บทสรุปคาราบาว คัพ 2020-21 – จบไปแล้วสำหรับฟุตบอลคาราบาว คัพ ฤดูกาล 2020-21 “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เฉือนเอาชนะ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ 1-0 จากประตูชัยของ อายเมริก ลาปอร์กต์ นาที 82 เมื่อวันที่ 25 เม.ย.
ทัพเรือใบสีฟ้าผงาดคว้าแชมป์ไปครองเป็นสมัยที่ 4 ติดต่อกัน (2017-18, 2018-19, 2019-20, 2020-21) และเป็นแชมป์สมัยที่ 8 ในประวัติศาสตร์สโมสร (1969-70, 1975-76, 2013-14, 2015-16, 2017-18, 2018-19, 2019-20, 2020-21) เป็นสถิติสูงสุดของรายการนี้เทียบเท่ากับลิเวอร์พูล ส่วน สเปอร์ยังต้องรอแชมป์แรกของสโมสรนับตั้งแต่ปี 2007-2008 ต่อไป
สำหรับคาราบาว คัพ ฤดูกาล 2020-21 เรียกได้ว่ามีความเปลี่ยนแปลงมากมายนับตั้งแต่ก่อนเริ่มแข่งขัน ทั้งในประเด็นที่ “คาราบาว เครื่องดื่มระดับโลก” ซึ่งเข้ามาสนับสนุนการแข่งขันรายการนี้ตั้งแต่ปี 2017-2018 ได้ประกาศขยายสัญญาสนับสนุนต่อไปอีก 2 ปี คือในปี 2021 และ 2022 เนื่องจากมีการรับรู้ต่อแบรนด์มากขึ้นผ่านทางการแข่งขันเพิ่มขึ้นถึง 106% (อ้างอิงจากสถิติปี 2019) รวมถึงรายได้จากตลาดต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น 45% หลังมีการส่งออกในพื้นที่ใหม่ ทั้งภาคพื้นยุโรป อเมริกา แอฟริกา ออสเตรเลีย และเอเชีย
นอกจากนั้นยังเป็นปีแรกที่แชมป์ของคาราบาว คัพ จะเปลี่ยนจากได้สิทธิ์ไปเล่นในรอบคัดเลือกของฟุตบอลยูโรปา ลีก ไปเล่นในฟุตบอลยูโรปา คอนเฟอเรนซ์ ลีก ซึ่งเป็นฟุตบอลรายการใหม่ของสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า)
หลังการแข่งขันนอกจากสถิติการคว้าแชมป์ของ เรือใบสีฟ้า” แล้วยังเกิดสถิติใหม่ในส่วนบุคคลทั้งการที่ เป๊ป กวาร์ดิโอลา ผู้จัดการทีมสามารถคว้าแชมป์รายการที่ 30 ของอาชีพกุนซือ รวมไปถึง 2 นักเตะอย่าง แฟร์นานดินโญ และเซร์คิโอ อเกวโร ที่ ได้แชมป์คาราบาว คัพ ไปครองเป็นสมัยที่ 6 ซึ่งมากที่สุดในประวัติศาสตร์
“วันนี้เรามีความสุขอย่างไม่น่าเชื่อ เราได้แชมป์ 4 สมัยติดต่อกันในรายการนี้ แม้แฟนบอลยัง ไม่เต็มสนาม แต่พวกเขาส่งเสียงดังมาก ซึ่งมันเป็นอะไรที่ดีขึ้นมากที่ได้เล่น และฉลองต่อหน้าแฟนๆ” เป๊ปกล่าวหลังพาทีมคว้าแชมป์
หลังจากผ่านการแข่งขันมานานกว่า 9 เดือน 90 เกม และทีมเข้าร่วม 92 สโมสร นี่คงเป็นบทสรุปที่สวยงาม และเหมาะสมที่สุดของศึกคาราบาว คัพ ขอแสดงความยินดีกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่เหมาะสมกับบัลลังก์แชมป์สมัยล่าสุด ขณะที่สเปอร์ สิ่งที่พวกเขาต้องการในตอนนี้คงไม่พ้นเรื่องกำลังใจเพราะตลอด 90 นาที “ไก่เดือยทอง” เป็นคู่แข่งที่ดี และแสดงให้เห็นถึงความ “คู่ควร” ที่ก้าวมาถึงตำแหน่งรองแชมป์
