คำสารภาพนร.หนุ่ม18
หึงโหดฆ่า-แฟน19
คดีสยอง!เมืองสองแคว

จะด้วยความสำนึกผิดหรือจะเพราะรู้ตัวว่าคงหนีไม่รอดแน่ ที่ทำให้หนุ่มวัย 18 ตัดสินใจสารภาพความผิดกับญาติก่อนให้พาเข้ามอบตัวกับตำรวจสถานีตำรวจภูธรแก่งโสภา อ.วังทอง จ.พิษณุโลก นำมาสู่การคลี่คลายคดีสยองเมืองสองแคว

พล.ต.ต.ชัยวัฒน์ ฉันทวราลักษณ์ รองผบช.ภ.6 ตรวจจุดเผานั่งยาง

ย้อนไปเมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 9 มีนาคม พ.ต.ต.หญิงวิรัลพัชร วรพงศ์ปกรณ์ สว. (สอบสวน) สภ.แก่งโสภา อ.วังทอง จ.พิษณุโลก พร้อมด้วยชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจวิทยาการศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 6 และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิประสาทบุญสถาน นำกำลังเข้าตรวจสอบกลางป่าลึกในพื้นที่หมู่ 11 บ้านม่วงหอม ต.บ้านกลาง อ.วังทอง เพื่อค้นหาจุดเกิดเหตุตามคำสารภาพของคนร้าย

การค้นหาในวันนั้นตำรวจพบร่างผู้เสียชีวิต สภาพถูกเผานั่งยางเหลือเพียงเศษชิ้นส่วนกระดูกสภาพไหม้เกรียมอยู่ในกองขี้เถ้า โดยพบยางรถยนต์ที่ไหม้ไฟจำนวน 3 เส้น

นายแม้ว คนร้าย
น.ส.จุฬารัตน์ กองแก้ว หรือน้องปอ

จุดเริ่มต้นของคดีสยองเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 27 ก.พ. หลังนางสวี กุนนะ ชาว ต.บ้านกลาง อ.วังทอง จ.พิษณุโลก พร้อมญาติเข้าแจ้งความกับสถานีตำรวจภูธรแก่งโสภาว่า น.ส.จุฬารัตน์ กองแก้ว หรือน้องปอ อายุ 19 ปี หายออกไปจากบ้าน

นางสวีให้การว่า น้องปอออกจากบ้านไปกับนายแม้ว อายุ 18 ปี เรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 6 โรงเรียนแห่งหนึ่งในอำเภอวังทอง ซึ่งเป็นแฟนหนุ่ม ตั้งแต่วันที่ 26 กุมภาพันธ์ โดยนายแม้วมารับลูกสาวบอกว่าจะพาไปหาหมอ กระทั่งเวลาผ่านไปกว่า 2 ชั่วโมง ยังไม่พาลูกสาวกลับมาส่งที่บ้าน จึงตามไปสอบถาม แต่นายแม้วบอกว่า ได้มาส่งที่ท่ารถเรียบร้อยแล้ว หลังจากนั้นจึงได้ออกติดตามหาแต่ไม่พบ วันรุ่งขึ้นจึงมาแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

หลังรับแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจรวมทั้งญาติๆ ออกช่วยตามหาตามสถานที่ต่างๆ ที่คาดว่าน้องปอจะไป รวมทั้งตรวจสอบการใช้มือถือ และนำตัวนายแม้ว ผู้ต้องสงสัยเบอร์ 1 มาสอบปากคำหลายครั้งแต่เจ้าตัวก็ยังยืนยันเหมือนเดิม

ขณะที่ ตร.ตามสืบจนใกล้รู้ความจริง วันที่ 8 มีนาคม ผู้ปกครองก็พาตัวนายแม้วเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แก่งโสภา พร้อมสารภาพว่าได้ฆ่าเผาอำพรางศพน้องปอแฟนสาวไปแล้ว

นายแม้วให้การว่า ก่อนเกิดเหตุมีเรื่องทะเลาะกันมาจากความหึงหวง เนื่องจากคิดว่าแฟนสาวได้ขอเลิกกระทั่งมีปากเสียงกัน จึงบีบคอจนสิ้นลมคามือภายในห้องนอนที่บ้าน จากนั้นนำผ้าปูที่นอนห่อตัวผู้ตาย นำศพขึ้นรถกระบะขับพามาเผานั่งยางปิดบังความผิดเพื่ออำพรางคดีกลางป่าลึกในพื้นที่หมู่ 11 บ้านม่วงหอม ต.บ้านกลาง อ.วังทอง ห่างจากบ้านราว 15 ก.ม. กระทั่งผ่านมาหลายวันถูกทางตำรวจและญาติน้องปอกดดันอย่างหนักจนทนไม่ไหว จึงมาเล่าให้ญาติฟังและให้ญาติพาเข้ามอบตัวกับตำรวจดังกล่าว

เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีในข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนา และอำพรางซ่อนเร้นศพ ดำเนินคดีตามกฎหมาย

เก็บตัวอย่างดีเอ็นเอ

ตัดกลับมาที่จุดเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ พฐ.ได้เก็บตัวอย่างดีเอ็นเอจากนางสวี เพื่อนำไปตรวจเปรียบเทียบกับชิ้นส่วนกระดูกที่พบว่าตรงกันหรือไม่ เพื่อยืนยันว่ากระดูกที่พบเป็นของน้องปอจริงหรือไม่

นางสวีเผยความรู้สึกว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมาพยายามติดตามหาตามสถานที่ต่างๆ แต่ก็ไม่พบ จนกระทั่งมาทราบว่าลูกสาวถูกฆาตกรรม รู้สึกเสียใจอย่างมาก วันนี้ได้นิมนต์พระมาสวดและ เชิญดวงวิญญาณกลับบ้าน ส่วนเรื่องคดีอยากให้ตำรวจดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ส่วนแฟนหนุ่มอยากให้มาขอขมาศพด้วย

ขณะที่ตาของนายแม้ว ผู้ต้องหา เปิดเผยว่า พอทราบเรื่องว่าหลานชายฆ่าแฟนสาวตาย ญาติๆ กับครอบครัวรู้สึกตกใจมาก เพราะปกตินายแม้วไม่ใช่คนอารมณ์ร้อน เพียงแต่ชอบเล่นตีไก่เท่านั้น และทั้งคู่ได้หมั้นหมายเป็นคู่ครองกันไว้เป็นที่เรียบร้อยแต่เกิดสถานการณ์โควิด-19 เสียก่อน จึงยังไม่มีพิธีแต่งงาน

ขณะที่ทางครอบครัวน้องปอก็ออกมาเรียกร้องความเป็นธรรม พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า การจะนำศพและยางรถยนต์ไปที่จุดเกิดเหตุเพียงลำพังไม่น่าทำได้โดยง่าย จึงน่าจะมีคนอื่นร่วมมือกันอำพรางศพด้วย จึงอยากให้ ตร.สอบสวนให้กระจ่าง

เรื่องนี้ พล.ต.ท.อภิชาติ ศิริสิทธิ์ ผบช.ภ.6 สั่งการให้ พล.ต.ต.ชัยวัฒน์ ฉันทวราลักษณ์ รองผบช.ภ.6 และ พล.ต.ต.ธวัช วงศ์สง่า ผบก.ภ.จว.พิษณุโลก ลงมากำกับดูแลคดีเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

อะไรที่มากเกินไปก็ใช่ว่าจะดี รักมากไป หึงมากไป หวงมากไป ส่วนผสมที่ลงตัวของเหตุพิศวาสฆาตกรรม

อนุชา แก้วคำมา

เรื่อง/ภาพ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน