คอลัมน์ วิเคราะห์การเมือง

จับกุม คุมขัง – การจับกุม ทนายอานนท์ ตุ้ยนุ้ย เพนกวิน และคนอย่าง ไผ่ ดาวดิน มีเป้าหมายแน่นอน

โดยพื้นฐานก็เพราะเล็งเห็นว่าการเคลื่อนไหว ของพวกเขาผิดกฎหมาย มีความล่อแหลมและอาจกลายเป็นอันตรายใหญ่หลวงในทางการเมือง

การจับดำเนินคดีเป็นเรื่องที่ “เข้าใจ” ได้

แต่ที่สังคมเริ่มเกิดความแคลงคลางและกังขาขยายตัวกว้างขวางมากยิ่งขึ้นเป็นลำดับก็คือ ทำไมจับแล้วจะต้อง “คุมขัง” ทั้งๆ ที่ยังไม่มีการพิพากษาว่าผิดจริงหรือไม่

ทำไมต้องกระทำรุนแรง แข็งกร้าวขนาดนั้น

คําตอบของคำถามนี้สามารถสัมผัสได้จากท่าที อันรุนแรง แข็งกร้าวของทางการ

รู้ได้โดยอัตโนมัติว่าต้องการให้เกิดความกลัว โดยเฉพาะเยาวชนที่ประสบการณ์ไม่มากนักอย่าง นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือสุภาพสตรีอย่าง น.ส. รุ้ง ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล

แต่กับคนอย่าง ทนายอานนท์ หรือ ไผ่ ดาวดิน อาจไม่ได้ผล

เพราะ นายอานนท์ นำภา ผ่านประสบการณ์คดีความทั้งโดยตนและว่าความให้คนอื่นมามากแล้ว ขณะที่ ไผ่ ดาวดิน ก็เคยติดคุกตั้งแต่ยังเป็นนักศึกษา

คำถามที่ตามมาโดยพลันก็คือ แล้วพวกเขา “กลัว” หรือไม่

การยืนขึ้นอ่านแถลงการณ์ของ นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ แสดงแจ้งชัดว่า ไม่ได้กลัว

ยิ่งเป็นการอ่านพร้อมกับแจกแจงความไม่ชอบ ด้วยหลักกฎหมาย ความไม่ชอบด้วยหลักยุติธรรม นั้นมีเป้าหมายโดยตรงอยู่แล้วว่าต้องการอะไร

แต่การโยนระเบิดเวลาว่าด้วย “อดอาหาร” ที่ ตามมา

เด่นชัดเป็นอย่างยิ่งว่า นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ มิได้งอก่องอขิง ไม่มีการต่อสู้อะไรเลย เพียงแต่ว่ากระบวนการต่อสู้ในแบบ “อดอาหาร” ดำเนินไปตามหลักอหิงสา ไม่รุนแรง

จึงเท่ากับว่า นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ ไม่ยอมตกเป็นเป้านิ่ง

สภาพการณ์ทางการเมือง สภาพการณ์ทางการข่าวจึงไม่เคยหยุดนิ่ง

ไม่ว่ากลุ่มของ นายอานนท์ นำภา นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ จะอยู่ที่ไหน อยู่บนท้องถนน อยู่ภายในกรงขัง พวกเขาก็พร้อมแปรพื้นที่เหล่านั้นเป็นเหมือนสมรภูมิแห่งการต่อสู้

ความเป็นจริงทั้งหมดนี้จะให้คำตอบได้ว่าควรปฏิบัติอย่างไร

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน