บี้คลังล้วงเงินออมคนรวยอุ้มเศรษฐกิจ
รองนายกฯสั่งออกมาตรการกระตุ้นใช้จ่าย-ปั้นจีดีพี4%
รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน สั่งกระทรวงการคลังศึกษามาตรการกระตุ้นให้ประชาชนนำเงินออมส่วนเกิน ในระบบที่เติบโตสูงถึง 11% ออกมาใช้จ่าย เพื่อนำเม็ดเงินเข้ามาช่วยประคองให้เศรษฐกิจปีนี้เติบโตให้ได้ตามเป้าหมายรัฐบาลที่ 4% พร้อมเร่งเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ
นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน กล่าวปาฐกถาพิเศษ “พลิกโควิดเป็นโอกาส ประเทศไทยไปต่อ” จัดโดยน.ส.พ.มติชน ว่าขณะนี้ได้มอบหมายให้กระทรวงการคลังเร่งหามาตรการกระตุ้นให้ประชาชนนำเงินออมที่มีอยู่ออกมาจับจ่ายใช้สอย ในลักษณะร่วมจ่าย หรือโคเพย์ (Co-pay) ระหว่างรัฐกับประชาชน เพื่อช่วยประคับประคองเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวได้ในช่วงท้ายของโควิด-19
“มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่อยู่ระหว่างศึกษารายละเอียด แต่การส่งเสริมให้คนนำเงินออมออกมาใช้ไม่ได้บอกว่าให้ประชาชนเลิกออม แต่ปัจจุบันเงินออมเติบโตสูงถึง 11% จึงอยากให้นำเงินออมส่วนเกินจากเงินออมปกติที่โต 3% ออกมาใช้จ่ายช่วยให้มีเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจของประเทศมากขึ้น และประชาชนก็ได้สินค้าหรือบริการในราคาย่อมเยา”
ดังนั้นปี 2564 จึงเป็นปีสำคัญที่คนไทยต้องดึงศักยภาพเงินออมออกมาจับจ่ายใช้สอย และต้องเป็นเจ้าบ้านที่ดีเชิญชวนนักท่องเที่ยว นักลงทุนเข้ามาในไทยมากขึ้น เป็นการนำทรัพยากรที่มีอยู่มาเติมเต็มเศรษฐกิจไทยที่ขาดหายไป 1% หรือประมาณ 1.5-1.6 แสนล้านบาท
จากที่หลายหน่วยงานประเมินเศรษฐกิจไทยจะโตได้ 2.7-3% ให้สามารถขยายตัวได้ 4% ตามเป้าหมายที่วางไว้ เป็นโจทย์ท้าทายความสามารถในการบริหารประเทศของรัฐบาล และเป็นการส่งสัญญาณให้นักท่องเที่ยวและนักลงทุนมั่นใจประเทศไทยท่ามกลางวิกฤตที่เกิดขึ้น
นอกจากนี้ ยังศึกษาแนวทางกระตุ้นการใช้เงินออมจากต่างชาติ ที่เข้ามาใช้ชีวิตหลังวัยเกษียณในประเทศไทยด้วย อีกทั้งในการประชุมศูนย์บริการสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบโควิด-19 (ศบศ.) วันที่ 26 มี.ค.นี้ จะเสนอมาตรการเปิดประเทศอย่างเป็นระบบรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเฉพาะกลุ่มที่มีความเสี่ยงต่ำ
โดยใช้จังหวัดภูเก็ตที่เสนอตัวเป็นพื้นที่ทดลองเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นต้นแบบที่มีศักยภาพ มีคุณภาพด้านระบบดูแลนักท่องเที่ยวที่ดีทั้งความปลอดภัยและการบริการ คาดจะมีความชัดเจนเร็วๆ นี้ เพื่อให้มีผลบังคับใช้ก่อนช่วงปลายปีนี้
นายสุพัฒนพงษ์กล่าวเพิ่มเติมว่า การเปิดประเทศไม่ใช่เปิด 100% แต่เปิดรับเฉพาะนักท่องเที่ยวที่อาจได้รับการฉีดวัคซีนแล้วเข้ามาในบางพื้นที่บางจังหวัดที่มีความพร้อมรับแบบสมัครใจ เช่น การเปิดไฟลต์บินตรงไปเที่ยวในจังหวัดภูเก็ต หรือสมุย ขึ้นอยู่กับผู้ประกอบการและประชาสังคมในพื้นที่ ไม่บังคับ
อีกทั้งมีการรายงานความคืบหน้ามาตรการด้านสินเชื่อช่วยเหลือ ผู้ประกอบการและโครงการพักหนี้พักทรัพย์ที่รัฐบาล รวมถึงแนวทางการอำนวยความสะดวกในการประกอบธุรกิจแก่ภาคเอกชนด้วย
