แผนขจัด คอมมิวนิสต์ จีน(82) – เมื่ออ่าน “วิพากษ์ประธานเหมา” ของ เชาวน์ พงษ์พิชิต ก็จะเข้าใจสถานการณ์ยิ่งขึ้น เมื่อกองทัพปราบขุนศึกภาคเหนือเคลื่อนไปถึงนครเซี่ยงไฮ้ เจียงไคเช็กมีคำสั่งให้จับกุมและสังหารกลุ่มซ้ายทันที
โจวเอินไหลรอดพ้นการถูกจับกุมอย่างหวุดหวิด
กลุ่มซ้ายในเซี่ยงไฮ้จึงต้องสู้รบกับพวกขุนศึกภาคเหนือและพวกเจียงไคเช็กพร้อมๆกัน เพื่อรักษาความปลอดภัยของนครเซี่ยงไฮ้ ในเวลาเดียวกันพวกขุนศึกในท้องที่ภาคตะวันออก ภาคใต้และอื่นๆ
ก็เริ่มลงมือกดดันองค์กรกลุ่มซ้ายทั้งหลาย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่นครปักกิ่งถึงกับเกิดกรณีมีคนจู่โจมเข้าพังสถานทูตโซเวียตและทำร้ายบุคคลกลุ่มซ้าย หลี่ต้าเจาผู้ริเริ่มพรรคคอมมิวนิสต์จีนคนหนึ่งก็ถูกขุนศึกจางจว้อหลินประหารชีวิต
เจียงไคเช็กตั้งรัฐบาลที่นครหนานกิงเมื่อวันที่ 27 เมษายน 1927
บรรดามหาอำนาจตะวันตกพากันรับรองรัฐบาลนี้ว่าเป็นรัฐบาลชอบด้วยกฎหมายเพียงรัฐบาลเดียว นี่คือสถานการณ์อันมีลักษณะ 2 ด้านทางการเมือง
ด้านหนึ่ง เจียงไคเช็กผงาดขึ้น ด้านหนึ่ง พรรคคอมมิวนิสต์ถูกกวาดล้างจับกุม
ยิ่งหากมองบทบาทของเจียงไคเช็กจากมุมของ “กองทัพแดง” จะยิ่งเห็นอย่าง เด่นชัด เจียงไคเช็กได้ตัดสินใจต่อต้านพรรคคอมมิวนิสต์อย่างแน่นอนแล้ว
นอกจากเตรียมการยังจำเป็นต้องได้รับความสนับสนุนจากมหาอำนาจจักรวรรดินิยม
และความสงเคราะห์จากขุนคลังในเจียงซู เจ๋อเจียง ทั้งจำเป็นต้องใช้อิทธิพลของนักเลงหัวไม้ในเซี่ยงไฮ้เป็นเครื่องมือ โดยเริ่มจากวันที่ 26 มีนาคม 1927 นั่งเรือรบจาก อานฮุยถึงเซี่ยงไฮ้
ก็ดำเนินการประชุมลับกับมหาอำนาจ ขุนคลังและหัวหน้านักเลงอันธพาล
สั่งการให้ผู้แทนไปขอขมาต่อสถานกงสุล 5 ประเทศประจำเซี่ยงไฮ้เกี่ยวกับกรณี หนานกิงพร้อมกับประกาศว่าจะจัดการ “แก้ไขกรณีหนานจิง” อย่างรีบเร่ง “ปลดกำลังอาวุธของกรรมกรเซี่ยงไฮ้”
ระงับยับยั้งมิให้เกิดกรณียึดครองเขตเช่าด้วย “การใช้กำลังอาวุธและการจลาจล”
มหาอำนาจจักรวรรดินิยมยุยงส่งเสริมให้ “ปฏิบัติการอย่างรวดเร็วเฉียบขาด” ขุนคลังเจียงซู เจ๋อเจียง ให้ความสงเคราะห์การเงินจำนวนมหึมาหลายล้านหยวน
หวนจินหลง ตู้เย่เซิง หัวหน้านักเลงอันธพาลให้คำมั่นสัญญา
เป็นคำมั่นสัญญาที่จะใช้เหล่าสมุนออกปลดอาวุธของหน่วยรักษาความเรียบร้อย ของกรรมกรเซี่ยงไฮ้ ขณะเดียวกัน เจียงไคเช็กยังเคลื่อนย้ายกองทหารเข้าประจำการในเซี่ยงไฮ้อย่างต่อเนื่อง
เป็นการเคลื่อนย้ายนับแต่ต้นเดือนเมษายนมาแล้ว
นั่นก็คือ การเชิญหลี่จงเหยิน ไป่ฉงซี หวงเซ่าหง หลี่จี้เซิน จางจิ้งเจียง หวูจี้ฮุย หลีสือเฉิง เป็นต้น ร่วมประชุมลับที่เซี่ยงไฮ้ ตกลงให้ใช้วิธีการรุนแรงดำเนินการ “ชำระสะสางพรรค”
เท่ากับเป็นการเตรียมการเพื่อเปิดฉากจู่โจมพรรคคอมมิวนิสต์อย่างเฉียบพลัน
พรรคคอมมิวนิสต์ย่อมล่วงรู้ถึงแผนการร้ายบางอย่างของเจียงไคเช็ก ได้พยายามเสริมความแข็งแกร่งแก่หน่วยรักษาความเรียบร้อยของกรรมกร
แต่คอมมิวนิสต์สากลขณะนั้นยังคงฝากความหวังต่อเจียงไคเช็ก
ปลายเดือนมีนาคม 1927 เฉินตุ๊ซิ่วส่งจดหมายถึงกรรมการเขตเซี่ยงไฮ้เสนอว่า “ต้องผ่อนคลายการคัดค้านเจียงไคเช็ก” อันเท่ากับเป็นการขานรับต่อแนวทางของคอมมิวนิสต์สากล
แล้วทางด้านเจียงไคเช็กและพรรคก๊กมินตั๋งเป็นอย่างไร
วันที่ 1 เมษายน 1927 วังจิงไวเดินทางกลับจากต่างประเทศถึงเซี่ยงไฮ้ก็ได้เจรจาลับกับเจียงไคเช็ก โดยเจียงไคเช็กเสนอให้แยกจากพรรคคอมมิวนิสต์จีนทันที
วังจิงไวห่วงว่าหากทำเช่นนี้อำนาจทั้งหมดจะถูกเจียงไคเช็กรวบเอาไว้
จึงเสนอให้เปิดการประชุมคณะกรรมการกลางพรรคก๊กมินตั๋งอภิปรายข้อเสนอ ของเจียงไคเช็กที่จะให้แยกตัวออกมาจากพรรคคอมมิวนิสต์จีน
ทั้งยังแสดงท่าทีให้เจียงไคเช็กรับทราบว่า
ก่อนเปิดประชุมอาจแจ้งให้เฉินตุ๊ซิ่วแจ้งต่อสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์แต่ละแห่งว่า “ยุติพฤติกรรมทุกอย่างชั่วคราวก่อนรอฟังการตกลงในที่ประชุม”
เท่ากับเจียงไคเช็กพยายามรุก เท่ากับวังจิงไวพยายามต้าน