เปิดใจ‘โรลันด์ โฟล์เกอร์’ – ค่ายดาวสามแฉกภายใต้การนำทัพ โดย ‘โรลันด์ โฟล์เกอร์’ ประธานบริหารบริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศยืนยันว่า ผลงานในปีที่แล้วเป็นไปตามเป้าหมาย

ส่วนการที่มียอดขายลดลงเป็นผลมาจากซัพพลายเชนจ์ในการประกอบรถยนต์เซ็กเมนต์หลักขาดตลาด ส่งผลให้ตัวรถ มาช้าโดยเฉพาะ ‘เอ-คลาส’ ที่ความจริง ต้องเปิดตัวตั้งแต่ไตรมาส 2 ของปีที่แล้ว แต่กว่าจะมีรถพร้อมจำหน่ายล่วงเข้าไป ถึงปลายปี

แต่ในปีนี้ทุกอย่างเข้ารูปเข้ารอย ดังนั้น จึงมีรถรุ่นใหม่ทยอยเปิดตัวอย่างน้อย 15 รุ่น

พร้อมทั้งให้ความสำคัญกับดีลเลอร์ ด้วยการให้ความช่วยเหลือ ไม่ต้องแบกสต๊อกรถมากจนเกินไป ชนิดคุยกันทุกๆ 3 เดือน เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งในด้านกระแสเงินสด

ขณะที่อะไหล่ในศูนย์บริการปรับเปลี่ยนรูปแบบการสั่งของดีลเลอร์ จากเดิมสั่งและส่งอะไหล่กันเป็นรายสัปดาห์มาเป็นรายวัน ในกทม.สั่งเช้าส่งบ่าย ส่วนต่างจังหวัดกำหนดเร็วขึ้นด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นค่อนข้างมาก แต่บริษัทรับผิดชอบในส่วนนี้ไว้เพื่อสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าสูงสุด

ส่วนการนำรถยนต์ไฟฟ้าเข้ามาประกอบและทำตลาดในเมืองไทย ประธานบริหารยืนยันว่ามีแน่นอน แต่ยังอยู่ระหว่างศึกษาและดูความพร้อมของตลาด

 

แต่จากยอดขายเมอร์เซเดส-เบนซ์เมื่อปีที่แล้ว มีสัดส่วนจากกลุ่มรถยนต์ปลั๊ก-อิน ไฮบริด ประมาณ 40% ซึ่งถือว่าสูงมากเมื่อเทียบกับเมอร์เซเดส-เบนซ์ทั่วโลก ทำให้มั่นใจว่าลูกค้าคนไทยมีความพร้อมในการเปิดรับเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้า

สำหรับรถยนต์รุ่นใหม่ในปีนี้มีทั้งกลุ่ม เอเอ็มจีที่เน้นในเรื่องของสมรรถนะ และรถที่หลายคนต้องการเป็นเจ้าของในกลุ่มดรีมคาร์

ล่าสุดเปิดตัว ‘The new E-Class’ ใหม่ ที่มาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์ปลั๊ก-อินไฮบริด ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี EQ Power เจเนอเรชั่นที่ 3

ดีไซน์ภายนอกโดดเด่นด้วยเอกลักษณ์ของชุดแต่ง AMG Body styling

กระจังหน้า diamond radiator grille ไฟหน้าแบบ MULTIBEAM LED และไฟท้ายแบบ Full-LED

ล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ขนาด 19 นิ้วจาก AMG

หลังคาแก้วแบบ Panoramic Sunroof ควบคุมด้วยไฟฟ้า

ห้องโดยสารหรูหรา และสะดวกสบาย ชุดตกแต่งภายในแบบ AMG Interior package

พวงมาลัยดีไซน์สปอร์ตใหม่แบบ 3 ก้านท้ายตัด พร้อมปุ่มควบคุมแบบ Touch control

เบาะนั่งแบบสปอร์ต คอนโซลหุ้มด้วยหนัง ARTICO ตลอดทั้งคัน

ไฟล้อมรอบห้องโดยสารแบบ Premium Ambient light ที่สามารถเลือกปรับได้มากถึง 64 เฉดสี

ระบบเสียงรอบทิศทางแบบ Burmester surround sound system ลำโพง 13 ตำแหน่ง

ขุมพลังเครื่องยนต์ 2 ทางเลือก ได้แก่ เครื่องยนต์เบนซินแถวเรียง 4 สูบ ขนาด 1,991 ซีซี ผสานพลังมอเตอร์ไฟฟ้าด้วยเทคโนโลยีแบบปลั๊ก-อินไฮบริด กำลังสูงสุด 211 แรงม้า

และเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบขนาด 1,950 ซีซี พร้อมระบบอัดอากาศแบบเทอร์โบ พละกำลัง 194 แรงม้า ระบบส่งกำลังแบบ 9G-TRONIC

The new E-Class มีให้เลือก 3 รุ่น

E 300 e Avantgarde 3,190,000 บาท

E 220 d AMG Sport 3,540,000 บาท

และ E 300 e AMG Dynamic 3,770,000 บาท

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน