พท.ชงรัฐบาลแก้4เรื่องฟื้นเศรษฐกิจ – เมื่อวันที่ 17 พ.ค. นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองหัวหน้าพรรค เพื่อไทย (พท.) ด้านเศรษฐกิจ ให้สัมภาษณ์ว่า เศรษฐกิจไทยในไตรมาสแรกยังคงติดลบหนักที่ -2.6% ซ้ำเติมจากไตรมาสแรกปีที่แล้วที่ติดลบที่ -1.8% ติดลบ 5 ไตรมาสติดต่อกันแล้ว ขณะที่เศรษฐกิจของประเทศอื่นฟื้นกันแล้ว แสดงถึงความล้มเหลวในการบริหารเศรษฐกิจของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แสดงถึงความอ่อนแอของเศรษฐกิจไทยที่สะสมมาตลอด 7 ปี ไม่มีทางเลยที่ประเทศไทยจะ ฟื้นเศรษฐกิจได้ถ้ายังไม่เปลี่ยนแปลงการบริหารประเทศ

อยากเสนอแนวทางที่ควรดำเนินการเร่งด่วนให้เข้ากับสถานการณ์ในปัจจุบัน ดังนี้ 1.เร่งการกระจายการฉีดวัคซีนอย่างเป็นรูปธรรม ต้องวางแผนการฉีดวันละ 5 แสน-1 ล้านโดสอย่างเป็นระบบ เพื่อให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ ฟื้นเศรษฐกิจ และจะต้องทำให้ประชาชนมั่นใจได้ว่าวัคซีนที่กระจายฉีดมีคุณภาพที่ดี อีกทั้งจะสามารถป้องกันเชื้อโควิดที่กลายพันธุ์ได้ และประชาชนจะต้องมีวัคซีนทางเลือก 2.รัฐบาลต้องมีแนวคิดอื่นๆ ในการฟื้นเศรษฐกิจอย่างเป็นรูปธรรม ไม่ใช่คิดแต่จะแจกเงินอย่างเดียวเพื่อประคองความนิยม แต่เศรษฐกิจไทยกลับ เสื่อมถอยลงตลอด

3.เร่งเจรจาการค้ากับประเทศหลักที่สำคัญที่ไทยทำไม่ได้ และไม่ได้ทำมากว่า 7 ปี เช่น เจรจาเขตการค้าเสรีกับอียู สหรัฐ ออสเตรเลีย เป็นต้น โดยต้องพิจารณาว่าไทยจะได้ประโยชน์อย่างไร เมื่อเทียบกับเรื่องที่จะต้องเสียไป หากประเทศหลักไม่ยอมเจรจากับไทยเพราะปัญหาของผู้นำและความไม่เป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ก็ต้องพิจารณาเปลี่ยนผู้นำและเปลี่ยนรัฐบาล เพื่อให้ประเทศสามารถเดินหน้าได้ 4.ไทยควรแสดงจุดยืนต่อต้านเผด็จการทหารที่ฆ่าประชาชน

ที่พรรคเพื่อไทย นายวิชาญ มีนชัยนันท์ ประธานภาค กทม. แถลงว่า ขณะนี้ยอดสะสมของผู้ติดเชื้อในกรุงเทพฯ สูงกว่า 2 หมื่นราย ยังไม่นับรวมการตรวจหาเชิงรุก ถือเป็นเรื่องอันตราย ดังนั้นพรรคเพื่อไทยมีข้อเสนอแนะให้รัฐบาลและกรุงเทพมหานคร (กทม.) ดังนี้ 1.รัฐบาลโดย กทม.ควรจัดเงินเพื่อช่วยเหลือคนพิการทั่วไปที่ถือบัตรคนพิการจาก 1,000 บาทเป็น 2,000 บาท และผู้ป่วยติดเตียง เนื่องจากขณะนี้กลุ่มเหล่านี้คนดูแลตกงานว่างงานกันมาก โดยมีจำนวนผู้พิการประมาณ 2,090,000 คน และอยู่ในกรุงเทพฯ ประมาณ 100,000 คน

2.รัฐโดยกรุงเทพฯ จัดที่พักให้กับกลุ่มคนพิการที่ติดโควิค-19 ในการรักษาพยาบาลโดยแยกออกจากกลุ่มคนปกติ และถ้าญาติพี่น้องของผู้พิการเกิดติดโควิด ไม่มีผู้ดูแลผู้พิการควรหาสถานที่ดูแลให้เหมาะสม โดยดูแลเรื่องอาหารการกินและเครื่องใช้ให้เรียบร้อย 3.กทม.ควรมอบหมายให้ผอ.เขตเป็นผู้ดำเนินการตรวจสอบบุคคลที่ติดเชื้อในชุมชน รวมถึงไซต์งานต่างๆ และนำรถเข้าไปเช็กผู้ติดเชื้อในชุมชนแทนที่จะให้ผู้ป่วยออกมานอกชุมชน เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด

4.กทม.ควรจัดหาอาหารและอุปกรณ์ในการดูแลประชาชนที่เป็น กลุ่มเสี่ยงกักตัว อยู่ที่บ้าน เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ออกมานอกเคหสถาน 5.รัฐบาลควรจัดทำแผนในการฉีดวัคซีนให้กับแรงงานข้ามชาติโดยเร็วเพื่อเป็นการช่วยเหลือ และป้องกันไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดได้ในแรงงานข้ามชาติในขณะนี้ 6.แรงงานข้ามชาติควรจัดให้มีการประกันสุขภาพ โดยเสียเป็นค่าประกันเผื่อเวลาติดเชื้อโควิด-19 จะได้เป็นค่าใช้จ่ายในการรักษา

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน