ทัพพม่าอ้างซูจีโกงอีก-ส่อขังลืม – วันที่ 18 มี.ค. เอเอฟพีรายงานสถานการณ์ความรุนแรงในเมียนมา เข้าสู่สัปดาห์ที่ 7 ว่าประชาชนยังเดินหน้าประท้วง แม้มีผู้ถูกสังหารอย่างต่อเนื่องรวมยอดอย่างน้อย 210 ราย เจ็บนับพันคน ถูกจับกุมกว่า 2,175 คน เพื่อต่อต้านคณะรัฐประหารที่ปล้นประชาธิปไตย และคุมขังนางออง ซาน ซู จี ผู้นำรัฐบาลพลเรือน ล่าสุดยังตั้งข้อหาเพิ่มที่มีบทลงโทษจำคุกถึง 15 ปี

สถานีโทรทัศน์รัฐบาลทหารเผยแพร่คลิปวิดีโอของนายหม่อง เวก นักธุรกิจ เมื่อค่ำวันพุธที่ 17 มี.ค. อ้างว่าบริจาคเงินให้นางซู จี รวมถึงแกนนำรัฐบาลมาแล้วเกือบ 17 ล้านบาท เพื่อเอื้อประโยชน์ทางธุรกิจ ประกอบการดำเนินคดีนางซู จี เพิ่มเติมจากข้อหานำเข้าวิทยุสื่อสารผิดกฎหมาย ละเมิดกฎหมายภัยพิบัติจากกรณีไม่ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการระบาดของโควิด-19 ช่วงรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งเมื่อปี 2563 และข้ออ้างว่านางซู จี รับสินบน 18.4 ล้านบาท พร้อมทองคำแท่งกว่า 10 กิโลกรัม ซึ่งนายขิ่น หม่อง ซอ ทนายความของนางซู จี กล่าวว่า ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นการกล่าวหาโคมลอยและไร้เหตุผล

สำหรับเหตุสลดล่าสุดจากการปราบปรามผู้ชุมนุม ทำให้ น.ส.หง่วย อู้ (นามสมมติ) เด็กสาววัย 16 ปี ที่ไม่ได้เป็นผู้ชุมนุมถูกลูกหลงเป็นกระสุนยางของเจ้าหน้าที่ยิงเจาะศีรษะเจ็บสาหัสระหว่างออกไปซื้อของที่ตลาด เมืองวู่นดวีน ภูมิภาคมัณฑะเลย์ เมื่อวันอังคารที่ 16 มี.ค.

นายแพทย์ลา มิน เปิดเผยว่า เบื้องต้น น.ส.หง่วย อู้ ก็บาดเจ็บหนักอยู่แล้ว แต่เพราะการประกาศใช้มาตรการเคอร์ฟิวกระทบต่อระบบการให้บริการด้านสุขภาพ ประกอบกับความไม่เชื่อใจในเจ้าหน้าที่รัฐบาลทหาร ส่งผลให้การส่งตัว น.ส.หง่วย อู้ ไปรักษาที่โรงพยาบาลต้องใช้เวลานานกว่า 6 ชั่วโมง ทำให้อาการยิ่งทรุดหนัก ตอนแรกพ่อแม่ของ น.ส.หง่วย อู้ พาลูกสาวไปยังคลินิกของมูลนิธิช่วยเหลือผู้ทุกข์ยาก แต่เพราะบาดแผลถูกยิงที่ศีรษะสาหัสมาก จึงต้องพาตัวหญิงสาวไปโรงพยาบาลในเมืองแทน แต่เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลดังกล่าวระบุว่ารักษาไม่ได้ และว่าต้องส่ง น.ส.หง่วย อู้ ไปยังโรงพยาบาลทหารในเมืองปยีนอู้ลวีน ซึ่งอยู่ห่างออกไป 3 ชั่วโมง

“พ่อแม่เด็กไม่รู้ว่าจะพาลูกไปไหนดี พวกเขาไปๆ มาๆ บนเส้นทางระหว่างเมืองปยีน อู้ลวีนกับเมืองเมะทีลา กลัวว่าพาไปโรงพยาบาลทหารแล้วจะไม่ยอมรักษาให้ แต่สุดท้าย ก็ไม่มีทางเลือก ต้องพาไปโรงพยาบาลทหารที่ใกล้ที่สุดเมื่อเวลาราว 23.00 น.ของวันเดียวกัน จากนั้นแพทย์ทำการฉายรังสีด้วยวิธีซีทีสแกนพบว่ามีส่วนของกะโหลกศีรษะหักและทิ่มสมองซีกขวา เธอคงจะตายแน่ๆ ถ้าไม่ได้ผ่าตัด แต่ถึงผ่าก็มีโอกาส 50 เปอร์เซ็นต์ที่จะรอด ผมแค่ต้องการเรียกร้องถึงพวกเขา ได้โปรดอย่ายิงประชาชนอีกเลย” นพ.ลา มิน กล่าว

ด้านพ่อของวัยรุ่นสาวกล่าวว่า ที่ตนขับรถอยู่นอกบ้านหลังเคอร์ฟิวเวลา 20.00 น. ไม่ใช่การกระทำของความกล้าหาญ แต่เป็นความกลัวว่าจะสูญเสียลูกสาว แม้ผ่านมา 24 ชั่วโมงหลังเข้ารับการรักษา แพทย์ยังไม่รับประกันว่าจะรอด และบอกว่าหญิงสาวเสียเลือดไปมาก แม่ของน.ส.หง่วย อู้ ระบุเพียงว่ารู้สึกเศร้าใจอย่างยิ่งและกังวลมากๆ

เลือดนอง – กลุ่มผู้ประท้วงในนครย่างกุ้ง ของเมียนมา ช่วยกันเคลื่อนย้ายผู้ร่วมชุมนุมหลังประสบเหตุถูกยิงระหว่างเจ้าหน้าที่ความมั่นคงนำกำลังสลายการประท้วง ขณะที่ ยอดผู้เสียชีวิตจากการใช้ความรุนแรงเพิ่มเป็นอย่างน้อย 210 ราย (รอยเตอร์)

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน