เพื่อไทยผิดหวังปรับครม.ไม่ฟื้นศก. – เมื่อวันที่ 30 มี.ค. นายกฤษฎา ตันเทอดทิตย์ ส.ส.หนองคาย คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ว่า รู้สึกผิดหวังกับการปรับครม. ที่จะไม่สามารถแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของไทยได้ ทั้งที่คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทยเคยเสนอให้ปรับเปลี่ยนทีมเศรษฐกิจใหม่หมด เพราะผลงานที่ผ่านมาล้มเหลวอย่างหนัก ย่ำแย่ ยิ่งกว่าสมัยนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เป็นรองนายกรัฐมนตรีมาก โดยธนาคารแห่งประเทศไทยได้ปรับลดคาดประมาณเศรษฐกิจไทยปี 2564 เหลือเพียง 3% ขณะที่ธนาคารโลกปรับลดเหลือเพียง 3.4%

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมมีปัญหาในการบริหารเศรษฐกิจอย่างมาก เพราะขาดบุคลากรที่มีความรู้ ความสามารถที่จะเห็นแนวทางในการฟื้นเศรษฐกิจให้ครบทุกกรอบได้ คิดได้แค่การขายฝันว่าเศรษฐกิจจะโต 4% จากการลงทุนจากต่างประเทศ และคนไทยควักเงินออมมาใช้ ซึ่งเป็นไปไม่ได้ และไม่ต่างจากนายสมคิดที่เคยขายฝันมา 5 ปีแต่ไม่เคยทำได้จริง ดังนั้น พล.อ.ประยุทธ์น่าจะต้องปรับครม.ด้านเศรษฐกิจยกชุด เพราะยังคงเป็นจุดอ่อนของรัฐบาล ประชาชนจะลำบากขึ้นเรื่อยๆ จะทำให้ทนกันไม่ไหวแล้วต้องออกมาไล่รัฐบาลกันมากขึ้น

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงเสียงวิจารณ์กรณี รมว.พาณิชย์กับ รมช.พาณิชย์ มาจากพรรคเดียวกันว่า เป็นดุลพินิจของพล.อ.ประยุทธ์ ในการพิจารณา ก่อนหน้านี้ ตนมี รมช.จากคนละพรรคยังสามารถทำงานด้วยกันได้เป็นอย่างดี เมื่อมี รมช.จากพรรคเดียวกันจึงสามารถทำงานได้ ไม่มีปัญหาอะไร

ส่วนที่มีความเป็นห่วงเรื่องการถ่วงดุลนั้น ระบบรัฐสภาสามารถ ตรวจสอบถ่วงดุลได้ตามรัฐธรรมนูญ เพราะผู้มีหน้าที่ตรวจสอบฝ่ายบริหารเป็นหน้าที่ของรัฐสภา ทั้ง ส.ส.และ ส.ว. การตรวจสอบรุนแรงที่สุดคือการอภิปรายไม่ไว้วางใจ หรือตั้งกระทู้ถามสามารถทำได้อยู่แล้ว

นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวแสดงความยินดีกับ น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการคนใหม่ พร้อมทั้งชื่นชมการประกาศ 12 นโยบายการจัดการศึกษาและ 7 มาตรการเร่งด่วน ที่นับได้ว่าเตรียมตัวมาเป็นอย่างดี ตรงกับสถานการณ์และสภาพปัญหาการศึกษาของประเทศในขณะนี้

นอกจาก 12 นโยบาย 7 มาตรการเร่งด่วนแล้ว ตนในฐานะเป็นอดีต รมว.ศึกษาธิการ เป็นส.ส. และเป็นรองประธานกรรมการขับเคลื่อน พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ ภาคประชาชน ขอเสนอให้ทำทันที 5 ประการคือ 1.เร่งรัดให้ครม.เสนอ พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 270 ที่นายกฯ มอบหมายให้กฤษฎีกาและตัวแทนครูร่วมกันพิจารณา เข้ารัฐสภาตอนเปิดสมัยประชุมนี้ทันที 2.เรียกขวัญกำลังใจครู นักเรียนกลับมา โดยการเดินหน้าทำงานหนักและชูธง 12+7+5 ทันที

3.สั่งสอบสวนกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) และย้ายเลขาธิการและคณะไปประจำสำนักงานรัฐมนตรีเพื่อความยุติธรรมทันที 4.สั่งสอบสวนกระบวนการหาผลประโยชน์จากการสั่งซื้อหนังสือเรียนไม่ครบ และหาผลประโยชน์จากการใช้งบเหลือจ่ายปี 2563 และปี 2564 หลายพันล้านของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และย้ายเลขาธิการและคณะเพื่อความยุติธรรมทันที 5.สั่งสอบสวนกรณีแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูงที่มีข่าวการซื้อขายตำแหน่งโดยเฉพาะการแต่งตั้งผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาผู้บริหารการศึกษา (ไร่ขิง)

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน