ย้อนจุดจบโจรชิงทอง ลงมือ12วิกวาดนับล. ตร.ล่าปิดล้อม-ยิงตัว – คนเรานั้นเลือกเกิดไม่ได้ ใช่ว่าทุกคนจะคาบ ช้อนเงินช้อนทองออกมา แต่สิ่งที่เลือกได้คือเลือกทางเดินชีวิตอย่างไร โดยเฉพาะเวลาอับจนหนทาง หลายคนเลือกแก้ปัญหาด้วยวิธีที่ผิดจนนำมาซึ่งจุดจบที่น่าอนาถ
เช่นจุดจบของโจรจี้ชิงทองรายนี้ ที่เริ่มต้นขึ้น เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 5 มี.ค. พ.ต.อ.ชูเกียรติ ภูกาบพลอย รองผบก.ภ.จว.ราชบุรี, พ.ต.อ.ธนู ฮวบประเสริฐ รองผบก.ภ.จว.ราชบุรี, พ.ต.อ.ปิยะพงษ์ วงค์เกตุใจ ผกก.สภ.บ้านโป่ง, พ.ต.ท.ธารา ศรีพรหมคำ รองผกก.ป., พ.ต.ท.มานพ น้ำประสานไทย รองผกก.สส., นำกำลังชุดสืบสวนและเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.ราชบุรี เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุคนร้ายจี้ร้านทองห้างทองเยาวราช เอเชีย ตั้งอยู่ภายในห้างสรรพสินค้าเทสโก้ โลตัส สาขาบ้านโป่ง ม.5 ต.หนองอ้อ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ได้ทองรูปพรรณไปจำนวนมาก
ที่เกิดเหตุภายในร้านพบพนักงานขายจำนวน 3 คน แต่ละคน ล้วนมีสีหน้าท่าทางตื่นตระหนกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จากการสอบถามน.ส.ชญาภา (สงวนนามสกุล) อายุ 29 ปี พนักงานร้านทอง เล่าด้วยเสียงสั่นว่า ขณะตนและเพื่อนอีก 2 คน กำลังยืนจัดทองรูปพรรณ ในตู้โชว์ให้เป็นระเบียบอยู่นั้น มีคนร้ายวิ่งถือปืนเข้ามาในร้านแล้ว กระโดดขึ้นไปเหยียบบนตู้โชว์ทอง
คนร้ายรวบทองรูปพรรณที่แขวนอยู่ในตู้โชว์ด้านหลังไปทั้งหมด 13 เส้น รวมน้ำหนักทอง 57 บาท รวมเป็นเงินมูลค่าราว 1,400,000 บาท โดยคนร้ายใช้เวลาเพียง 12 วินาที ในการก่อเหตุก่อนหลบหนีไป
ชุดสืบสวนตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดในห้างพบว่า คนร้ายขับรถกระบะอีซูซุ ดีแมคซ์ สีขาว แบบแค็บ ลักษณะโหลดเตี้ย ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน เข้ามาภายในห้าง แล้วเดินเข้าประตู 2 บริเวณกลางห้าง โดยคนร้ายเป็นชาย สูงประมาณ 160 เซนติเมตร รูปร่างผอม สวมเสื้อคลุมแขนยาว กางเกงขายาวลายแถบข้างสีขาว สวมหมวกแก๊ปสีขาว แว่นตาดำ ใส่หน้ากากอนามัยและถุงมือ
คนร้ายแวะเข้าห้องน้ำซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับร้านทอง เพียงไม่นานก็วิ่งออกมามุ่งหน้าเข้าร้านทอง ใช้ปืนพกจ่อที่พนักงาน กระโดดขึ้น ตู้กระจก รีบคว้าสร้อยทองที่แขวนอยู่ในตู้โชว์ ก่อนจะรีบวิ่งหลบหนีออกห้างทางประตู 3 ฝั่งโรงภาพยนตร์ แล้วขับรถกระบะออกไป มุ่งหน้าเข้าตลาดบ้านโป่ง ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้วิทยุสกัดจับตามเส้นทาง ที่คาดว่าจะใช้หลบหนี แต่ไร้วี่แวว
เพียงแค่วันเดียวตร.ก็สามารถปิดคดีลงได้ โดยเมื่อเวลา 14.50 น. วันที่ 6 มี.ค. พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รองผบ.ตร. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ ผบก.สส.ภาค 7 พร้อม พล.ต.ต.ปรัชญา ประสานสุข ผบก.ภ.จว.ราชบุรี พ.ต.อ.ปิยะพงษ์ วงค์เกตุใจ ผกก.สภ.บ้านโป่ง พ.ต.อ.วันชาติ ม่วงศรี ผกก.สภ.หนองหญ้าปล้อง จ.เพชรบุรี พ.ต.ท.ประภาส หลำเพิกสืบ สว.สอบสวน สภ.หนองหญ้าปล้อง และชุดสืบสวน ร่วมตรวจสอบภายในรีสอร์ตแห่งหนึ่งในพื้นที่บ้านยางน้ำกลัดใต้ หมู่ 1 ต.ยางน้ำกลัดใต้ อ.หนองหญ้า ปล้อง จ.เพชรบุรี หลังผู้ต้องหาคดีปล้นทองดังกล่าว ยิงตัวเองเสียชีวิตระหว่างหลบหนี ในห้องพักของรีสอร์ตดังกล่าว
ภายในห้องพักตร.พบศพนายสุกฤษฏิ์ มีทรง อายุ 30 ปี ชาวต.นางแก้ว อ.โพธาราม จ.ราชบุรี นุ่งกางเกงขายาวสีเขียวใส่เสื้อแขนสั้นสีน้ำเงิน นั่งตะแคงจมกองเลือดอยู่ในห้องน้ำ พบบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าขมับซ้ายทะลุขมับขวา ข้างศพมีอาวุธปืนขนาด .380 ตกอยู่ ตรวจสอบในตัวพบเงินสด 500 บาท และทองรูปพรรณ ของกลางจำนวน 11 เส้น อยู่ในกระเป๋าสะพายสีดำ พร้อมข้าวของเครื่องใช้ของผู้ตายอีกจำนวนหนึ่ง และพบรถปิกอัพยี่ห้ออีซูซุ ตอนครึ่ง สีขาว ทะเบียน ผฉ 3861 นครปฐม ที่ผู้ตายใช้ขับหลบหนีหลังก่อเหตุ จอดอยู่ใต้ต้นไม้ของรีสอร์ตห่างจากห้องพักราว 100 เมตร
พล.ต.อ.สุชาติเผยว่า ระหว่างที่ผู้ต้องหาหลบหนีตำรวจตรวจสอบตามเส้นทางต่างๆ พบว่าผู้ต้องหาเช่าห้องที่รีสอร์ตที่เกิดเหตุ พล.ต.ต.นพศิลป์จึงนำกำลังเข้ามาขอความร่วมมือเจ้าของรีสอร์ต เพื่อดำเนินการจับกุม ซึ่งทางเจ้าของรีสอร์ตได้อนุญาต
แต่ระหว่างกำลังดำเนินการจู่ๆ ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด ภายในห้องพักดังกล่าว เมื่อเข้าตรวจสอบพบเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีปล้นร้านทอง จึงได้ประสานให้แพทย์จากโรงพยาบาลหนองหญ้าปล้อง มาตรวจสภาพศพ และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานมาเก็บรายละเอียด การเสียชีวิตทั้งหมดไว้เป็นหลักฐาน
“ทองรูปพรรณที่พบจำนวน 11 เส้น แต่ในรายละเอียดที่ผู้ตาย ปล้นมาจำนวน 13 เส้น หายไป 2 เส้น ตำรวจอยู่ระหว่างตรวจสอบว่าผู้ตายนำไปขายนำเงินมาใช้ในระหว่างหลบหนีหรือไม่ เนื่องจากก่อนที่ผู้ตายจะหลบหนีมาเช่าห้องพักที่รีสอร์ตแห่งนี้ได้ไปเปลี่ยนกระทะล้อที่เป็นแม็กซ์ของรถปิกอัพที่ขับเป็นเงิน 30,000 บาท อยู่ระหว่างสืบสวนขยายผล” รองผบ.ตร.กล่าว
สิ่งที่ควรรู้ก่อนเลือกจะเป็นโจร คือจุดจบของโจรนั้นหากไม่ติดคุกก็มีแต่ตายเท่านั้น!
ดุสิต จิรภัทรากร
ขวัญเพชร โชคบรรดาลสุข
กิตติธัช ขันตระกูล
กิตติศักดิ์ รื่นรวย
เรื่อง/ภาพ
