พระมงคลสุนทร (โถม) อดีตพระเกจิดังสุโขทัย – วันอาทิตย์ที่ 30 พ.ค.2564 น้อมรำลึกครบรอบ 100 ปี ชาตกาล “พระมงคลสุนทร” หรือ “หลวงปู่โถม กัลยาโณ” อดีตเจ้าคณะจังหวัดสุโขทัยและอดีตเจ้าอาวาสวัดธรรมปัญญาราม ต.โตนด อ.คีรีมาศ จ.สุโขทัย พระเกจิชื่อดังที่มีวิชาแก่กล้า เก่งด้านวิปัสสนากัมมัฏฐานและพุทธาคม แต่มักเก็บตัวและไม่แสดงออก

มีนามเดิมว่า โถม ขำแย้ม เกิดเมื่อวันจันทร์ที่ 30 พ.ค.2464 ที่หมู่ 3 ต.โตนด อ.คีรีมาศ จ.สุโขทัย พ.ศ.2473 สำเร็จการศึกษาระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 จากโรงเรียนประชาบาล วัดวาลุการาม ต.โตนด อ.คีรีมาศ จ.สุโขทัย

อายุ 20 ปีบริบูรณ์ เข้าพิธีอุปสมบท วันที่ 17 เม.ย.2484 ที่พัทธสีมาวัดวาลุการาม ต.โตนด อ.คีรีมาศ จ.สุโขทัย ซึ่งเป็นวัดบ้านเกิด โดยมีพระครูคีรีมาศเมธี วัดวาลุการาม เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายา กัลยาโณ

มุ่งมั่นตั้งใจศึกษาพระปริยัติธรรมอย่างแข็งขัน ในปี พ.ศ.2488 สอบได้นักธรรมชั้นโท สำนักศาสนศึกษาวัดวาลุการาม ต.โตนด อ.คีรีมาศ จ.สุโขทัย

สร้างคุณูปการแก่เมืองสุโขทัยหลายด้านมากมาย อาทิ การพัฒนาด้านการ พระศาสนา ด้านการศึกษา ด้านสาธารณสุข ด้านประเพณีวัฒนธรรมท้องถิ่น ตลอดทั้งสาธารณประโยชน์ต่างๆ

สนับสนุนส่งเสริมประเพณีวัฒนธรรมพื้นบ้าน ปลูกฝังความรัก ความเข้าใจ เห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกันภายในชุมชน โดยให้ประชาชนร่วมกันลงแขกเกี่ยวข้าว ทำไร่ ทำนา ทำบุญกลางหมู่บ้าน ทอดกฐิน ผ้าป่า งานอุปสมบทหมู่

ส่งเสริมการจัดประชุมพระสังฆาธิการทุกระดับและทุกรูปในเขตปกครอง ทุกวันขึ้น 7 ค่ำ ของทุกเดือนเป็นประจำทุกปี เพื่อร่วมกันแก้ไขและปรับปรุงงานคณะสงฆ์ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย

นอกจากนี้ ยังได้สร้างศาลาการเปรียญ ก่อสร้างกุฏิ ก่อสร้างศาลาธรรมสังเวช ก่อสร้างอุโบสถ ก่อสร้างศาลาอเนกประสงค์ หอสวดมนต์ หอระฆัง และกำแพงอุโบสถ ให้กับวัดต่างๆ ในพื้นที่ เป็นจำนวนมาก

รวมทั้งจัดให้ทุกวัดจัดการเรียนการสอนพระปริยัติธรรมแก่พระภิกษุสามเณร โดยหากวัดแห่งใดไม่มีความพร้อมในการสอนได้ ก็จะให้พระภิกษุสามเณรไปเรียนกับสำนักเรียนที่มีการเรียนการสอน แบบเช้าไปเย็นกลับ ถ้าไม่สามารถส่งไปเรียนได้ ให้เจ้าคณะตำบลมอบหมายให้เจ้าอาวาสหรือพระภิกษุสามเณรผู้ที่มีความสามารถสอน จัดการเรียนการสอนขึ้นภายในวัดนั้นๆ แทน

โดยจะออกตรวจเยี่ยมตามสำนักเรียนนักธรรมอยู่เป็นประจำ เพื่อคอยให้คำปรึกษาแนะนำแก้ไขปัญหาแต่ละสำนักเรียนทุกเดือน พร้อมทั้งจัดอุปกรณ์การเรียนการสอนเพิ่มเติมให้แก่สำนักเรียนที่ขาดแคลน

เป็นพระที่สวดปาติโมกข์ ได้อย่างไพเราะ เนื่องจากมีเสียงดังกังวานเป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของญาติโยมที่ได้สดับฟัง นอกจากนี้ ท่านยังมีความชำนาญในการปั้นพระพุทธรูปและการหล่อระฆัง โดยได้ปั้นพระพุทธรูปและหล่อระฆัง มอบให้กับวัดทั้งในจังหวัดสุโขทัย และวัดในเขตพื้นที่ติดต่อกับสุโขทัยเป็นจำนวนมาก

ผลงานด้านการสาธารณสงเคราะห์ จัดซื้อที่ดินจำนวน 31 ไร่ 3 งาน สร้าง โรงพยาบาลคีรีมาศ โดยไม่ใช้งบประมาณของทางราชการ และยังจัดสร้างสถานีอนามัย พร้อมทั้งจัดซื้ออุปกรณ์การแพทย์ มอบให้กับทางโรงพยาบาลคีรีมาศ รวมทั้งจัดสร้างที่อ่านหนังสือพิมพ์ประจำหมู่บ้าน และสร้างถนนทางเดินระหว่างหมู่บ้านและวัดอีกหลายแห่ง

ลำดับงานปกครอง พ.ศ.2490 เป็นรองเจ้าอาวาสวัดวาลุการาม พ.ศ.2491 เป็น เจ้าคณะตำบลโตนด พ.ศ.2501 เป็นพระอุปัชฌาย์ พ.ศ.2508 เป็นเจ้าคณะตำบล ทุ่งหลวง พ.ศ.2516 เป็นเจ้าคณะอำเภอคีรีมาศ

พ.ศ.2519 เป็นเจ้าอาวาสวัดธรรมปัญญาราม พ.ศ.2542 เป็นเจ้าคณะจังหวัดสุโขทัย

พ.ศ.2547 เป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดสุโขทัย

ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.2540 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรเจ้าคณะอำเภอ ชั้นพิเศษที่ พระครูพิลาศธรรมคุณ

พ.ศ.2543 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญที่ พระมงคลสุนทร

ก่อนจะถึงวาระสุดท้าย ได้ฝากให้คณะศิษยานุศิษย์ ช่วยกันสะสางงานก่อสร้างศาลาการเปรียญที่ยังคั่งค้าง ให้แล้วเสร็จด้วย

จากนั้น จึงได้หลับตาลงพร้อมท่องสวดมนต์เบาๆ ละสังขารด้วยอาการสงบ ใบหน้ามีรอยยิ้ม คล้ายดั่งกับคนนอนหลับตามปกติเท่านั้น

เมื่อวันพุธที่ 6 ต.ค.2548 สิริอายุ 84 ปี พรรษา 64

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน