แฉทหารพม่าถล่มโบสถ์คริสต์ขโมยศพ ชี้เป็นที่พักพิงพลเรือนหนีการสู้รบ

แฉทหารพม่าถล่มโบสถ์คริสต์ขโมยศพ – วันที่ 24 พ.ค. อิรวดีรายงานว่า ศพพลเรือนผู้เสียชีวิต 4 ราย จากการยิงปืนใหญ่ถล่มและบุกโจมตีของกองทัพพม่า ที่โบสถ์คริสต์ซึ่งให้ที่พักพิงแก่พลเรือนหนีการสู้รบในรัฐกะยา ถูกทหารพม่าขโมยไปเก็บไว้ที่ฐานเพื่ออำพรางหลักฐาน

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นที่โบสถ์คริสต์ หมู่บ้านกะยาน ทะยา นครลอยแก้ว เมืองเอกรัฐกะยะ ซึ่งเป็นที่พักพิงของพลเรือนที่หนีภัยสงคราม ต่อมาการสู้รบเกิดขึ้นระหว่างกองทัพพม่ากับกองกำลังพิทักษ์ประชาชน (พีดีเอฟ) ที่ประกอบด้วยกองกำลังชาติพันธุ์ สถาปนาขึ้นโดยรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ ใกล้พื้นที่ดังกล่าวทำให้มีพลเรือนบาดเจ็บอย่างน้อย 8 คน และโบสถ์ถูกถล่มยับเยิน

การต่อสู้กันดังกล่าวเกิดขึ้นต่อเนื่องมาจากปฏิบัติการของพีดีเอฟนำกำลังเข้าโจมตีกองทัพพม่า มีทหารพม่าถูกสังหาร 40 นาย ในรัฐดังกล่าว เมื่อ 21 พ.ค. ที่ผ่านมา

หนึ่งในทหารของพีดีเอฟ ระบุว่า ทราบมาว่าทหารกองทัพพม่านำศพผู้เสียชีวิตที่เป็นพลเรือนไปทิ้งไว้ในพื้นที่ใกล้ฐานที่มั่นนครลอยแก้ว ตอนนี้ไม่มีใครกล้าไปเก็บศพคืนมาเพราะกองทัพพม่าจะยิงทุกอย่างที่เคลื่อนไหวใกล้ฐานทัพ

รายงานระบุว่า สถานการณ์ในรัฐดังกล่าวเลวร้ายลงหลังเผด็จการทหารพม่าสั่งใช้มาตรการเคอร์ฟิวช่วงกลางวันแตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่ด้วย ทำให้หน่วยกู้ภัยไม่สามารถออกไปเก็บกู้ศพผู้เสียชีวิตมาได้ เช่น ที่เมืองฝายขุ่น รัฐฉาน เคอร์ฟิวตั้งแต่ 09.00 น. ขณะที่นครลอยแก้ว เคอร์ฟิวตั้งแต่ 11.00 น.

ที่อันตรายกว่านั้น คือ ประชาชนไม่ทราบข่าวว่าพื้นที่อาศัยของตนมีการใช้มาตรการเคอร์ฟิว เพราะกองทัพพม่าไม่ได้ประกาศอย่างเป็นทางการ ทำให้พลเรือนตกอยู่ในอันตราย

ทหารของพีดีเอฟ ระบุว่า “เมื่อคืนที่ผ่านมามีชายคนหนึ่งออกไปจากบ้านตอนประมาณเที่ยงที่ลอยแก้ว แล้วก็ถูกทหารพม่ายิงตาย จากนั้นทหารจึงประกาศว่าอยู่ระหว่างการเคอร์ฟิว”

ด้านสถานการณ์สู้รบทั่วไปวันนี้ในรัฐกะยา ไม่มีการปะทะขนาดใหญ่เกิดขึ้น แต่ยังมีเสียงปืนดังมาจากฝ่ายกองทัพพม่าเป็นระยะๆ โดยย่านที่อยู่อาศัยตามเมืองนั้นไม่มีพลเรือนอยู่แล้ว ส่วนใหญ่หนีเข้าไปหลบตามป่าเขาเพื่อความปลอดภัย คงเหลือเฉพาะทหารของพีดีเอฟ

ส่วนพยานในพื้นที่ระบุว่า สังเกตพบเครื่องบินลำเลียงร่อนลงจอดที่สนามบินลอยแก้ว คาดว่านำกำลังเสริมมาจากส่วนกลางของกองทัพพม่า

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน