‘พลอย’ลุยงาน-ชิลเที่ยวแดนออสซี่ – ต่อสายตรงข้ามทวีปคุยกับสาวหมวยหน้าใส ‘พลอย’ ภัทรากร ตั้งศุภกุล ซึ่งตอนนี้อยู่ที่ออสเตรเลีย ลุยงานถ่ายทำภาพยนตร์ฮอลลีวู้ด Thirteen Lives เรื่องราวทีมฟุตบอล 13 หมูป่าของไทยติดถ้ำ ที่โด่งดังไปทั่วโลก ผลงานโดย รอน ฮาเวิร์ด ผู้กำกับฯรางวัลออสการ์

โอกาสดีได้บินไปทำงานไกลทั้งที สาว ‘พลอย’ เลยขอเก็บเกี่ยวประสบการณ์ให้เต็มที่ ทั้งเรื่องงาน และเรื่องเที่ยว โดยเฉพาะเรื่องหลัง เชื่อว่าหลายคนที่ต้องพึ่งการเที่ยวทิพย์อยู่ในช่วงนี้ อาจมีอิจฉา เพราะทั้งขึ้นเขา เข้าป่า ออกกำลังกาย เที่ยวเล่นริมหาดในชุดว่ายน้ำอวดหุ่นสวย

แต่แม้จะใช้ชีวิตที่โน่นแบบชิลชิล สาว ‘พลอย’ ก็ยังห่วงใยเรื่องสถานการณ์โควิดในเมืองไทย

อยู่ออสเตรเลียได้นานกี่เดือนแล้ว?

พลอย – “ตอนนี้อยู่ที่เมืองโกลด์โคสต์ รัฐควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย บินมาที่นี่ตั้งแต่ 1 มี.ค. กักตัวไป 14 วัน หลังจากนั้นก็ออกมาทำงาน จนถึงตอนนี้จะ 3 เดือนแล้ว เดี๋ยวเดือนหน้าก็กลับเมืองไทยแล้ว”

ต้องเดินทางไปต่างประเทศในช่วงที่สถานการณ์โควิดยังแพร่ระบาด ตอนแรกมีแอบกังวลไหม?

พลอย – “กลัวมากตอนเดินทาง สนามบินมันน่ากลัวแล้วเราต้องนั่งไฟลต์ยาวด้วย กลัวติดจากบนเครื่องบิน แต่ว่ามีการเปลี่ยนเครื่องที่สิงคโปร์เราก็เห็นว่าแต่ละที่มีมาตรการดูแลกันจริงจัง”

แล้วพอไปถึงที่ออสเตรเลีย สถานการณ์ โควิดที่โน่นเป็นยังไงบ้าง?

พลอย – “เมืองอื่นอย่างซิดนีย์ เมลเบิร์นก็มีคนติด แต่ที่โกลด์โคสต์เพื่อนที่อยู่ที่นี่บอกเราว่าไม่เคยมีประวัติเลยว่ามีคนติด ส่วนใหญ่ก็จะมีที่บริสเบนใกล้ๆ แต่เมืองที่เราอยู่คือไม่มี อันนี้ก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไรเหมือนกัน คนในเมืองนี้อาจจะดูแลตัวเองดี จำได้ว่าตอนที่เครื่องลงที่บริสเบนแล้วก็นั่งรถมาที่โกลด์โคสต์เพื่อกักตัว นั่งมองข้างทางคือทุกคนใช้ชีวิตปกติ ไม่มีใครใส่แมสก์เลย เราก็แบบที่นี่ไม่ใส่กันเหรอ ทำไมชิลจัง หรือว่าที่นี่ไม่มีจริงๆ ตอนนั้นก็ตกใจ”

“แต่พอกักตัวจนครบ ออกมาอาทิตย์แรกเราก็ยังใส่แมสก์อยู่เพราะกลัว (หัวเราะ) แต่หลังๆ มาไม่มีใครใส่เราก็เลยไม่ใส่แล้ว ซึ่งมันก็ไม่ได้มีอะไร ทำให้การใช้ชีวิตที่นี่ปกติเลย แต่ทุกที่ก็มีมาตรการ อย่างเช่นว่าเวลาไปร้านอาหารหรือไปที่ไหนก็ต้องมีการเช็กอิน แล้วก็ให้ล้างมือและพกเจลแอลกอฮอล์ปกติ แค่ว่าไม่ค่อยมีใครใส่หน้ากากกันเลย น้อยมากที่ใส่ ส่วนเวลาไปทำงานที่ทำงานก็จะให้ตรวจโควิดอาทิตย์ละ 2 ครั้ง ตอนนี้ก็แข็งแรงปกติดี”

อยากรู้ว่าพอเราเป็นคนต่างชาติเข้าไปในเมืองเขา คนที่โน่นมีท่าทีระแวงบ้างไหม?

พลอย – “เห็นหน้าหมวยๆ ใช่มั้ยคะ (ยิ้ม) เราก็เจอบ้างสมมติขึ้นลิฟต์เขาก็จะถอยกรูกันไปอยู่ข้างหลัง อันนั้นคือช่วงแรกๆ ที่มา แต่คนที่นี่ก็ดีนะคะ ครั้งแรกก็แอบกังวลว่าจะโดน Asian Hate หรือเปล่าแต่ก็ไม่มีถือว่าโชคดี แต่ก็รู้ว่าเขาก็กลัวแหละหน้าหมวยๆ แล้วช่วงโควิดมา”

ตามดูในไอจีอิจฉามากเลยเพราะเห็นได้ไปทะเล ไปออกกำลังกายปกติมาก ในขณะที่เมืองไทยต้องเที่ยวทิพย์ไปก่อน?

พลอย – “ไปทะเลไปภูเขาอะไร อย่างงี้ แต่เดี๋ยวเดือนหน้ากลับเมืองไทยก็ได้ไปใช้ชีวิตอยู่ด้วยเป็นเพื่อนแล้วค่ะ (หัวเราะ) ตอนนี้เราอาจจะโชคดีกว่าที่ได้มาทำงานที่นี่เที่ยวได้ก็เลยเที่ยวให้คุ้มเลย ไปออกกำลังกาย ริมทะเล ไปวิ่ง ไปกระโดดเชือก เพราะเดี๋ยวเดือนหน้าก็ต้องกลับแล้ว อยากอยู่ข้างนอกเพราะรู้ว่ากลับไปไทยสถานการณ์มันดูแย่มาก อย่างครอบครัวพลอยก็อยู่บ้านยาวกันเลย”

ได้ไปออกกำลังกายทุกวันเลยไหม?

พลอย – “ช่วงนี้ว่างยังไม่มีถ่ายก็ออกกำลังกายตลอด ไม่งั้นก็ไปเที่ยวทะเล นั่งรถไปนั่นไปนี่คนเดียว ทำทุกอย่างให้คุ้ม โชคดีว่ามีเพื่อนคนหนึ่งอยู่ที่นี่ชื่อโมนิก้าเขาก็จะขับรถพาเราไปนั่นไปนี่”

ได้โทร.กลับมาเช็กสถานการณ์ที่เมืองไทยกับครอบครัวบ้างไหม?

พลอย – “เช็กบ่อยค่ะ เพราะเพื่อนเราที่เมืองไทยก็ติด เพื่อนของพี่ก็ติด เลยห่วงคุณแม่ห่วงพี่ห่วงน้องเพราะทุกคนยังต้องออกไปทำงานอยู่ อย่างพี่เราก็เวิร์กฟรอมโฮมแล้ว แต่น้องชายยังต้องออกไปทำงานอยู่ก็กลัวจะมาติดแม่เพราะแม่อายุเยอะแล้วและมีโรคประจำตัวด้วย”

พอได้ยินข่าวว่าสถานการณ์การระบาดที่เมืองไทยมันเพิ่มขึ้นสูงใจหายไหม?

พลอย – “ใจหายมากค่ะ เพราะก่อนที่เราจะมายังไม่หนักขนาดนี้ เราคิดว่าอาจจะเหมือนปีที่แล้ว แต่กลายเป็นว่าปีนี้หนักกว่าปีที่แล้วอีก เรื่องโรคก็กลัว ไหนจะเรื่องการกินอยู่อีกเพราะทุกคนต้องทำงาน บางคนออกไปทำงานไม่ได้ก็ไม่มีรายได้คิดว่ามันกระทบไปหมดเลย”

เดือนหน้าต้องกลับเมืองไทยแล้วเตรียมตัวยังไงบ้าง?

พลอย – “เราก็ทำใจไว้เลย กลับไปก็ต้องไปอยู่บ้านยาวๆ เพราะว่ากองถ่ายยังไม่เปิด ยังไม่รู้เลยว่าอนาคตเราจะมีงานหรือเปล่า (หัวเราะ) งานจะได้ทำหรือเปล่า จะมีเงินหรือเปล่า ตอนนี้ก็ต้องเก็บเงินสด ต้องตั้งสติเวลาจะซื้อของ อันไหนที่ไม่จำเป็นไม่ต้องซื้อเก็บเงินไว้กินข้าวอย่างเดียว แล้วก็รอดูสถานการณ์ว่ามันจะเป็นยังไง อย่างละครก็มีวางตัวไว้แต่จะเปิดเมื่อไหร่ก็ยังไม่รู้ ฉะนั้นเงินก็ยังไม่ได้แน่นอนเพราะยังไม่ทำงาน”

อยากฝากให้กำลังใจคนไทยในตอนนี้ที่ต้องเจอกับสถานการณ์ โควิดหนักหน่อย รวมถึงเรื่องวัคซีนที่ยังกระจายไม่ทั่วถึง?

พลอย – “เรื่องวัคซีนนี่เป็นอะไรที่พูดยากเลยเพราะมันเป็นสิ่งที่ประชาชนอย่างพวกเราทำเองไม่ได้ เราทำได้แค่ดูแลตัวเอง ดูแลคนที่เรารัก แต่ที่มากกว่านั้นมันก็เป็นส่วนของรัฐบาลที่น่าจะทำอะไรให้ดีกว่านี้เร็วกว่านี้ แล้วก็ตอบโจทย์มากกว่านี้ บางทีออกอะไรมามันไม่ค่อยเมกเซนส์แล้วมันจะทำให้คนลำบากไปมากกว่าเดิม อยากให้เขาเร่งทุกอย่างให้มันดีขึ้นและเร็วขึ้น แล้วบางคนอยู่ในจุดที่แบบมันไม่ไหวแล้ว ข่าวแย่ๆ ก็ออกมาเยอะว่าคนท้อและหมดหวัง ตอนนี้เราทำได้แค่ดูแลตัวเอง มากกว่านั้นก็อยู่ที่หน้าที่รัฐบาลแล้วว่าจะจัดการปัญหายังไง”

“โควิดมันเป็นตั้งแต่ปีที่แล้ว จนมาตอนนี้อีก ฉะนั้นก็ต้องฝากความหวังไว้ที่รัฐบาลว่าควรจะต้องทำอะไรที่ตอบโจทย์กับปัญหาที่มันแย่ตอนนี้ได้แล้ว ประชาชนอย่างเราทำได้แค่ดูแลตัวเองและดูแลคนที่อยู่รอบๆ ตัว แต่เราจะไปหาวัคซีนมาฉีดเองก็ทำไม่ได้ รัฐบาลคือความหวังของเรา แล้วเขาอย่าทำให้เราผิดหวัง เพราะเราผิดหวังกับเขามาหลายรอบแล้ว(หัวเราะ)”

“เรื่องวัคซีนมีเวลาเตรียมตัวมานานแล้ว ตอนนี้มันมาถึงจุดพีกที่มีคนตายวันละหลายคน ไหนจะคนที่เวลาจะเข้าไปตรวจแล้วไม่มีตังค์ตรวจอีก ทำไมมันไม่เป็นการให้ตรวจฟรีไปเลยทุกคน บางคนจะไปโทษเขาว่าติดโควิดแล้วทำไมไม่ดูแลตัวเองไม่กักตัวอยู่บ้าน บางทีเขาอาจจะไม่รู้เลยก็ได้ เขาอาจจะเข้าไม่ถึงจุดนี้ ต้องยอมรับว่าบ้านเราการเข้าถึงแต่ละอย่างมันไม่เหมือนกัน มันมีความเหลื่อมล้ำอะไรบางอย่างอยู่”

“ขนาดเรามีรายได้ขนาดนี้ไปตรวจโควิดที่ 4 พัน 7 พันยังรู้สึกว่ามันแพง แล้วคนที่เขาเงินน้อยกว่าเราแต่มีภาระเยอะแยะไปหมด 7 พันสำหรับเขากินข้าวได้เป็นเดือนเลย คิดว่ารัฐบาลควรเข้ามาดูแลตรงนี้ดีๆ เลยเพราะมันเป็นหน้าที่ของเขาที่ต้องดูแลเราค่ะ”

จิรณัฏฐ์ จงประสพมงคล

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน