คอลัมน์ เอเชี่ยนสตาร์

ได้เวลาร่วมภารกิจสำคัญกับ 2 หนุ่มสุดยอดนักแสดงแถวหน้าเกาหลี กงยู และ พัคโบกอม ที่โคจรเจอกันครั้งแรกใน ภาพยนตร์แอ๊กชั่นไซ-ไฟ พล็อตล้ำสดใหม่ “Seobok ซอบก มนุษย์อมตะ” กับการค้นหาความหมายของชีวิตและความเป็นอมตะ

อียงจู ผู้กำกับฯ บอกว่า “ตั้งแต่จุดเริ่มต้นของมนุษยชาติ มนุษย์ถวิลหาความเป็นอมตะ แต่มันเป็นสิ่งไกลเกินเอื้อม จนในที่สุดความตายล้วนเป็นสิ่งที่มนุษย์ทุกคนต้องเผชิญ เป็นโชคชะตาที่ไม่มีใครหนีพ้น”

“จักรพรรดิจิ๋นซีหลงใหลความเป็นอมตะ เขาส่ง ซอบก ขุนนางคู่ใจไปตามหาน้ำอมฤตที่ทำให้ผู้ดื่มไม่มีวันตาย ผมตั้งชื่อหนังตามขุนนางคนนี้ เพราะเขาเป็นตัวแทนความอยากเอาชนะความตายมนุษย์ ซึ่งไม่มีทางเป็นจริง”

สำหรับผู้กำกับฯอียงจู หลังดังเป็นพลุแตกจากผลงานแจ้งเกิด Living Death (2009) ภาพยนตร์สยองขวัญสุดล้ำ เขาต่อยอดด้วยผลงานเรื่อง Architecture 101 (2012) ซึ่งผสมความรักครั้งแรกเข้ากับคอนเซ็ปต์ของสถาปัตยกรรม หนังประสบความสำเร็จทั้งด้านรายได้และคำวิจารณ์

ตอนนี้อียงจูกลับมาอีกครั้งด้วยผลงานเรื่องที่สาม Seobok

การเลือกกงยูมาเจอพัคโบกอม ถือเป็นการดูโอที่น่าจับตามองมากที่สุดครั้งหนึ่งของวงการหนังเกาหลี แฟนๆ ฮือฮามากตอนประกาศโปรเจ็กต์แรกๆ เมื่อถามอียงจูว่าเห็นเคมีอะไรในตัวผู้ชายสองคนนี้ คาแร็กเตอร์ความเป็น “ผู้ปกป้อง” ของกงยูในหนัง มีส่วนคล้ายตัวจริงของเขามากไหมเวลาอยู่ในกองถ่าย ผู้กำกับฯคนดังบอกว่า

“ใช่ครับ เขาเป็นนักแสดงที่เอาใจใส่คนอื่น มีน้ำใจ ละเอียดอ่อน ดูแลคนอื่นดี และมีเซนส์ ทำให้รู้สึกว่าเขาดูแลคนดี ในฐานะผู้กำกับหนัง ผมเองขอบคุณกงยูมาก ตอนอยู่หน้างานกงยูเอาใจใส่โบกอม ตลอด คุณโบกอมก็ตามคุณกงยูแบบพี่ชาย แต่ถ้าได้ดูหนังก็คงเข้าใจว่ากีฮอนไม่ได้เป็นผู้ปกป้องซอบกตลอดนะ ทั้ง 2 คนช่วยกันฝ่าการไล่ล่าไปด้วยกัน ปกป้องซึ่งกันและกัน ต้องไปดูในภาพยนตร์ครับ”

ซอบก (พัคโบกอม) ถูกสร้างขึ้นด้วยการทดลองโคลนนิ่งสเต็มเซลล์และดัดแปลงพันธุกรรม ผ่านการดูแลอย่างใกล้ชิดของนักวิจัย โครงสร้างทางพันธุกรรมพิเศษทำให้โตเร็วกว่ามนุษย์สองเท่า ที่สำคัญทำให้เป็นอมตะ ต้องใช้ชีวิตในห้องทดลองตลอดมา กระทั่งมีคำสั่งให้เคลื่อนย้ายซอบกไปยังฐานลับแห่งใหม่ เพราะขณะที่เขาคืออนาคตของมนุษยชาติ ก็กลายเป็นภัยอันตรายใหญ่หลวงเช่นกัน

นำมาสู่ภารกิจปกป้องซอบกไปสู่สถานที่ปลอดภัย โดยมี มินกีฮอน (กงยู) อดีตสายลับเป็นผู้รับผิดชอบปฏิบัติการครั้งนี้ แต่มันไม่ได้ราบรื่นตามที่คิด เมื่อขบวนขนส่งถูกลอบโจมตี กีฮอนจึงตัดสินใจพาซอบกหนีตาย และนั่นนับเป็นครั้งแรกที่ซอบกได้ออกมาเห็นโลกใบนี้จริงๆ ด้วยตาตัวเอง

“แค่อ่านบทก็เห็นภาพแล้ว ผมว่ามันเป็นหนังเรื่องพิเศษ มอบประสบการณ์ ไม่เหมือนเรื่องไหน เพราะซอบกมีแก่นเรื่องที่คมคาย นี่คือสิ่งที่โดนใจผม” กงยูกล่าว

มินกีฮอน คือชายหนุ่มที่ติดอยู่กับความทรงจำที่ขื่นขมในอดีต ไม่เคยลืมโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นในชีวิต และใช้ชีวิตอยู่กับความกลัวเมื่อต้องรอวันตายไปวันๆ จนได้รับมอบหมายภารกิจสำคัญที่ไม่อาจปฏิเสธได้

ภารกิจครั้งนี้ทำให้กีฮอนได้รับรู้ถึงจุดเปลี่ยนและความสำคัญในการใช้ชีวิต รวมถึงมิตรภาพที่โลกยังไม่เคยได้เห็น

“ผมต้องลดน้ำหนักเพื่อให้เหมือนคนป่วย ที่ชีวิตแขวนอยู่บนเส้นด้าย และยังต้องถ่ายทอดอารมณ์สุดซับซ้อน จนผมคิดว่าผมเป็นกีฮอนจริงๆ และสุดท้ายคุณก็จะยังได้เห็นผมโชว์ลีลาแอ๊กชั่นในฐานะอดีตสายลับอีกด้วย ผมเต็มที่มากๆ เพราะทุกคนตั้งใจและพยายามมาก พวกเขาทำให้ผมรู้สึกว่า จะทำให้ทุกคนผิดหวังไม่ได้” กงยู พูดถึงการเตรียมตัวและการทำงาน

นอกจากนี้เขายังบอกอีกว่า “ภาพยนตร์เรื่องนี้กล่าวถึงชีวิตและความตายมนุษย์ ชีวิตมนุษย์มีขอบเขตจำกัด และด้วยเหตุนี้เอง ผมเชื่อว่าทำให้มนุษย์เกิดความต้องการและก็ความกลัว และการไม่สามารถหลีกหนีจากขอบเขตที่จำกัดของชีวิตได้นั้นมันเป็นโชคชะตาของมนุษย์ ส่วนการพยายามที่จะหลีกหนีจากมันก็เป็นสิ่งที่มนุษย์พยายามทำเช่นกัน”

เมื่อถูกถามถึงการร่วมงานกับ พัคโบกอม รุ่นพี่อย่าง กงยู ก็ตอบว่า “เนื่องจากเรามีช่องว่างระหว่างวัยอยู่ เวลาผมมองเขาจะคิดถึงตัวเองในตอนอายุเท่านี้ แม้จะเป็นการพบกันและทำงานร่วมกันครั้งแรก แต่ผมคิดถึงช่วงอายุนั้นว่าผมเคยมีประสบการณ์อะไรและคิดว่า ‘ตอนนี้โบกอมมีความคิดแบบไหนและเขามีความคิดแบบไหนในฐานะนักแสดง?’ ซึ่งมันก่อให้เกิดความผูกพันแบบพิเศษ”

“ภายนอกเขาเป็นคนมีความรับผิดชอบสูง สดใส มีรอยยิ้มอยู่เสมอ แต่ผมเชื่อว่าเขามีความกังวลบางอย่างอยู่ภายใน ที่ไม่สามารถแสดงให้คนอื่นเห็นได้”

“หลายคนกังวลว่าพัคโบกอมดูใจดีสดใสด้วยภาพลักษณ์ที่เราเห็นเขา แต่เรื่องนี้เขาเปลี่ยนมาเป็นซอบกได้ยอดเยี่ยม และจะได้เห็นลุกส์เขาที่เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ผมเองเซอร์ไพรส์มากตอนที่ถ่ายทำด้วยกัน พวกเราถึงกับพูดกับโบกอมว่า คุณต้องเล่นเป็นตัวร้ายแล้วล่ะ สายตาคุณมันโหดใช้ได้เลย ในฐานะเพื่อนนักแสดง ผมทึ่งเขานะ”

ด้านผู้กำกับฯ อียงจู พูดถึง กงยู ว่า “กงยู เป็นนักแสดงที่เสริมมิติให้ตัวละคร เขาช่วยผมให้ทำงานได้ง่ายขึ้น”

ส่วนอีกหนึ่งหนุ่ม พัคโบกอม ในบท ซอบก มนุษย์อมตะอายุเพียง 10 ขวบ!!

“โบกอมทำให้ผมแปลกใจทุกครั้งที่กำกับฯเขา พลังการแสดงเขาเหลือล้นจริงๆ” ผู้กำกับฯ กล่าวถึงพัคโบกอมอย่างชื่นชม

ตอนนี้พัคโบกอมกำลังปฏิบัติหน้าที่ รับใช้ชาติอยู่ในกองทัพเรือ มีกำหนดปลด ประจำการเดือนเมษายน ปี 2565

ทั้งนี้เจ้าตัวส่งคลิปวิดีโอร่วมแสดงความยินดีในวันแถลงข่าวภาพยนตร์ ซึ่งเขาไม่สามารถมาร่วมงานได้

“ผมรู้สึกดีใจมากกับทุกคน รวมถึงคุณ อียงจู ผู้กำกับฯ ที่ให้คาแร็กเตอร์ตัวละคร ซอบก กับผม และแนะนำผม คุณกงยูที่สอนผมหลายอย่างตอนที่เราทำงานด้วยกัน โจอูจิน (รับบท หัวหน้าอัน ในเรื่อง) ที่ขี้เกรงใจมากๆ และทีมงานทุกคนที่ทำงานอย่างหนัก ผมมีความสุขมากที่ได้ทำงานร่วมกับพวกคุณ หวังว่าทุกคนจะให้ความสนใจและความรักกับหนังของพวกเราครับ”

ผู้กำกับฯ ยังใจดีแอบแย้มเรื่องน่ารักๆ ของสองหนุ่มฮอตระหว่างการถ่ายทำให้ฟังด้วย

“โบกอมสนิทกับกงยูแบบพี่ชาย คุณกงยูก็เอาใจใส่ดูแล และทั้ง 2 คนคุยกันเยอะมาก ผมเองรู้สึกขอบคุณ และมีความสุข ทั้ง 2 คนอยากได้ผลงานที่ดีมาก ช่วงที่ถ่ายทำระหว่างอยู่หน้างานผมก็เอาตัวอย่างที่ตัดต่อชั่วคราวมาให้ดูแล้ว 2 คนก็แชร์ความคิดช่วยผมด้วย”

หนึ่งคนจะปกป้อง อีกหนึ่งโคลนจะถูกทำลาย กับภารกิจสุดท้ายที่ต้องแลกด้วยชีวิตเพื่ออนาคต และความหวังเดียวของมนุษยชาติ มาร่วมสร้างปรากฏการณ์ครั้งใหม่ และออกมาปกป้อง “Seobok ซอบก มนุษย์อมตะ” ได้แล้ววันนี้ทุกโรงภาพยนตร์

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน