโมตสินค้า”

การไม่มีสังกัดจะรู้สึกโหวงเหวง มีความรู้สึกนั้นไหม?

พอร์ช – “ไม่ครับ เพราะปกติผมถ่ายละครปีละเรื่อง ทำเยอะแล้วปวดหัว ร่างกายไม่แข็งแรง (หัวเราะ) พอถ่ายพร้อมกันหลายเรื่อง ผมจะเอ๋อ ผ่านจุดเอ๋อมาแล้ว ผมไม่อยากทำงานเยอะ ทำเยอะแล้วเอ๋อ งานก็ออกมาไม่ดี เราก็รู้สึกไม่ดี”

เราหมดสัญญาปุ๊บ หลายคนจะรอดูว่าเราไปร่วมกับที่ไหน เรื่องอะไร กับใคร?

พอร์ช – “กลางปีน่าจะเริ่มถ่าย กว่าจะได้ดูก็ปลายปี ช่วงนี้หนักกับการหาธุรกิจทำ แต่ประเด็นตอนนี้ยังคิดไม่ออก อยากทำธุรกิจ อยากเป็นเจ้านายตัวเอง”

พอมีข่าวว่าเราไม่ต่อสัญญา มีช่องอื่นมาจีบไหม?

พอร์ช – “มี แต่ไม่รีบครับ หาอะไรทำว่างๆ ถ่ายเรื่องนี้จบก็ว่างยาวๆ”

รู้สึกอย่างไรบ้าง อายุขนาดนี้ ยังมีหลายที่สนใจอยากร่วมงาน?

พอร์ช – “ผมอายุ 30 เองนะ แต่ที่ดูว่าอยู่มานาน เพราะเริ่มเข้ามาตั้งแต่อายุ 18 ปี มันก็เลยรู้สึกว่านาน แค่เล่นละครเร็ว แต่อายุยังน้อยอยู่”

ถามเรื่องหัวใจหน่อย ตอนนี้มีแฟนไหม?

พอร์ช – “มีคุยเป็นคนนอกวงการ”

เข็ดคนในวงการแล้ว?

พอร์ช – “ไม่เอาแล้ว เหนื่อย มีปัญหาทีงานเข้าตลอดเลย (หัวเราะ) กับคนนี้คุยมานานแล้ว ตั้งแต่แม่มาขอว่าอย่าเพิ่งมีแฟนเลยลูก (หัวเราะ) แม่มาพูดกับเราเลยนะ เมื่อตอนต้นปีพอร์ชลองใช้เวลาอยู่กับตัวเองและเพื่อนสักพักนึงนะ แล้วค่อยคุย”

ทำไมแม่ถึงเตือนเราขนาดนั้น หรือเราติดสาวมาก?

พอร์ช – “ไม่ใช่ คือพอร์ชเป็นคนรีบ เหมือนขี้เหงา เวลาคุยกับใครไปเหมือนรีบ พออยู่มาเรื่อยๆ กลายเป็นเหมือนหลอกตัวเองมากกว่า มันไม่ใช่ตัวเรา เขาไม่อยากให้เปลี่ยนตัวเองเพื่อคนอื่นร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะส่วนใหญ่จะเป็นแบบนั้น เวลาเราคุยกับใคร เราก็จะพยายามเข้าไปอยู่ในสังคมของเขา หลังๆ มาก็ไม่ใช่ตัวเรา แม่ก็เลยบอกว่าทำอะไรก็ให้เป็นตัวเอง ไปอยู่กับตัวเอง อยู่กับเพื่อนเยอะๆ”

พอมีคนคุยอีกครั้ง กลับไปเป็นแบบเดิมไหม?

พอร์ช – “ไม่ครับ ตอนนี้เป็นตัวเองเต็มที่เลยครับ ไม่มีโปรฯ เขาเรียกว่า เราอาจจะเลวนะ แต่เราก็เลวแค่นี้แหละ ไม่เลวไปมากกว่านี้ เห็นกันตั้งแต่วันแรกไปเลย ก็ดี มันเป็นอะไรแปลกใหม่ดี”

เหมือนกับเขาก็โอเคกับการที่เราคุยกันไปก่อน ยังไม่ชัดเจน?

พอร์ช – “ชัดเจน ก็คุยไป แต่ยังไม่บอก ส่วนจะเปิดไหมถ้ามันลงตัวแล้ว คือไม่เคยปิดอยู่แล้ว แต่ว่าขอเวลาหน่อย เดี๋ยวเขาหาว่ารีบอีก ซึ่งกับคนนี้แม่โอเค แม่บอกว่าคุยกันไปเรื่อยๆ แต่ว่าคนนี้ดี คุยกันมาตั้งแต่วันเกิด เดือนพ.ย.ปีที่แล้ว อายุเท่ากัน”

คนนี้ถูกสเป๊กเราตรงไหน?

พอร์ช – “เอาเป็นว่าไลฟ์สไตล์ชีวิตเหมือนผม ลุยๆ บ้านๆ เที่ยวเหมือนกัน กินอะไรเหมือนกัน ไม่เยอะ อะไรก็ได้ง่ายๆ แล้วก็เป็นคนง่ายๆ ชอบไปเดินตลาดชิลชิล ไปเที่ยวตั้งแคมป์ลุยๆ”

จะได้เห็นรูปในไอจีเราไหม?

พอร์ช – “(หัวเราะ) อย่าเพิ่งรีบสิ ถ้าเปิดตัวเร็ว เดี๋ยวหาว่าเราเจ้าชู้อีก เราค่อยๆ ไป แต่แค่บอกไว้ก่อนว่าเรามีคุยอยู่”

กับความรักที่ผ่านหลายคนที่เขา ผิดหวังมาบ่อยๆ เขาก็จะกลัวความรัก สำหรับเราล่ะ?

พอร์ช – “นิดนึง กลัวจะกลับไปเป็นเหมือนเดิมใช่ไหม แต่ก็ไม่หรอก ตั้งเป้ากับตัวเองไว้ว่าจะหาคนที่ดี ต้องอายุไม่เกิน 32-33 ปีแล้วก็แต่ง อันนี้จริงๆ นะ ที่คิดไว้ตอนเด็กๆ แต่ตอนนี้หาตังค์ก่อน ต้องเลี้ยงครอบครัวด้วย ต้องเลี้ยงเขาให้ได้”

แต่ตอนนี้เราก็ยังคงมีความคิดเดิม อายุ 32-33 ปีแต่งงาน?

พอร์ช – “ยังความคิดเดิม อีก 2-3 ปี”

ถ้าคนนี้ใช่ก็แต่งเลย?

พอร์ช – “ใช่ ไม่อยากมีลูกตอนแก่ อยากเที่ยวกับลูก แม่ผมก็โอเค แม่ไม่หวง เพราะเรื่องนี้แม่เขารู้อยู่แล้ว พอร์ชบอกเขาตั้งแต่เด็กแล้วว่าอายุ 32 ไม่มีหนี้ก็จะมีครอบครัว”

ตอนนี้มีหนี้สินอะไรไหม?

พอร์ช – “เล็กๆ น้อยๆ เป็นพวกของใช้ อย่างอื่นก็ไม่มีอะไรแล้ว เหลือเก็บตังค์อย่างเดียว”

มุมมองความรักเราเปลี่ยนไปไหม?

พอร์ช – “เปลี่ยนนะ เพราะเมื่อก่อนเราเที่ยวเล่นสนุก เดี๋ยวนี้ไม่ค่อย เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยเจอเพื่อนเลยนะ ไม่เกี่ยวกับโควิด อย่างพี่ซี (ศิวัฒน์) ผมไม่เจอพี่ซีมา 1 ปี แก๊งอื่นก็ไม่เจอนะ วันก่อนเจอพี่ซี เขาบอกว่าพอร์ชต้องมาเจอเพื่อนบ้างนะ แกโกรธ งอน เพราะว่าพอร์ชหายไปเลย อยู่บ้านไม่ไปไหนเลย กลัวโควิดด้วย แล้วก็หลายอย่าง ขี้เกียจไปเจอคน”

แผนชีวิตตั้งแต่วันนี้ งานธุรกิจเราจะเริ่มตรงไหนก่อน?

พอร์ช – “มีที่ทำอยู่ แต่ก็อยากทำเพิ่ม แต่คิดไม่ออก บางอย่างมันต้องปิ๊งขึ้นมาเอง ตอนนี้ทำยาสีฟัน ทำน้ำพริก แล้วก็กำลังดูพวกสินค้าใหญ่ๆ อยู่ ทำสินค้าเข้าห้างพวกอาหาร ตอนนี้ดูพวกน้ำจิ้ม คุยอยู่เยอะ แต่ยังไม่ได้ ปักหลักแน่นอนว่าจะทำอะไร คือทำของกินมันขายได้ ยังไงคนก็กิน อยากทำของกินที่เก็บไว้ได้อย่างน้อย 2-3 เดือน ไม่ใช่ของกินที่ทำปุ๊บแล้วกินภายในอาทิตย์เดียว อันนั้นจะขายยาก เป้าของเราคืออยากทำของกิน แต่ยังนึก ไม่ออก”

เราใช้ชีวิตคุ้มเนอะ?

พอร์ช – “โห (หัวเราะ) คุ้มๆ ผมใช้ชีวิตสุดตั้งแต่เด็ก พอมาอายุ 30 คนอื่นเขายังเที่ยวกันอยู่ แต่ผมขี้เกียจแล้ว เหนื่อย แล้วคบเพื่อนอายุ 35 ขึ้นทั้งนั้น เลยได้สังคมจากรุ่นพี่ ได้แนวคิดต่างๆ จากรุ่นพี่ ซึ่งทำให้เราเริ่มหยุดกับอะไรที่ไม่จำเป็นในชีวิต เที่ยวเล่นสนุกก็มีบ้างนิดหน่อย”

เคยมานั่งมองย้อนกลับไปดูชีวิตตัวเองตอนวัยรุ่นไหม?

พอร์ช – “ก็มันส์ดี ไม่ได้รู้สึกแย่ที่ทำลงไปนะ แค่รู้สึกว่ากูคุ้มแล้ว กูเคยทำแล้ว เด็กๆ มาบอกว่าพี่ไปนี่ป่ะ โอโห พี่ไปมาเยอะแล้วน้อง (หัวเราะ) มันก็ทำให้เราหยุดในสิ่งที่ ไม่จำเป็นในชีวิตไป ตอนนี้หาอะไรทำ คิดเรื่องต่อไป ถ้ามีครอบครัวแล้วจะทำธุรกิจอะไรที่จะดูแลครอบครัวตัวเองได้ แล้วที่บ้านอีก พ่อ แม่ พี่ แล้วถ้าเกิดมีครอบครัวอีก แสดงว่าเราต้องหาธุรกิจที่ดูแลครอบครัวได้ เดี๋ยวเรามีลูกอีก เลยต้องคิดตั้งแต่วันนี้ไว้”

ถือว่าเราตั้งต้นชีวิตครอบครัวได้เร็ว?

พอร์ช – “ใช่ครับ แล้วก็ดี คือคิดไว้ก่อน ไม่ได้ซีเรียสนะว่าจะต้องมีครอบครัวอีก 2-3 ปี ถ้าภายในปีนี้ มีธุรกิจที่มันโอเคผมก็ไปแล้ว”

จะเกษียณงานในวงการ?

พอร์ช – “ไม่ขนาดนั้น มีทำบ้าง ทำเล่นๆ ยังไงก็ไม่ทิ้ง เผื่อเราทำธุรกิจอื่น เราก็ยังมี คอนเน็กชั่น อย่างน้อยปีละเรื่องครับ”

อนงค์ จันทร

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน