นางงามสหรัฐ-เมียนมา – โดดเด่นบนเวที สำหรับมิสแกรนด์ สหรัฐอเมริกา และมิสแกรนด์ เมียนมา เมื่อเธอทั้งสองต่างเรียกร้องสันติภาพบนเวทีการประกวดมิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล 2020 รอบตัดสิน ซึ่งจัดขึ้นที่โชว์ ดีซี ฮอลล์ ค่ำคืนวันที่ 27 มี.ค.ที่ผ่านมา
อัลเบน่า แอพเพีย สาวงามจากสหรัฐอเมริกา คว้ามงกุฎมิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล คนล่าสุดไปครอง ปัจจุบันอายุ 27 ปี จบการศึกษาด้านแฟชั่นจากมหาวิทยาลัย แรดฟอร์ด ประเทศกานา เธอเป็นสาวลูกครึ่งกานา-อเมริกัน เป็นทั้งนักร้อง นางแบบ และนางงามที่ผ่านการประกวดมาหลายเวทีทั้งในระดับภูมิภาค ระดับประเทศ และระดับนานาชาติ
ในปี 2013 อัลเบน่าติดอันดับท็อปโมเดลโลก ต่อมาในปี 2014 เธอคว้ามงกุฎมิสยูนิเวิร์สกานา เธอมีความสามารถด้านการร้องเพลง เคยออกอัลบั้มแรกในปี 2015
ในช่วงตอบคำถามรอบ 3 คนสุดท้ายซึ่งถามว่าหากคุณเหลือวัคซีนโควิด-19 เพียง 1 โดส คุณจะเลือกให้เด็กอายุ 15 ปี หรือคนสูงอายุ 70 ปี เพราะอะไร อัลเบน่าตอบว่าฉันเลือกให้วัคซีนแก่เด็กอายุ 15 ปี เพราะฉันเชื่อว่าเด็กคืออนาคต พวกเขาจะสร้างโลกที่ดีกว่าเดิม และจะเป็นแบบอย่างที่ดีให้คนรุ่นหลัง เขาจะเปลี่ยนแปลงโลก เราต้องเปลี่ยนแปลงโลกของเรา ก่อนกล่าวเป็นภาษาไทยปิดท้ายว่า “พวกเราต้องการสันติกลับคืนมาเพื่อโลกของเรา”
ภายหลังคว้ามงกุฎลงจากเวที อัลเบน่าให้สัมภาษณ์ว่า “ตื่นเต้นมากๆ (ภาษาไทย) ฉันรู้สึกตื่นเต้นมาก ฉันเชื่อว่าสิ่งที่ทำให้ได้รับตำแหน่งคือการทุ่มเท ฉันพยายามคว้ามงกุฎในการประกวดนางงามนานาชาติมาตลอด 3 ปี การเพิ่มพูนประสบการณ์เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ฉันประสบความสำเร็จในวันนี้ ฉันภูมิใจในความเป็นผิวสีของตัวเอง สิ่งแรกที่อยากทำหลังได้รับตำแหน่งคืออยากออนไลน์เพื่อคุยกับแฟนๆ ที่สนับสนุนมาตลอด เพื่อตอบแทนกำลังใจจากแฟนๆ เหล่านั้น” เธอยังกล่าวเป็นภาษาไทยถึงแฟนชาวไทยด้วยว่า “ฉันรักคุณ ฉันรักประเทศไทย ขอบคุณค่ะ” ที่สนับสนุนฉัน
อัลเบน่าเผยถึงเหตุผลที่เลือกเรียนภาษาไทยว่า เรียนภาษาไทยเป็นระยะเวลา 4 เดือน เพราะต้องการจะอยู่ที่นี่ พร้อมกล่าวเป็นภาษาไทยว่า “ฉันเรียนพูดภาษาไทยเพราะฉันอยู่ในประเทศไทย (หลังจากนี้) 1 ปี”
สิ่งที่เธออยากทำหลังคว้าตำแหน่ง มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล 2020 “ฉันอยากใช้พื้นที่ตรงนี้สื่อสารไปยังสาธารณชนให้ตระหนักว่าชีวิตคนผิวดำก็มีค่า รวมถึงกระแสต่อต้านคนเอเชีย”
ในเวทีการประกวดครั้งนี้ พิธีกรเชิญ ฮาน เลย์ มิสแกรนด์ เมียนมา ออกมากล่าว สุนทรพจน์แสดงเจตนารมณ์ตามคอนเซ็ปต์ “ยุติสงครามและความรุนแรง” โดยมิสแกรนด์ เมียนมา กล่าวพร้อมน้ำตาว่า “เป็นเรื่องยากของฉันที่ต้องมายืนบนเวทีนี้ ตอนนี้ เพราะเราต้องพูดถึงความเศร้าและความเสียใจเกี่ยวกับสถานการณ์ขณะนี้ในประเทศเมียนมาที่รักของฉัน ฉันรู้สึกเสียใจมากกับการที่มีคนเสียชีวิตบนท้องถนน ทุกคนควรอยู่ในประเทศที่รุ่งเรือง สงบสุข ในการที่จะเป็นเช่นนั้นผู้นำไม่ควรใช้อำนาจ เพราะเหตุใดผู้คนที่บริสุทธิ์ หญิงสาว และเด็ก จะต้องมาเสี่ยงชีวิต ขณะที่ฉันยืนอยู่บนเวทีนี้มีผู้คนจำนวนมากต้องเสียชีวิตมากกว่า 100 คนในวันนี้ ในขณะที่ทุกคนอยู่บนถนนเรียกร้องประชาธิปไตย ฉันก็อยู่บนเวทีในคืนนี้เพื่อเรียกร้องประชาธิปไตยเช่นกัน ขอให้นานาชาติโปรดจับตามองสถานการณ์ประเทศของเรา ขอบคุณที่ให้โอกาสฉันพูด ขอให้โลกช่วยพม่าให้เป็นโลกที่ดีขึ้นสำหรับคนรุ่นใหม่ และนำสันติภาพกลับมาให้เมียนมาด้วย”
จากนั้นมิสแกรนด์ เมียนมา ร้องเพลง “Heal the World” ของไมเคิล แจ๊กสัน ที่มีความหมายเชิญชวนทุกคนร่วมเยียวยาโลกนี้ให้เป็นสถานที่ที่ดีขึ้น ทั้งกับคุณและกับฉัน และมนุษย์ทุกสีผิว
สำหรับสาวงามผู้คว้าตำแหน่งรองอันดับ 1-4 ตามลำดับ ได้แก่ มิสแกรนด์ ฟิลิปปินส์ กัวเตมาลา อินโดนีเซีย และบราซิล โดยมิสแกรนด์ บราซิล ลาล่า เกส ยังคว้ารางวัลชุดว่ายน้ำยอดเยี่ยม ขณะที่ น้ำ พัชรพร จันทรประดิษฐ์ มิสแกรนด์ ไทยแลนด์ สร้างผลงานคว้ารางวัลชุดประจำชาติยอดเยี่ยม ร่วมกับมิสแกรนด์ ญี่ปุ่น และกัวเตมาลา, ชุดราตรียอดเยี่ยมตกเป็นของมิสแกรนด์ เม็กซิโก ขณะที่มิสแกรนด์ มาเลเซีย คว้ารางวัลป๊อปปูลาร์โหวตไปครอง
