การศึกษา สะสมพระเครื่อง – สวัสดีครับ ท่านผู้อ่านที่รักทุกท่าน การศึกษาสะสมพระเครื่องส่วนใหญ่จะเริ่มด้วยความศรัทธาในพระเครื่องนั้นๆ ต่อมาก็เป็นการเสาะหาเพื่อนำมาบูชา และแน่นอนว่าก็มีทั้งพระเก่าพระใหม่ อีกทั้งพระปลอมหลอกลวงปะปนกันไป ซึ่งก็เป็นอย่างนี้กันมานานตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตายายมาแล้ว
ในสมัยก่อนเรื่องแหล่งข้อมูลในการศึกษาก็มีน้อย หนังสือที่เกี่ยวกับพระเครื่องก็มีน้อยมาก รูปส่วนใหญ่ก็มีแต่รูปขาวดำและมีรูปน้อยมากการที่จะรู้ว่าพระแบบนั้นแบบนี้จะมีรูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไรก็ค่อนข้างยาก อีกทั้งตำราหรือหนังสือพระบางเจ้าก็เป็นข้อมูลที่ไม่ถูกต้องก็มี ซึ่งเรียกข้อมูลมั่วๆ ไม่ถูกต้องนั้นก็มีมานานแล้ว การที่จะรู้ว่าพระแบบไหนเป็นอย่างไร อย่างไหนถูกก็ต้องเข้าไปที่สนามพระ
สมัยก่อนสนามพระในกรุงเทพฯ ก็อยู่ที่วัดมหาธาตุฯ สนามหลวงเป็นแหล่งรวมเซียนพระและแผงพระมากที่สุด ก็มีทั้งเซียนจริงเซียนเก๊อยู่ปะปนกันไป ก็ต้องเข้าไปพูดคุยสอบถามหรือลองเช่าหา ก็โดนพระปลอมกันไปบ้างแท้บ้าง กว่าจะพอรู้ว่าต้องเข้าไปคุยกับใครหรือเช่าหากับใครก็โดนของปลอมกันไปพอสมควร ผิดกับในสมัยนี้ ที่มีโซเชี่ยลค้นหาดูก่อนได้
วิธีง่ายๆ เริ่มแรกถ้าเรายังไม่มีความรู้อะไรเลยก็เขาไปค้นหาในกูเกิลได้ อยากรู้เรื่องพระอะไรก็เข้าไปค้นหาดู แต่ต้องอ่านดูเยอะๆ เนื่องจากข้อมูลมีทั้งจริงและเท็จ อย่าเพิ่งเชื่อข้อมูลไหน ดูหลายๆ ข้อมูลเก็บข้อมูลไว้คร่าวๆก่อนเราจะได้ข้อมูลที่มีทั้งขัดแย้งกันและไปทำนองเดียวกัน อีกทั้งก็จะพอทราบราคาของพระนั้นๆ ไปด้วย
ต่อจากนั้น ต้องเข้าไปในสนามพระหรือปัจจุบันเรียกกันว่าศูนย์พระ ก็มีอยู่หลายที่เข้าไปเดินดูสอบถามร้านที่มีพระแบบที่เราสนใจ เราพอมีข้อมูลที่ค้นหามาก่อนแล้วอยู่บ้างก็พอจะมีข้อสอบถามเขาได้เดินดูหลายๆ เจ้า เริ่มแรกที่จะเช่าหาก็ดูร้านที่น่าเชื่อถือหน่อย สนนราคาก็อาจจะสูงกว่าที่เราเคยค้นหาดูหรือตั้งใจไว้ก็ไม่เป็นไร ของดีราคาถูกกว่าความจริงนั้นไม่มีอยู่ในโลกอยู่แล้วครับ แต่ขอให้เขารับรองถ้ามีปัญหาต้องคืนได้
หลังจากนั้นก็ลองนำพระที่เราเช่ามา ไปทดลองปล่อยให้คนอื่นศูนย์อื่นที่ไม่ได้อยู่สถานที่เดียวกันเช่าดู ราคาที่ตั้งสูงกว่าที่เราเช่าหามาเล็กน้อยพอ ถ้าเป็นพระแท้ต้องมีราคาที่เขาต่อรองแน่ แบบนี้เรียกว่ามีมูลค่ารองรับ และก็พอจะแน่ใจได้ว่าพระของเรานั้นแท้แน่ ถ้าที่อื่นเขามีราคาต่อรองเราก็ไม่ต้องขายยืนราคาไว้เพราะจุดประสงค์จริงๆ เราก็ไม่ได้อยากจะขาย แต่ถ้าเขารับเช่าในราคาที่เราตั้งไว้ก็ขายให้เขาไปเราก็ได้กำไรนิดหน่อย แต่ก็จะรู้ว่าร้านที่เราไปเช่าพระมานั้นใช้ได้ ก็ค่อยไปหาเขาใหม่และเช่าหาหรือคบหากันต่อไปได้
เมื่อได้พระที่แท้ถูกต้องตามมาตรฐานมาแล้ว ก็เข้าไปสอบถามเรื่องการดูพิจารณาว่าแท้อย่างไรกับร้านที่เราไปเช่าพระมา เขาก็จะยินดีบอกให้เรารู้ได้ เพราะเราคือลูกค้าของเขา สงสัยอะไรก็ถามเขาได้ แต่ถ้าเช่าพระมาแล้วนำไปลองปล่อยให้ที่อื่นๆ ดูกลับไม่มีใครสนใจต่อรองเลยก็ทำแบบเดียวกันอีกสัก 2 – 3 เจ้า ถ้าไม่มีใครสนใจเลยก็รู้ได้เลยว่าพระที่เช่าหามานั้นผิดไม่ถูกต้องตามมาตรฐาน ก็นำไปคืนร้านที่เราเช่าหามา ก็ต้องเสียเวลากันหน่อย แต่สิ่งที่เราได้นั้นก็คือรู้ว่าร้านนี้คนนี้ใช้ได้หรือไม่อย่างไร
ถ้าได้ร้านพระเครื่องที่ดีแล้วก็พูดคุยกับร้านอื่นๆ ดูบ้าง สอบถามเรื่องพระชนิดอื่นดูบ้างเราก็จะได้รู้จักกับคนดีๆ อีกหลายเจ้า สอบถามและเช่าหาพระอื่นๆ ได้อีก ไปขอความรู้เรื่องพระนั้นๆ ที่เราสนใจเราก็จะได้ความรู้ที่แท้จริง ถูกต้องตามมาตรฐานที่มีมูลค่ารองรับ เมื่อเช่าพระจากเซียนมาใหม่ๆ มูลค่าที่เราได้มานั้นก็คงยังไม่มีมูลค่าเพิ่มแน่ เพราะราคาขายออกกับราคารับซื้อเข้านั้นก็คงมีส่วนต่างกันอยู่ แต่ถ้าเราได้พระแท้ๆ มาแล้ว และเป็นพระที่มีความนิยมเมื่อเก็บไว้หลายๆ ปี มูลค่าจะเพิ่มขึ้นและมีส่วนต่างยิ่งมากปีแล้วนั้นก็จะมีมูลค่าเพิ่มมากขึ้นครับ
ผมเองในช่วงเศรษฐกิจแบบนี้ ก็มีพระบางอย่างมูลค่าลดลงมาทั้งๆ ที่เป็นพระยอดนิยม พระบางอย่างที่ผมพอเก็บได้ก็ยังเช่าหาเอาไว้บ้าง ก็เลือกเอาที่เราชอบและศรัทธาด้วย ผมเองก็ดูไม่ค่อยเป็นหรอกครับเพียงแต่เลือกร้านที่น่าเชื่อถือและไว้ใจได้ ก็ดูจากประวัติและอดีตที่เคยเช่าหากันมา เลือกเก็บไว้บ้าง เพราะช่วงนี้พระบางอย่างมูลค่าลดลง ถ้าจะพูดถึงมูลค่าเพิ่มก็คิดคำนวณดูว่าเก็บไว้สัก 4-6 ปี มูลค่าก็น่าจะกลับขึ้นมาและมีมูลค่าเพิ่มแน่ๆ ก็เลือกเก็บๆ ไว้บ้าง เพราะไม่แน่พอแก่กว่านี้อีกสักหน่อย ทำมาหาเงินไม่ได้แล้ว ก็คงต้องนำไปให้เขาเช่าหา เพื่อนำเงินมาเลี้ยงตัวในยามแก่ได้บ้าง เล่นหาสะสมพระแท้ถูกต้องตามมาตรฐานมูลค่ารองรับก็ดีแบบนี้ เช่าไปแล้วก็ยังคงมีมูลค่ารองรับตลอดมากน้อยก็ว่ากันไปตามความนิยม
ครับเล่นหาศึกษาสะสมพระแบบที่เป็นมาตรฐานมีมูลค่ารองรับดีกว่า ผมว่าน่าจะถูกต้องกว่า และเป็นพระแท้แน่นอนเชื่อมั่นได้ ดีกว่าไปเช่าพระที่ไม่มีมูลค่ารองรับเพ้อฝันไปเอง พอมีความจำเป็นจะนำไปออกตัวให้เช่าก็ไม่มีใครรับเช่า อกหักซ้ำสองเลยครับ
วันนี้ผมนำรูปพระหลวงปู่ทวดวัดช้างให้ รุ่นหลังเตารีดพิมพ์ใหญ่ ปี พ.ศ.2500 มาให้ชมครับ
ด้วยความจริงใจ
แทน ท่าพระจันทร์
